บทที่ 2 เด็กดื้อ - 1 จำเอาไว้

ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้พี่ลีวายคิดแบบนั้น ทั้งที่ฉัน

ไม่ได้เป็นอย่างที่เขากล่าวหา ถึงจะชอบแต่ก็รู้ตัวเองดีว่าไม่มีสิทธิ์และเขา

ไม่มีวันหันมาสนใจ

@มหาวิทยาลัย

ฉันไม่มีเพื่อนที่สนิทมีแต่คนที่รู้จัก อาจเป็นเพราะปิดกั้นตัวเองและไม่กล้าเข้าสังคมทำให้ไม่มีเพื่อนเหมือนคนอื่นเขา

วันนี้อาจารย์ให้จับคู่ทำวิจัย คนอื่น ๆ ก็ได้คู่กันหมดแล้ว

เหลือแค่ฉัน

“มิลิน มาคู่กับเราไหม” เสียงของเพื่อนในห้องเอ่ยถามฉันที่นั่งเงียบ เขาชื่ออาต เรารู้จักกันแต่ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร

“อาตไม่คู่กับวินเหรอ”

“ไอ้วินมันมีคู่แล้ว”

“อือ โอเค^_^” ฉันนึกว่าตัวเองจะไม่มีคู่แล้วซะอีก แบบนี้

ค่อยโล่งใจหน่อย

“เราจะทำวิจัยเรื่องอะไรกันดี”

ฉันกับอาตช่วยกันคิดอยู่นาน เมื่อคิดได้ก็แบ่งหน้าที่กัน การทำวิจัยใช้เวลานาน เราไม่สามารถทำเสร็จภายในวันเดียวได้ เห็นว่าได้เวลาเลิกเรียนแล้วฉันจึงรีบขอตัวกลับก่อน

ที่ต้องรีบก็เพราะวันนี้พี่ลีวายมารับ ไม่ใช่คนขับรถของที่บ้าน หากช้าไปแค่วินาทีเดียว เขาก็โกรธฉันเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว

“มิลิน ๆ” เสียงของอาตตะโกนเรียกขณะที่ฉันกำลังเร่งฝีเท้าเดินไปที่รถ “ว่าไงอาต”

“เธอลืมโทรศัพท์”

“อุ๊ย! ฉันนี่มันขี้ลืมจริง ๆ เลย ขอบคุณนะ” ฉันรับโทรศัพท์มา ก่อนจะเห็นว่าหน้าจอโชว์เบอร์ของพี่ลีวายโทรมาอยู่หลายสาย หัวใจ

ดวงน้อย ๆ หล่นลงมาอยู่ที่ตาตุ่มทันที

“เสียงโทรศัพท์ดังไม่ยอมหยุดเลย แฟนโทรตามเหรอ”

“เปล่าหรอก เรายังไม่มีแฟน”

“จริงดิ? ไม่มีแฟนจริง ๆ ใช่ไหม”

ปี้น ๆๆๆๆ !!! ยังไม่ทันอ้าปากตอบเสียงแตรรถก็ดังสนั่น ทำเอา

ฉันสะดุ้งโหยง

“ไปก่อนนะอาต”

พูดจบ ฉันก็รีบสาวเท้าเดินมาที่รถให้เร็วที่สุด ก่อนจะเปิดประตูเข้ามานั่งด้านใน ไม่กล้าแม้แต่จะหันมองคนที่นั่งข้าง ๆ

“ทำไมไม่ให้มันไปส่ง เสียเวลาฉิบหาย”

“ขอโทษที่ทำให้รอนานค่ะ”

รถหรูขับออกไปจากมหาวิทยาลัยด้วยความเร็ว แต่ทว่าไม่ได้ขับไปทางที่จะกลับบ้าน

“พะ... พี่ลีวายจะไปไหนเหรอคะ”

“หุบปาก! เสียงของเธอทำให้ฉันหงุดหงิด”

“ถ้าอย่างนั้นจอดให้มิลินลงข้างหน้านั้นก็ได้ค่ะ ดะ... เดี๋ยว

มิลินเรียกแท็กซี่กลับเอง”

ดวงตาคมหันมาจ้องเขม็งราวกับสิ่งที่ฉันพูดมันทำให้ไม่พอใจเอามาก ๆ “ถ้าพ่อไม่สั่งไว้ ฉันคงปล่อยเธอลงไปนานแล้ว ไม่ต้องมาอวดดี!!”

“มิลินไม่ได้อวดดีนะคะ”

“เงียบ!!”

ฉันสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงที่ตวาดบอก มันรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ

ดวงน้อย ตั้งแต่เด็กพี่ลีวายไม่เคยพูดดีกับฉันเลย สักครั้งก็ไม่เคย

รถเลี้ยวเข้ามายังโรงแรมหรู ซึ่งเป็นแค่โรงแรมบังหน้าเท่านั้น เพราะด้านในคือบ่อนคาสิโน จุดศูนย์รวมสิ่งผิดกฎหมาย ฉันรู้ว่าคุณท่านและพี่ลีวายทำธุรกิจสีเทา และคุณท่านก็เคยพามาที่นี่แต่ไม่บ่อยนัก

ฉันไม่ชอบที่แบบนี้เอาซะเลย

เมื่อจอดรถแล้วพี่ลีวายก็เปิดประตูเดินนำไปโดยไม่สนใจฉัน

ที่อยู่ด้านหลัง ฉันจึงต้องรีบวิ่งตามเพราะกลัวจะไม่ทัน อีกอย่างคนที่นี่

ก็น่ากลัวกันทั้งนั้น

#ภายในห้องทำงาน

กินเวลาไปหลายชั่วโมงที่พี่ลีวายนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะไม่ยอมลุกไปไหน ส่วนฉันก็ได้แต่มองและแอบคิดในใจว่าจะมีสักครั้งไหมที่ผู้ชายคนนี้ใจดีกับฉันบ้าง แค่ครั้งเดียวก็ยังดี

“มองอะไร?”

เป็นเพราะฉันเผลอไปจ้องเขาอยู่นาน ทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว

จึงถูกถามเสียงแข็ง “ปะ... เปล่าค่ะ”

จู่ ๆ พี่ลีวายก็ลุกขึ้นมาจากโต๊ะทำงานแล้วเดินตรงมาหาฉัน

ที่นั่งอยู่บนโซฟา หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นรัวไม่เป็นจังหวะแขนขา

เกร็งไปหมด

“ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่”

“…” ฉันรีบก้มหน้าหลบสายตาอำมหิตคู่นั้นทันที หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวมากกว่าเดิมเมื่อพี่ลีวายโน้มใบหน้าลงมาใกล้ ๆ

“จะ... จะทำอะไรคะ”

หมับ!! ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นมาบีบปลายคางของฉันอย่างแรงเพื่อให้เงยหน้าขึ้น

“อื้อ เจ็บนะคะ”

“คิดว่าฉันจะทำอะไร?”

“…” พี่ลีวายกำลังทำให้ฉันกลัว เขาออกแรงบีบที่มือแรงขึ้น

ทำให้ฉันต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บและพยายามจะดึงมือหนาออก

แต่ก็ไม่เป็นผล

“จำเอาไว้ว่าฉันไม่มีวันพิศวาสผู้หญิงแบบเธอ”

ฉันเห็นแต่ความเกลียดชังในสายตาคู่นั้น ไม่มีความหมายอื่น ๆ แฝงอยู่เลย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป