บทที่ 1 จุดเปลี่ยน
“ดื่มเยอะ ๆเลยนะขิมงานนี้จัดเพื่อเธอโดยเฉพาะเลยนะรู้ไหม” เสียงจีบปากจีบคอดังพร้อมมือที่ดันแก้วเหล้าใส่มือบาง เจ้าของชื่อใช้ปลายนิ้วขยับแว่นสายตากรอบสีดำแนบชิดใบหน้า ท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ ของเธอช่างขัดกับสถานที่ที่นั่งอยู่เสียเหลือเกิน แม้จะดูขัดหูขัดตาคนในกลุ่มอยู่บ้างแต่ก็สร้างความสนุกปนสมเพชยามทิ้งสายตามองเธอ
“เอ่อ… ขิมดื่มไม่ได้” มือกำแก้วเหล้าสีเข้มแน่น ความลำบากใจฉายชัดบนใบหน้า ทั้งที่นี่คือโอกาสในการเข้าสังคมของเธอแท้ ๆ แต่เธอกลับไม่มีความกล้ามากพอ
สายขิม เด็กเรียนดีของสายชั้นผู้เป็นที่รักของอาจารย์ ซ้ำยังควบตำแหน่งนักเรียนดีเด่นสามปีซ้อน ทว่าเพราะความฉลาดเกินไปแถมยังใส่แว่นหนาเตอะ ทำให้เธอใช้ชีวิตมอปลายอย่างไร้เพื่อนฝูง หลายครั้งหลายหนที่เธอโดนเพื่อนกลั่นแกล้ง บ้างนินทา บ้างเมินเฉย ทำกับเธอเหมือนไร้ตัวตน เพียงเพราะคนเหล่านั้นอิจฉาเธอ ทั้งเรียนดีกว่า ฉลาดกว่า อาจารย์รักและเอ็นดูมากกว่า ความริษยาจึงมาลงที่เธอ
สังคมปัจจุบันการ Bully มีอยู่ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษาหรือที่ทำงาน แม้แต่ในโลกโซเชียลยังล้วนเกิดการ Bully ให้เห็นอยู่เสมอ เธอจึงทำใจให้ชินกับสิ่งที่ต้องประสบพบเจออยู่ทุกวี่ทุกวัน
มันก็แค่การแกล้งของพวกเด็ก ๆ
เธอคิดแบบนั้น และเลือกที่จะไม่สนใจ พยายามใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในมุมของเธอ ไม่วุ่นวายกับใครถ้าไม่จำเป็น กระทั่งวันสุดท้ายของการจบการศึกษา สายขิมคว้าผลการเรียนอันดับหนึ่งตามความคาดหมาย และสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังด้วยคะแนนสอบอันดับต้น ๆ สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนจนถึงขั้นขึ้นป้ายหน้าประตูโรงเรียน
แน่นอน… ความริษยาจึงเพิ่มมากขึ้น
ทว่าตอนจบพิธีนั้น เธอได้รับคำชวนจากเพื่อนร่วมห้องซึ่งร้อยวันพันปีไม่เคยแยแสเธอสักนิด แต่วันนี้กลับเข้ามาชวนคุยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ด้วยความอ่อนต่อโลกเธอตกปากรับคำมางานเลี้ยงเรียนจบของห้อง และกำลังถูกเพื่อน ๆ กลุ่มนั้นยัดเหยียดให้ดื่มเหล้า
“ไม่เป็นไรหรอกสายขิม ดื่มแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ไม่เมาหรอก” ยิหวา ดาวเด่นประจำโรงเรียนคลี่ยิ้มหวานปานน้ำผึ้งขม เพื่อนคนอื่นพยักหน้าสมทบ
