บทที่ 1 INTRO คนเย็นชา
ลลิล
ชื่อของฉันมันช่างใสซื่อ ต่างจากนิสัยสิ้นเชิง
ถ้าเราได้ตกหลุมรักใครสักคน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเจอกับอะไรก็พร้อมจะเสี่ยงทั้งนั้น
“ลิลจะออกไปไหน?” เสียงของพี่ชายเพียงคนเดียวของฉันท้วงขึ้นมา เฮียเฟยคือพี่ชายที่ดูแลฉันดีมาก ๆ
“หนูจะไปอู่น่ะเฮีย ^_^”
“ไปอู่?” เฮียเฟยขมวดคิ้วก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้า แล้วถามต่อ “ถามกี่ครั้งก็ไปอู่ ไปทำไมบ่อยขนาดนั้น”
“รถเสียค่ะ”
“จะเสียได้ยังไงเฮียเพิ่งจะออกคันใหม่ให้ไม่กี่เดือนนี้เองนะ”
“เอาน่าเฮีย ต้องรีบไปทำงานใช่ไหมคะ ไปสิไปเร็ว ๆ เลย” ฉันดันตัวเฮียให้เดินออกไปจากบ้าน จนถูกสายตาของเฮียมองค้อนแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
บ้านหลังนี้ฉันอยู่กับเฮียเฟยสองคน ส่วนคุณพ่ออยู่ที่ต่างประเทศ ดูแลบริษัทที่นั่นและมอบหมายให้เฮียดูแลธุรกิจที่ไทย ส่วนฉันก็อยู่ในขั้นตอนการศึกษางานที่บริษัท แต่เอาตามความจริงฉันแทบจะไม่ได้เข้าบริษัทเลยตั้งแต่กลับมาไทย ส่วนมากจะไปที่อู่ซ่อมรถน่ะ
คงสงสัยใช่ไหมล่ะว่าไปทำไมที่อู่ ก็เพราะหัวใจของฉันอยู่ที่นั่นยังไงล่ะ
ตอนนี้ฉันกำลังตามจีบเด็กคนนึง เขาเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งชื่อตุลอยู่ เขาเป็นเพื่อนแฟนยัยแพรเพื่อนของฉัน ครั้งแรกที่ได้เจอกันเขามาปาร์ตี้ที่บ้านฉันพร้อมกับแฟนของยัยแพร วันนั้นทำให้รู้ว่าหัวใจมันไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป
ฉันพูดกับตัวเองที่หน้ากระจกทุกวันก่อนนอนว่าจะพิชิตใจเด็กที่ชื่อตุลคนนี้ให้ได้!!
แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก เพราะเขาทำเมินอย่างกับฉันเป็นขยะ
“นี่ ๆ นายสองคนน่ะมานี่หน่อย” ฉันกวักมือเรียกลูกน้องของเฮียให้มาหา สองคนนั้นรีบวิ่งมาทันที
“ครับคุณหนู”
“ทำยังไงก็ได้ให้รถเสีย เดี๋ยวฉันจะเอาไปซ่อม”
“… ครับ?” พอได้ยินคำสั่งของฉันดูเหมือนว่าทั้งคู่จะงุนงงไม่น้อย
“บอกว่าทำให้รถฉันเสียไง จะทุบจะขูดสี ทำยังไงก็ได้ให้มันเสียน่ะ แบบติด ๆ ดับ ๆ ก็ได้”
“แต่ว่า…”
“อยากโดนไล่ออกหรือไง ฉันสั่งก็รีบไปทำซะสิ ยืนงงอยู่ได้ เร็ว ๆ ฉันรีบไปอู่!!” สองคนนั้นรีบวิ่งไปที่รถ ส่วนฉันก็นั่งรออย่างใจเย็น
ฉันให้คนไปสืบมาแล้วว่าตุลมีเรียนวันไหนบ้างแล้วกลับมาที่อู่ช่วงเวลาไหนบ้าง รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นบ้า แต่ฉันไม่สามารถควบคุมความรู้สึกได้ นี่มันคือครัังแรกเลยที่ฉันรู้สึกชอบใครสักคนแล้วอยากได้เขามาเป็นแฟนมากขนาดนี้
อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาไม่เจอคนที่ใช่บวกกับฉันตั้งใจเรียนที่ต่างประเทศให้จบตามที่พ่อต้องการ พอกลับมาไทยได้มาเจอคนที่ใช่ก็ไม่อยากจะปล่อยให้หลุดมือไปเพราะตอนนี้อายุของฉันก็ใกล้จะสามสิบแล้ว ถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบนี้คงได้ขึ้นคานแน่ ๆ
ฉันขับรถที่สภาพไม่ค่อยดีนักออกจากบ้าน เล่นเอาหงุดหงิดที่รถมันติด ๆ ดับ ๆ ตลอดทาง กว่าจะขับมาถึงที่อู่ก็ใช้เวลาเกือบจะสองชั่วโมง
#อู่ซ่อมรถ
“ตุลดูรถให้พี่หน่อยสิรถเป็นอะไรไม่รู้ติด ๆ ดับ ๆ” ฉันนั่งอยู่บนหน้ากระโปรงรถของตัวเองด้วยท่าทางที่ยั่วยวนพร้อมกับตะโกนบอกเสียงหวาน
“วันก่อนแอร์เสีย เมื่อวานยางรั่ว วันนี้ติด ๆ ดับ ๆ ถ้าจะเป็นบ่อยขนาดนี้แนะนำให้ซื้อใหม่!!” เขาบอกแบบไม่สบอารมณ์ คงจะดูออกมาฉันจงใจมาเจอ
“จะซื้อใหม่ให้เปลืองเงินทำไม พี่ชอบรถคันนี้นะมีปัญหาบ่อยดี ^_^”
“ไม่ชอบคนแก่… มากประสบการณ์”
คำพูดของตุลทำให้ฉันหน้าเหวอกันเลยทีเดียว ครั้งแรกที่มีคนพูดว่าฉันแก่ แถมยังบอกว่ามากประสบการณ์อีก ฉันยังบริสุทธิ์อยู่นะไอ้เด็กบ้า!!
“ตุลแซวแรงจัง” ฉันยิ้มแห้งกลบเกลื่อน
“เอาไปซ่อมอยู่อื่น งานเยอะไม่รับ” เขาบอกอย่างเฉยชาก่อนจะเดินหนีฉันจึงรีบวิ่งมาดักหน้า
“รถไม่ค่อยดีจะให้ขับไปได้ยังไง นี่มันก็ใกล้จะค่ำแล้วนะพี่ไม่รู้จักอู่ที่อื่นเลย”
“มีปัญญาขับมาได้แต่ไม่มีปัญญาขับไป?” ทำไมถึงปากร้ายขนาดนี้กันนะ!!
“ดูให้หน่อยนะ นะ ๆ” ฉันใช้ไม้ตายคือการเดินเข้าไปใกล้ ๆ แต่แค่ก้าวขาเขาก็ถอยหนีแล้ว ทำเหมือนว่ารังเกียจฉันมากอย่างนั้นแหละ
ตุลพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ “ถ้าอยากให้ดูก็ถอยไป ห้ามเข้ามาใกล้ ๆ ไปนั่งไกล ๆ”
“โอเคพี่จะนั่งตรงนั้นนะ ^_^” ฉันชี้ไปยังโต๊ะหินอ่อน ตุลไม่ตอบอะไรเดินไปที่รถแล้วเปิดฝากระโปรงดู
ฉันมองแผ่นหลังกว้างอย่างหลงไหล มีเสน่ห์ดึงดูดมาก ๆ ในตอนที่เขากำลังซ่อมรถ มองยังไงก็ไม่เบื่อเลย ยิ่งเห็นฉันก็ยิ่งตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่า
จะถอนตัวยังไงได้ในเมื่อชอบเขามากขนาดนี้ ถึงรู้อยู่เต็มอกว่าเขารำคาญสิ่งที่ฉันทำมากขนาดไหน…
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงตุลเดินมาพร้อมกับมือที่คีบมวนบุหรี่อยู่ ฉันเป็นคนที่เหม็นกลิ่นบุหรี่มากนะแต่พยายามไม่แสดงออกเพราะอยากอยู่ใกล้เขา
“อาทิตย์หน้ารถถึงจะเสร็จ โทรบอกให้คนที่บ้านมารับกลับแล้วกัน”
“ตุลไปส่งพี่ไม่ได้เหรอ พ… พี่ลืมเอาโทรศัพท์มาน่ะจำเบอร์ใครไม่ได้ด้วย”
“ขึ้นรถ” ตุลเดินไปเปิดประตูรถตัวเอง
“หื้อ จะไปส่งพี่จริง ๆ เหรอ?” ฉันถามอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขาจะไปส่งที่บ้านจริง ๆ เหรอ ปกติปฏิเสธตลอด วันนี้ทำไมถึงใจดีแบบนี้กัน
“บอกให้มาขึ้นรถ”
ไม่มีเวลาคิดอะไรมาก ฉันรีบวิ่งไปขึ้นรถเมื่อได้ยินเสียงของตุลตวาดบอก มันดีใจแทบบ้าแน่ะ ถือว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ บางครั้งเขาอาจจะยอมเปิดใจให้ฉันแล้วก็ได้
“เราไปหาอะไรกินกันก่อนดีไหม?”
“ไม่หิว”
“หรือตุลอยากไปดื่ม พี่ไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนได้นะ…”
“ไม่จำเป็น”
เขาปฏิเสธทุกอย่างที่ฉันพูด ให้มันได้แบบนี้สิ ชิ!!
รถของตุลขับออกมาจากอู่โดยที่ฉันปิดปากเงียบเพราะกลัวเขาจะรำคาญอีก ตุลเคยไปบ้านฉันครั้งหนึ่งเขาคงจะจำทางได้
พอขับรถออกมาจากซอยจู่ ๆ เขาก็เลี้ยวรถมาอีกทางแทนที่จะขับไปอีกทางฉันจึบรีบท้วง
“บ้านพี่ไปทางนั้นนะตุล” เขาคงจะลืม ไม่ได้สนใจสินะ
ตุลไม่ตอบอะไร เขาขับรถมาเรื่อย ๆ แล้วจอดตรงที่มีรถแท็กซี่จอดเรียงกันอยู่หลาย ๆ คัน
“จอดทำไม?” ฉันถาม
“ลงไป”
“ล… ลงไปไหน”
“ขึ้นแท็กซี่กลับ”
เป็นอีกครั้งที่หน้าฉันมันชาหนึบ ไม่คิดว่าจะถูกปล่อยลอยแพแบบนี้ ที่จินตนาการไว้คือเขาต้องไปส่งที่บ้านสิ แบบนี้มันโคตรใจร้ายเลยนะ ถ้าให้ขึ้นแท็กซี่กลับจะให้นั่งรถมาด้วยทำไมกัน จะทำให้ฉันมีความหวังทำไม
“ใจร้าย!!” ฉันพูดกับตุลแต่เขาไม่แม้แต่จะหันมอง
“รีบลงไปซะมีธุระต้องรีบไปต่อ เสียเวลาชะมัด” เขาพูดแบบไม่รักษาน้ำใจกันเลย
