บทที่ 6 ข้อตกลง
“ไปเสพสมกับนางกันเถอะ”
“แต่เจ้าก็รู้ หากเกิดอะไรขึ้นในโลกมนุษย์ไม่มีทางที่ท่านผู้นั้นจะไม่รู้...”
“เจ้ากลัวหรือไง...”
ฉินซีพูดขึ้นก่อนจะมองหน้า ซีห่าวที่กระตุกยิ้ม มองกันด้วยสายตาที่เข้าใจกันและกัน
“ก็แค่โทษไม่กี่ร้อยปีไม่ใช่หรือไง...”
ห้องนอนจางลู่เสียน
ซีห่าวและฉินซีทั้งสองตอนนี้กำลังจ้องคนที่นอนหลับอยู่ ใบหน้าของฟางเซียนที่มีวิญญาณของเหมยเข้าไปอยู่ ทำไมนางในตอนนี้ดูหน้ามองยิ่งกว่า ฟางเซียนเสียอีก
“จะปลุกหรือไม่”
“ปล่อยให้นางพักเถอะ นางคงเหนื่อยจริง ๆ”
ฉินซีพูดจบก็นั่งลงบนเตียงก่อนจะใช่มือลูบหัวลู่เสียนก่อนจะเผลอยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
“นางไม่ใช่ฟางเซียน ของเจ้า”
“ข้ารู้...”
“หญิงชั่วอย่างนางชั่งทำให้ลุ่มหลงง่ายนัก” ซีห่าว
“เป็นเจ้าเองที่ตามดูนางจนเกิดลุ่มหลงในตัวนางไม่ใช่หรือไง” ฉินซี
“.........”
นั่นสิ ทำไมเป็นเขาเองที่ลุ่มหลงในตัวนาง
“กลายเป็นว่าข้ากับเจ้ามานั่งเฝ้านางหลับ แทนที่จะได้เสพสม” ซีห่าว
“พานางกลับไปด้วยดีหรือไม่” ฉินซี
“หากนางไปแล้วผู้ใดเล่าจะอยู่แก้ใคร คำสาปของเจ้ากัน” ซีห่าว
งืมมมม
ลู่เสียนที่นอนส่งเสียงออกมาอย่างรำคาญใจ เพราะเสียงเทพสององค์ที่พูดคุยรบกวนนาง
“เหอะ เกรงว่าข้ากับเจ้าคงจะไม่ได้กินนางแล้ว” ฉินซี
“จิ้งจอกเฒ่า” ซีห่าว
ฉินซีและซีห่าว ใช้มนต์พรางตัวทันที เพื่อไม่ให้องครักษ์ของฮ่องเต้เห็น แต่ทั้งสองยังคงมองทุกการกระทำของคนที่กำลังจะเข้ามา ก่อนจะมองหญิงสาวที่อยู่บนเตียงพร้อมถอนหายใจออกมา ควรจะให้นางเตรียมตัวสินะ
“หญิงชั่ว จงตื่นได้แล้ว”
เฮือกก
ลู่เสียนสะดุ้งขึ้นมาจากเตียงอย่างร้อนรน เสียงท่านซีห่าว?? หรือนางจะหูเพี้ยนไป จำได้ว่ากังวลเรื่องท่านเทพจนหลับไป ลู่เสียนใช้มือลูบอกเพื่อปลอบตัวเอง เตียงโบราณแบบนี้ช่างแข็งชะมัด ยิ่งหมอนทำจากหินหรือไง!!!
“ข้าคิดถึงพวกท่านจนเอามาฝันเลยหรอ”
เทพทั้งสองมองการกระทำของนาง ที่ตอนนี้ลุกขึ้น บิดกายไปมาด้วยท่าทางประหลาด
“ไม่ได้เล่นโยคะมานานแค่ไหนแล้วนะ”
“นางคงไม่ได้เป็นอะไรใช่หรือไม่ เหตุใดบิดกายไปมาเช่นนั้น”
ทั้งสองมองลู่เสียนที่ทำท่าทางประหลาด ก่อนจะรู้สึกได้ถึงคนที่เข้ามา เป็นชายชุดดำ สองคน กำลังยืนมองลู่เสียนที่ทำท่าทางประหลาด
“ว๊าย!!!”
