บทที่ 3 เด็กมันร้าย - 2 ขอโทษ
เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าตุลน่ากลัว เขาพูดคำนั้นออกมาด้วยท่าทางที่สุดแสนจะเย็นชา
“พ… พี่” ฉันกำชายกระโปรงแน่น มันยากที่จะตัดสินใจกะทันหันถึงแม้ว่าจะชอบเขามากขนาดไหนก็ตาม
ตุลไม่ได้รอฟังคำตอบเขาหันหลังให้ฉันแล้วเดินไปที่รถ เปิดประตูค้นหาของบางอย่าง
“หาอะไร หะ… ให้พี่ช่วยหาไหม”
พอถามตุลก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหันมามองฉันแล้วพูด “หาถุงยาง”
“อ… เอาไปทำไม” หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินว่าเขากำลังหาอะไร
“เอาไปเป่าเล่นมั้ง ถามไม่คิด”
“…” ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่ฉันกลับหวงเขามาก ๆ
“เรื่องที่ตุลบอกพี่ขอคิดดูก่อนได้ไหม”
“ไม่ได้บังคับ” เขาหันหน้ากลับไปค้นหาของต่อ
“พี่อยากให้ตุลเปิดใจมากกว่าคิดเรื่องแบบนั้นนะ”
“หยุดพูด รำคาญ!” เขาตวาดบอกทั้งที่ยังไม่หันหน้ามา
“ตุลจะเอาหาถุงยางอนามัยไปใช้กับใครเหรอ”
“ยุ่ง!!” เขาพูดอย่างหงุดหงิด
ฉันได้แต่นิ่งยืนมองแผ่นหลังกว้างอยู่ครู่ใหญ่ มองจนตุลหาของสิ่งนั้นเจอ เขาปิดประตูรถแล้วเดินมาหาฉันก่อนจะชูกล่องถุงยางอนามัยขึ้นตรงหน้า
“อยากใช้ไหม?”
“ม… ไม่”
“ชอบสด อ่า! มันคงไม่แปลกอายุขนาดนี้แล้วประสบการณ์คงจะโชกโชน”
“…” เขาตัดสินใจฉันด้วยคำพูดที่แสนจะหยาบคายอีกแล้วนะ
หมับ! ฉันดึงเอากล่องถุงยางอนามัยในมือตุลมา
“พี่ขอเก็บไว้ใช้กับตุลได้ไหม?” ความจริงคือฉันกลัว กลัวว่าเขาจะไปทำอะไรกับใคร
“จะเอาไปให้เพื่อนไม่ได้คิดจะใช้เอง เอาคืนมา!” เขาบอกอย่างหงุดหงิด
“เพื่อนเหรอ?”
“รู้ไหมว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญขนาดไหน เลิกวุ่นวายสักทีได้ไหมวะ!!” ครั้งนี้เขาแสดงท่าทางที่ดุดันออกมา ก่อนจะเดินชนไหล่ฉัน
เขาชนไหล่ฉันจริง ๆ แถมยังชนแรงเอามาก ๆ จนฉันเกือบจะล้มแน่ะ ถุงยางอนามัยก็ไม่ยอมเอาไปด้วย โกรธฉันงั้นเหรอ…
วันต่อมา
วันนี้ฉันตื่นสาย เพราะเมื่อคืนดื่มหนักจนเฮียต้องเป็นคนขับรถมาให้ เมื่อคืนฉันอยู่ดูตุลจนเขาออกจากคลับ ค่อยสบายใจหน่อยที่เขาไม่ได้ควงผู้หญิงที่ไหนออกไปด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงช้ำหนักแน่ ๆ
วันนี้คือวันใหม่ เรื่องแย่ ๆ เมื่อคืนฉันจะลืมไปให้หมด ไม่อยากเก็บมาคิดให้ทุกข์ใจ วันนี้ฉันจะไปที่อู่เพราะรู้ว่าตุลไม่มีเรียน
“จะไปอู่อีกแล้ว?” เฮียนั่งจิบกาแฟอยู่ถามฉันที่เพิ่งเดินผ่าน อุตส่าห์ย่องเบาแล้วแท้ ๆ
“รถอยู่อู่น่ะเฮีย หนูจะไปดู”
“ส่งลูกน้องไปดูก็ได้ทำไมต้องไปเอง กลับมาไทยแทนที่จะเข้าบริษัทแต่นี่อะไรเข้าแต่อู่ซ่อมรถ”
“เอาน่าเฮีย ช่วงนี้หนูยังไม่อยากเข้าบริษัท”
“ที่อู่มันมีอะไรดีน้องสาวคนนี้ของเฮียถึงชอบไปนัก” เฮียเฟยมองฉันอย่างจับผิด
“ไม่มีอะไรหรอกเฮีย หนูไปก่อนนะ” ฉันรีบวิ่งออกมาจากบ้านเพราะกลัวจะถูกจี้ถามไปมากกว่านี้
ฉันให้คนขับรถที่บ้านมาส่งที่อู่ของตุล เพราะไม่อยากขับรถมาเองจะได้ใช้เป็นข้ออ้างให้เขาขับรถมาส่ง มันต้องมีสักครั้งสิที่เขาเห็นใจยอมมาส่งฉันที่บ้านน่ะ
#อู่ซ่อมรถ
เป็นเหมือนเดิมทุกครั้งที่พอตุลเห็นหน้าฉันแล้วเขาก็มักจะแสดงท่าทางเบื่อโลก
“มาทำไม”
“มาดูรถไง ^_^”
“บอกว่าเสร็จอาทิตย์หน้า”
“อื้อพี่รู้แล้ว แค่อยากมาดูทุกวันไม่ได้เหรอ ^_^” ฉันพยายามไม่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนเพราะอยากทำให้ตัวเองมีความสุขทุกวัน มีความสุขกับการได้ชอบใครสักคน
ตุลที่นั่งซ่อมรถอยู่พ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ รู้ดีกว่าเขารำคาญแต่ฉันก็ยังยิ้มหวานให้ เวลาหงุดหงิดเขาโคตรจะแบดบอยเป็นบ้าเลย
ฉันเดินมานั่งโต๊ะหินอ่อนที่ประจำแล้วมองดูตุลซ่อมรถแบบนั้น มีความสุขดีจัง ถ้าได้เป็นแฟนกันคงจะดีมาก ๆ
“ใกล้จะเที่ยงแล้วตุลอยากกินอะไรไหมพี่จะสั่งมาให้”
“ไม่หิว” เขาปฏิเสธความหวังดีของฉัน ชิ! คอยดูเถอะจะสั่งของกินมายั่วดูสิว่าไม่หิวจริง ๆ หรือเปล่า
อะไรที่เป็นฉันเขามักจะปฏิเสธตลอดนั่นแหละ ยอมอ่อนให้บ้างก็ไม่ได้
“ห้องน้ำไปทางไหนเหรอตุล” ฉันตะโกนถามแต่คนที่ถูกถามไม่ยอมตอบ
“ตุล…”
“เดินตรงไปในอู่ เลี้ยวซ้าย” เขาตอบกลับแบบไม่เต็มใจจะพูด
ฉันลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินไปตามที่ตุลบอกเพราะปวดฉี่ไม่ไหวแล้ว เดินมาตามทางที่ว่าก็เจอกับห้องน้ำจึบรีบเข้าไปทำธุระ
หลังจากทำธุระเสร็จกำลังจะเดินกลับแต่สายตาของฉันดันบังเอิญเห็นห้อง ๆ หนึ่งที่ประตูเปิดแง้มไว้ คิดว่าคงจะเป็นห้องนอนของตุลจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปดู เพราะอยากเห็นว่าเขาอยู่ยังไง นอนยังไง
มันคงจะเป็นธรรมดาของห้องนอนผู้ชายที่ค่อนข้างรกเอามาก ๆ เสื้อผ้าถอดกระจัดกระจาย มีทั้งกระป๋องเบียร์วางอยู่ เห็นแล้วอยากจะเก็บห้องให้จริง ๆ เลย
ก่อนจะเดินออกจากห้องฉันเหลือบมองเห็นกรอบรูปที่ตั้งอยู่ จึงเดินไปหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัย แต่แล้วเมื่อมองใกล้ ๆ มันก็ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ พร้อมกับความรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ
ในกรอบรูปคือภาพถ่ายของตุลกับผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันจำคำพูดของแพรได้ที่บอกว่าตุลเคยมีผู้หญิงที่รักมาก แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะรักถึงขนาดเอารูปคู่กับเธอมาใส่กรอบตั้งไว้แบบนี้
“ทำอะไร!!”
ฉันสะดุ้งโหย่ง เพราะความตกใจเสียงที่ตวาดถามทำให้กรอบรูปในมือหล่นลงพื้น แน่นอนว่ามันแตกกระจายแถมเศษกระจกยังปักมาที่เท้าฉันอีกด้วย
แต่มันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย คงเป็นเพราะสีหน้าและแววตาที่ดุดันของตุลในตอนนี้มันทำให้ฉันลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ
ตุลเดินมาเก็บกรอบรูปที่ฉันทำตก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันถูกเขาจ้องเขม็งแต่จู่ ๆ เขาก็เงียบไป
“ต… ตุลพี่ขอโทษ คือพี่…”
“ออกไป”
“… ตุล”
“บอกให้ออกไปไงวะ!!!”