“ดื่มเถอะน่า ยิหวาอุตส่าห์ชวนทั้งทีนะ” ซอลลี่กรีดนิ้วลงบนแก้วตัวเองแล้วขยิบตาส่งให้ สายขิมเพิ่งสังเกตว่าในกลุ่มที่นั่งล้อมรอบเธออยู่นี้ล้วนเป็นสาวสวยประจำโรงเรียนทั้งสิ้น เมื่อเทียบกับตัวเธอที่สวมแว่นหนาเตอะ ผมเผ้ารวบเป็นหางม้า หน้าตาทาเพียงแป้งบาง ๆ ให้อารมณ์เชยเฉิ่มเสียจนตัวเองยังรู้สึกอายขึ้นมา
“งะ งั้นแค่นิดเดียวพอนะ”
ยิหวาส่งสายตาเลศนัยกับซอลลี่ขณะจ้องสายขิมยกแก้วจรดริมฝีปาก ปลายนิ้วเรียวยื่นดันก้นแก้วขึ้นกะทันหันส่งผลให้คนที่กำลังดื่มถึงกับสำลัก ความขมปร่าเย็นเฉียบไหลลงคอหลายอึก สายขิมไอค่อกแค่กออกมา หน้าตาภายใต้แว่นหนาแดงก่ำ หอบหายใจแทบไม่ทัน
“แค่ก ๆ ขะ ขมมากเลย”
“ฮ่า ๆ ก็มันเหล้านี่นาสายขิม อ่ะนี่ ดื่มนี่ตามสิจะได้ไม่ขม” ยิหวาหัวเราะ แก้วใสใบเล็กถูกส่งให้สายขิม เธอรับด้วยสีหน้างุนงง “อันนี้มีไว้ดับขมน่ะ”
“อ่า งั้นเหรอ ขอบคุณนะ” คำขอบคุณใสซื่อแสนวางใจของเธอเรียกรอยยิ้มร้ายจากสองสาว ทว่าเธอกลับมองไม่เห็น เมื่อยกแก้วใสขึ้นดื่มรวดเดียวหมด เธอสำลักขึ้นมาอีกรอบ “แค่ก ๆ ขมกว่าเก่าอีก!”
“ฮ่า ๆ เธอนี่ตลกจัง! นั่นมันวอดก้านะ! เธอดื่มมันจริง ๆ เหรอเนี่ย!” เสียงหัวเราะจากทุกคนสร้างความอับอายให้กับสายขิมอย่างมาก ตอนนี้เธอกลายเป็นตัวตลกไปแล้ว สายขิมอยากจะลุกขึ้น แต่ถูกมือบางรั้งให้นั่งลงที่เดิม ปลายเล็บแหลมจิกแน่นจนต้องเบ้หน้า “จะรีบไปไหนล่ะขิม พวกเรายังสนุกกันอยู่เลยนะ”
“นั่นสิ ๆ จะรีบกลับไปไหนล่ะ นี่เพิ่งจะสองทุ่มเองนะ” ซอลลี่ช่วยสมทบ “หรือว่าเด็กอนามัยอย่างเธอต้องนอนก่อนสองทุ่มเหรอ”
สายขิมก้มหน้าซ่อนความแดงก่ำ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ผสมกับความอับอายจากเสียงหัวเราะรอบตัวทำให้เธอรู้สึกมึนเมา ร่างกายร้อนผ่าวแปลก ๆ สายตาพร่าเบลอไปหมด
ยิหวาส่งสายตากับซอลลี่ เธอส่งข้อความหาใครคนหนึ่งก่อนลุกขึ้นยืนโดยคว้าแขนสายขิมให้ลุกตาม ซอลลี่ลุกจับแขนสายขิมอีกข้าง กลายเป็นว่าทั้งสองกำลังหิ้วปีกสายขิมซ้ายขวา
“สายขิมเมาแล้ว เดี๋ยวพวกฉันพาเธอส่งขึ้นแท็กซี่กลับบ้านก่อนแล้วกัน”
ทุกคนพยักหน้าอืออออย่างไม่ใส่ใจนัก ทั้งสามเดินออกมาหน้าผับ ขึ้นรถยิหวาขับพามาที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
