บทที่ 8 Diffuser Love หอมกลิ่นรัก 8

Diffuser Love หอมกลิ่นรัก 8

ระหว่างนั่งรอน้องชายไปส่งของให้ ฉันก็นั่งเล่นโทรศัพท์รอไปเรื่อย ๆ เล่นโทรศัพท์ที่หมายถึงการเข้า Google แล้วเสิร์ชหาที่ดินแปลงเปล่า เพื่อหาโอกาสทำธุรกิจใหม่ ๆ ต่อยอดธุรกิจเดิมน่ะ

ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง จากที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากบริเวณหน้าร้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ระหว่างร้านของฉันและร้านกำไลหินของน้องอลิซผู้เช่ารายล่าสุดของฉันเอง

“เฮ้ย! ไอ้หัวขโมย! หยุดนะ”

“ไม่ใช่ขโมย!”

“อย่ามาแก้ตัว จะมางัดร้านกำไลใช่ไหม มึงเจอแน่!” แต่เพราะได้ยินเสียงน้องชายร้องดังลั่น ฉันที่กำลังตกใจก็รีบวิ่งออกจากร้านไปยังจุดเกิดเหตุด้วยความเป็นห่วงทันที

“โอ๊ย! ฟังก่อนดิวะ! ไม่ใช่ขโมย!!” ภาพที่เห็นคือน้องชายของฉันกำลังคลุกวงในกับชายสวมชุดสูทตัวสูง ที่เหมือนก่อนหน้านี้จะแลกหมัดกันไปแล้ว

“คาร์โลว์!” ร้องเรียกชื่อน้องชายอย่างตกใจ มือไม้สั่นไปหมดเมื่อเห็นว่ามุมปากของคาร์โลว์มีเลือดซึมออกมา

“คริสติน! พี่ไปต่อยเขาทำไม” เสียงของน้องอลิซดังขึ้นใกล้ ๆ ทำให้ผู้ชายสองคนที่กำลังจะต่อยกันชะงักค้างไป เธอเดินเข้ามาด้วยท่าทางตกใจไม่ต่างจากฉัน

“เขาต่อยพี่” คู่กรณีของคาร์โลว์บอกคนมาใหม่อย่างหงุดหงิด ฉันที่เพิ่งตั้งสติได้ก็รีบเข้าไปดึงแขนน้องชายให้มาหลบด้านหลัง เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้ายน้องอีก โดยหลงลืมไปเลยว่าตัวเองสูงแค่ปลายคางคู่กรณีของน้องชายเท่านั้น ไหนจะอีกฝ่ายที่มีร่างกายสูงใหญ่กว่าฉันอีก ถ้าเขาคิดจะเข้ามาทำอะไรจริง ๆ คงไม่มีทางสู้เลยละนอกจากพาคาร์โลว์วิ่งหนีอะ

“ไปต่อยคนอื่นทำไม?” เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงไม่ได้ตั้งท่าจะเข้ามาต่อยเราสองพี่น้อง ถึงได้เงยหน้ามองน้องชายอย่างเป็นห่วง ทั้งสงสัยทั้งสงสารที่น้องมุมปากแตกแบบนั้น

“ก็เขามาด้อม ๆ มอง ๆ แล้วก็ก้มลงไปเหมือนจะงัดประตูร้านกำไลหินอะ ผมคิดว่าเขาเป็นโจร” คาร์โลว์เล่าให้ฟังเสียงอ่อย

“ไม่ได้งัด ทำกุญแจร้านหล่นเลยก้มลงไปเก็บต่างหาก” คู่กรณีรีบบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดใจ ใบหน้าเขาดูคุ้นมากแต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอหรือเคยเห็นที่ไหน แล้วยังดูดุมากเลยด้วย อีกฝ่ายมุมปากช้ำเล็กน้อยเท่านั้นแต่ส่วนอื่นไม่รู้ว่าบาดเจ็บหรือเปล่า

“ขอโทษแทนน้องชายด้วยนะคะ พอดีเรากลัวว่าจะเป็นคนไม่ดีน่ะ” ฉันรีบยกมือไหว้คนตัวสูงที่ยังคงมีใบหน้าหงุดหงิด ไม่ยอมคลายความขุ่นเคืองเลยแม้แต่น้อย คิ้วของเขาขมวดจนแทบจะติดกันแล้วในตอนนี้

“หนูเองก็ขอโทษค่ะพี่กัลป์ พอดีจะให้พี่ชายเข้ามาเอาของให้ แล้วหนูเดินไปซื้อลูกชิ้นทอด ไม่คิดว่าพี่ชายจะทำตัวเหมือนโจรแบบนี้” น้องอลิซเอ่ยขอโทษอย่างเสียใจ แต่ก็มิวายแซวคนที่อ้างว่าเป็นพี่ชาย

“พี่เองก็ขอโทษอลิซกับพี่ชายด้วยนะ คาร์โลว์ขอโทษคุณเขาก่อนเร็ว” บอกน้องชายด้วยความหวังดี เพราะฝ่ายเรานั้นผิดที่ไปเริ่มทำร้ายเขาก่อน

“ขอโทษครับ”

“เหอะ! ง่าย ๆ อย่างนี้เลยเหรอ นี่เจ็บมากนะ แผลฉีกแล้วมั้งเนี่ย จะรับผิดชอบยังไงครับคุณ” คุณตัวโตมองอย่างคาดโทษ แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าเขากำลังตั้งใจกวนประสาทกันแบบนี้ล่ะ?

“ต้องขอโทษแทนน้องชายจริง ๆ นะคะ อยากให้รับผิดชอบยังไงบอกฉันได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะพาไปตรวจและรักษาที่โรงพยาบาล แล้วจะจ่ายค่ารักษาให้นะคะ” วินาทีที่เราทั้งสองคนสบตากัน แววตาวูบไหวของเขาทำให้ฉันกังวลใจกลัวว่าเขาจะไม่ยอมให้รับผิดชอบแล้วเอาเรื่องน้องชาย

“นะคะ” เอ่ยอ้อนขอคนตรงหน้าอย่างเต็มที่ ในฐานะพี่สาวและเจ้าของตึกนี้ฉันเข้าใจเจตนาดีของน้องชายแต่มันรุนแรงเกินไปสำหรับผู้บริสุทธิ์ ฉันเข้าใจ แต่ก็ไม่อยากให้เขาเอาผิดน้อง

“อืม จะให้เลขาติดต่อไปแล้วกัน” จู่ ๆ คนที่เหมือนจะไม่ยอมก็ยอมตกลงแต่โดยดี

“ขอโทษจริง ๆ ครับ” คาร์โลว์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม คนตัวสูงทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนกำลังทำตัวไม่ถูก เห็นแบบนั้นน้องอลิซถึงได้โน้มหน้าเข้าไปกระซิบเบา ๆ อีกฝ่ายถึงได้ยกมือรับไหว้อย่างเก้ ๆ กัง ๆ

“ขอโทษจริง ๆ นะน้องอลิซ” เอ่ยบอกผู้เช่ารายปีอย่างเสียใจ น้องอลิซยกยิ้มบาง ๆ ส่งมาให้ก่อนจะเอ่ยตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มและสายตาซุกซน เหมือนกำลังสนุกด้วยเรื่องอะไรบางอย่าง...

“ไม่เป็นไรเลยค่ะพี่กัลป์มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด หนูกับพี่ชายเข้าใจค่ะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป