บทที่ 2 เด็กมันร้าย - 1 เล่นกับไฟ 🔥
ฉันเปิดประตูลงมาจากรถด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดแต่ก็ต้องปั้นหน้ายิ้มให้กับกระจกรถของตุลให้เขาเห็นว่าฉันน่ะโอเค แค่โดนไล่ลงจากรถไม่เห็นจะเป็นอะไร
“ขับรถดี ๆ นะ ^_^” ฉันโบกมือให้กับกระจกรถสีดำสนิท
พอรถของตุลขับห่างออกไปฉันก็ระเบิดอารมณ์ออกมาด้วยการเตะเข้าไปที่ถังขยะแรง ๆ โดยลืมคิดว่ามันสกปรกแค่ไหน
“คอยดูเถอะไอ้เด็กบ้า! เห็นว่าฉันชอบแล้วจะปล่อยทิ้งปล่อยขว้างที่ไหนก็ได้หรือไง”
“ไปไหนดีครับ” พี่แท็กซี่เดินมาถามฉัน
“ไม่ไปไหนทั้งนั้น จะให้คนขับรถที่บ้านมารับเข้าใจนะ” ฉันบอกคนขับแท็กซี่จากนั้นก็เดินห่างออกมา
ตรงนี้มีแต่ผู้ชายท่าทางน่ากลัว ๆ กล้าปล่อยผู้หญิงสวย ๆ แบบฉันไว้ได้ยังไง ไม่ชอบก็น่าจะเป็นห่วงกันบ้างสิ
รอไม่นานหลังจากที่โทรบอกให้คนขับรถมารับ ฉันสั่งให้คนขับรถพามาที่คลับของเฮียเฟยเพราะปกติเป็นคนนอนดึก การมาคลับถือว่าได้ผ่อนคลายอารมณ์ที่อึดอัดในใจ
ฉันไม่มีเพื่อนสมัยเรียนเลยสักคนที่ไทย เพื่อนส่วนมากจะเป็นต่างชาติเพราะฉันเรียนที่นู้น มีแค่แพรที่เป็นเพื่อนที่รู้จักกันแต่ตอนนี้แพรมีแฟนแล้วฉันก็ไม่อยากรบกวน
“ทำไมไม่โทรมาบอกเฮียก่อนว่าจะมา” เฮียเฟยเดินมาหาฉันที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะวีไอพี
“หนูกลัวว่าเฮียจะยุ่ง ๆ อยู่ก็เลยไม่ได้บอกก่อนน่ะค่ะ”
“อย่าดื่มเยอะเดี๋ยวเมาขี้เกียจแบกกลับบ้าน” ถ้าถามว่าในโลกนี้ใครรู้ใจฉันมากที่สุดก็คงต้องยกให้กับพี่ชายคนนี้เลย
“รับทราบค่ะ หนูจะไม่เมา ^_^”
“เดี๋ยวเฮียต้องไปเคลียร์งานต่อ จะสั่งให้ลูกน้องมาคอยดูแลก็แล้วกัน”
“ไม่เอา ๆ หนูอยากนั่งคนเดียว มีลูกน้องเฮียมาคอยเฝ้ามันอึดอัดนะ”
“อยู่คนเดียวถ้ามีผู้ชายมาเกาะแกะจะทำยังไง”
“หนูจัดการได้น่าเฮียไม่ต้องห่วงนะคะ ^_^”
เฮียยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของฉันก่อนจะส่ายหัวไปมาแล้วเดินไป ฉันชินกับการดื่มคนเดียวแล้วแหละ
“ขอชนแก้วหน่อยได้ไหมครับคนสวย” ฉันหันมองชายที่ยื่นแก้วมาตรงหน้า อุตส่าห์เลือกนั่งโซนที่ไม่มีคนพลุกพล่านแล้ว ความสวยของฉันมันคงจะสะดุดตาผู้ชายมากเลยสินะ
แล้วทำไมคนที่ฉันตามจีบถึงไม่หลงในความสวยของฉันบ้างล่ะ ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย!!
ฉันมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่สนใจก่อนจะหันหน้าหนีทำเหมือนเขาเป็นแค่อากาศทำให้ชายคนนั้นหน้าเสีย ในขณะที่กำลังมองดูอะไรเพลิน ๆ สายตาของฉันดันเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง
แม้จะอยู่ในระยะที่ไกลขนาดนี้แต่ฉันก็จำได้แม่นว่านั่นคือ ‘ตุล’ เด็กที่ฉันกำลังตามตื้ออยู่
พอเห็นว่าเป็นตุลจริง ๆ ฉันก็ยิ้มออก แบบนี้สิที่เขาเรียกว่าพรหมลิขิต
ฉันหยิบแก้วเหล้าของตัวเองมาแล้วรีบเดินไปยังโต๊ะที่ตุลนั่งอยู่คนเดียวทันที
“มาคนเดียวเหรอ” ฉันนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวที่วางอยู่ใกล้ ๆ กับเขา พอเด็กนี่หันมาเจอกับหน้าฉันเขาก็แสดงอารมณ์ไม่พอใจออกมาให้เห็นชัดเจน
“ตาม?” เขาเลิกคิ้วถาม
“เปล่า พี่ไม่ได้ตามนะมันคือพรหมลิขิตต่างหาก ^_^”
“ลุกขึ้นไป เดี๋ยวเพื่อนมามันเกะกะ”
“ขอนั่งด้วยจนกว่าเพื่อนจะมาได้หรือเปล่า?”
“ไม่ได้” เขาปฏิเสธเสียงแข็งเลยทีเดียว
“นี่ มีผู้ชายมาจีบพี่ด้วยนะตุลช่วย…”
“แล้วยังไง บอกทำไม?” จุกในอกกับอาการเมินของเขาอีกแล้วสิฉัน
“พี่แค่อยากให้ตุลช่วยแกล้งมาเป็นแฟนให้หน่อยเท่านั้นเอง” จริง ๆ คำพูดนี้ฉันขอเพื่อสนองตัวเองต่างหาก
“ธุระ?”
จึก!!! เหมือนมีอะไรบางอย่างมาทิ่มกลางใจของฉันแรง ๆ คุยกับผู้ชายคนนี้ทีไรเขามักจะมีคำพูดทำให้ฉันจุกตลอดเวลาเลย
“จ้างเป็นแฟนวันละแสน ถ้าตกลงก็เอาเลขบัญชีมาพี่จะโอนให้”
ฉันตั้งค่าหัวไว้มากขนาดนี้เชียวนะ เขาต้องสนใจหน่อยแหละ อย่างน้อยการมาเป็นแฟนฉันมันก็คงจะดีกว่าการนั่งซ่อมรถไปวัน ๆ ได้ตั้งวันละแสนเชียวนะ
“ชอบซื้อกิน?”
“เปล่า พี่แค่อยากให้ตุลลองเปิดใจบ้างเท่านั้นเอง”
“ไร้สาระ!”
“พี่ชอบตุลจริง ๆ นะ”
ตุลลุกขึ้นหนีไปทำเอาฉันหน้าเหวอเดินคอตกกลับมาที่โต๊ะของตัวเอง
ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกทำให้ต้องมารักคนที่เขาไม่ได้รักฉันด้วย มันเจ็บนะความรู้สึกแบบนี้น่ะ
ฉันนั่งดื่มคนเดียวพลางมองโต๊ะของคนที่ชอบ เขามาดื่มกับเพื่อน ในตอนที่ฉันจับจ้องไปที่เขาอยู่แทบจะตลอดเวลา แต่เขาไม่เคยหันมามองฉันเลยแม้แต่หางตา
ฉันเห็นว่าตุลเดินแยกตัวออกไปจากเพื่อนจึงรีบตาม รู้แหละว่าการตามแบบนี้เขาต้องหงุดหงิด แต่มันห้ามใจไม่ได้
ฉันเดินตามออกมาจากคลับ เห็นว่าเขากำลังเดินมาที่รถจึงรีบตะโกนถาม
“จะกลับแล้วเหรอ คลับยังไม่ปิดเลยนะกลับเร็วจัง”
ตุลหยุดเดินแล้วหันมามอง เขานิ่งไปสักพักก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าของฉัน “บอกไปแล้วว่าไม่ชอบ เลิกตื้อสักทีน่ารำคาญฉิบหาย!!”
“เราลองมาเป็นแฟนกันสักหนึ่งอาทิตย์ดูก็ได้ ถ้าตุลไม่ชอบพี่จะไม่ตื้อแล้ว” ฉันพยายามยื้อความรู้สึกต่อ ขอแค่ให้เขาเปิดใจฉันพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเขาจริง ๆ
ทั้งที่เขาไม่เคยทำตัวดี ไม่เคยทำอะไรให้ประทับใจ แต่ฉันกลับหลงจนไม่สามารถถอดใจได้ นี่สินะที่เขาเรียกว่าความรู้สึกของรักแรกพบ
“แล้วทำอะไรได้บ้าง?” เขาขยับหน้าเข้ามาใกล้ ๆ เล่นเอาหัวใจของฉันมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ “กอด จูบ ลูบ คลำ… เรื่องบนเตียง”
“… เรื่องนั้นพี่ว่ามันไม่จำเป็น” พอถูกจู่โจมกลับก็เป็นฉันที่ทำตัวไม่ถูก
“หึ! กลัว? ไหนบอกชอบมาก เรื่องแค่นี้ทำไมต้องกลัว”
“… คือพี่”
“ถ้าไม่กล้าพอก็ถอย” ใบหน้าคมคายก้มลงมากระซิบบอกที่หูของฉัน “หรืออยากลองเล่นกับไฟ?”