ลู่เสียนที่เล่นโยคะ ร้องเสียงหลงทันทีที่หันหน้าไปเห็นองครักษ์เงา ที่ยืนมองนางอยู่ ลู่เสียนกลับมายืนท่าทางสำรวม องครักษ์เงาได้แต่พูดในใจว่า บุตรสาวแม่ทัพจางแท้จริงเป็นสตรีเช่นใดกันแน่
“คุณหนู ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ข้าพาท่านเข้าวังโดยด่วน”
ชายชุดดำคนหนึ่งโผล่มาตรงหน้านาง พร้อมบอกเหตุผลที่มา ลู่เสียนประเมินเหตุการณ์คงไม่พ้นองค์ชายห้าเอาเรื่องที่นางรักษาไปกราบทูลเป็นแน่ หึ ก็ดีเหมือนกันนางจะได้ไม่ต้องหาทางเข้าหาองค์ชายที่เหลือให้เหนื่อย
“พาข้าไป”
วังหลวง
ลู่เสียนถูกพาตัวเข้าวังอย่างเงียบ ๆ โดยองครักษ์เงาส่งนางที่หน้าห้องหนึ่งก่อนจะหายไปพูดทิ้งท้ายเพียงให้นางเดินเข้าไปเอง ลู่เสียนตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องพบเหล่าองค์ชายและฮ่องเต้ที่นั่งรอนางอยู่ก่อนแล้ว เมื่อนางย่างกายเดินเข้าไปหยุดยืนกลางห้องเสียงที่เคยพูดคุยก็เงียบลง ตอนนี้นางตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน นางกวาดตามองรอบ ๆ เพื่อหาองค์ชายห้าแต่ไม่พบ แล้วสายตาของลู่เสียนก็ไปหยุดที่บุรุษคนหนึ่งนางคาดว่าน่าจะเป็นองค์ชายเช่นกัน หน้าตาหล่อเหลามองมาที่นางอย่างคาดโทษ ประทานโทษเถอะ รู้จักข้าหรือไง!!!
“จางลู่เสียน ลูกสาวแม่ทัพจางหรือ”
“เพคะ”
“ได้ยินว่าเจ้าป่วย ตอนนี้คงหายแล้วกระมังถึงรักษาลูกห้าหายแบบนี้ ฝีมือการแพทย์ของเจ้าน่าชื่นชมยิ่ง”
ลู่เสียนได้แต่ก้มหน้าไม่ตอบอะไร เป็นไปตามที่นางคาดเดา องค์ชายห้าคงบอกเล่าเรื่องทั้งหมดแล้ว ที่หาไม่เจอคงจะหลบหน้านางสินะ ศิษย์ไม่รักดี!!!
“ในเมื่อเจ้ามาแล้ว สีหน้าเจ้าตอนนี้ไม่ดี อาการป่วยคงจะกลับมา เห็นแก่แม่ทัพจางข้าจะให้เจ้าอยู่รักษาตัวที่นี่ ให้หมอหลวงดูแลเจ้าจนกว่าเจ้าจะหาย”
หึ จิ้งจอกเฒ่า จงใจขังนางไว้ให้รักษาลูกตัวเองโดยอ้างอาการป่วยของนางสินะ!!!
“ขอให้มีรับสั่งให้องค์ชายทั้งหมดและเงาขององค์ชายออกไปก่อนได้ไหมเพคะ หม่อมฉันทีเรื่องสำคัญต้องกราบทูลเพคะ”
ในเมื่อจะรั้งข้าไว้ ก็ต้องเป็นข้าที่ได้ประโยชน์ จางลู่เสียนคนนี้หาใช่คนที่จะมาบังคับง่าย ๆ
“พวกเจ้าออกไปก่อน”
สิ้นเสียงฮ่องเต้ องค์ชายทั้งหมดออกไปจากห้อง ตอนนี้ภายในห้องเหลือเพียง ลู่เสียนและฝ่าบาทพร้อมขันที
คนสนิท
“ฝ่าบาททรงกักขังหม่อมฉันไว้เพียงเพื่อให้รักษาเหล่าองค์ชายใช่ไหมเพคะ”
“หึ ทำไมมองความหวังดีของเราเป็นเช่นนั้น เราแค่เห็นเจ้าเหมือนจะไม่สบายหนัก บางทีระหว่างทางกลับเจ้าอาจจะเป็นลมพลัดตกบันได จนขาทั้งสองข้างใช้งานไม่ได้....เพราะฉะนั้นจงสงบปากไว้”
เสียงฮ่องเต้แม้จะฟังดูราบเรียบไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่หากฟังดีดี ในประโยคนั้นแฝงไปด้วยคำขู่ หากนางคิดก้าวขาออกจากที่นี่ เขาเองจะทำให้นางไม่เหลือแม้แต่ขาจะเดิน
“อย่าทรงขู่หม่อมฉันเลยเพคะ หม่อมฉันเคยเจอคนที่น่ากลัวกว่าท่านมาแล้ว หม่อมฉันแค่อยากบอกว่าเรามาทำข้อตกลงกันเถิดเพคะ”
“ข้อตกลง???”
“หม่อมฉันจะรักษาองค์ชายอีกหกพระองค์จนให้กำเนิดองค์ชายและพระธิดา หากแต่ฝ่าบาททรงยอมทำตามข้อเรียกร้องของหม่อมฉันเพียงสี่ข้อ”
ฮ่องเต้ได้แต่แปลกใจที่จางลู่เสียนตรงหน้าเปลี่ยนไป หากเป็นเมื่อก่อนแม้จะยื่นข้อเสนออะไรนางก็ไม่ยอมตกลง จนเขาต้องใช้ไม้แข็งเป็นวิธีข่มขู่แบบนี้ แต่หากนางยอมรักษาข้อเสนอของนางย่อมยอมรับได้
“ข้อหนึ่งระหว่างที่หม่อมฉันทำการรักษาและใช้ชีวิตอยู่ในวัง หม่อมฉันมิต้องทำตามกฎใดใด แม้ทำผิดพระองค์ต้องทรงออกหน้าปกป้อง ไม่สามารถมีผู้ใดสั่งได้ รับคำสั่งเพียงฝ่าบาทเท่านั้น”
“ได้”
“ข้อสอง หม่อมฉันจะสามารถเลือกคู่ครองด้วยตนเองได้ แม้ฝ่าบาทก็ไม่อาจประทานสมรสได้”
“ได้”
“ข้อสาม ข้าต้องมีที่สำหรับรักษา สถานที่แห่งนั้นไม่อาจมีผู้ใดเข้าไปได้หากข้าไม่อนุญาตเนื่องจากการรักษาของข้าเป็นสูตรลับไม่อาจที่จะให้ใครรู้ได้”
“ได้”
“ข้อสี่ หลังจากที่รักษาตามสัญญาแล้ว จะทรงปล่อยหม่อมฉันไปและจ่ายข้ารักษาตามที่ข้าเรียกร้อง”
“ย่อมได้ ข้านึกว่าเจ้าจะขอให้ข้าพาพ่อและพี่เจ้ากลับมาซะอีก”
ฮ่องเต้มองลู่เสียนที่ทำหน้านิ่ง ไม่หวั่นไหวอะไรกับสิ่งที่พูดไป น่าสนใจดีนิ จางลู่เสียนเจ้าไปกินหัวใจหมีมาหรือไงถึงได้ใจกล้าเจ้าเล่ห์ขนาดนี้
“หม่อมฉันขอความเป็นมาทั้งหมดที่ทำให้เหล่าองค์ชายให้กำเนิดบุตรไม่ได้เพคะ”
