บทที่ 7 พนัน

ร่างสูงยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าฉัน แผ่นหลังกว้างแสนเยือกเย็นสะท้านเบา ๆ ใบหน้าหล่อเหลาครึ่งเสี้ยวสะท้อนแสงจันทร์ ฉายความดุดันกระหายการต่อสู้ แต่ที่ทำให้ฉันอึ้งก็คือคิดไม่ถึงว่าเขาจะย้อนกลับมา

“ทำเหี้ยอะไรวะไอ้เสือ!” สวะตัวหนึ่งมองเพื่อนที่ล้มลงไปกองบนพื้นด้วยฝีมือเสือพยัคฆ์ พวกนั้นตีวงล้อมเขาเพียงคนเดียวไว้ตรงกลาง ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้มีแววสะทกสะท้านเลยสักนิด ราวกับว่าสี่ต่อหนึ่งนั้นไม่คณามือเขา

“นี่ไม่ใช่เรื่องของมึง มาเสือกทำเหี้ยอะไร!”

“ตอนแรกก็ว่าจะไม่เสือก…” ดวงตาคมเหลือบมองมาทางฉัน แววตาเฉื่อยชาแฝงแววกดดันในที “แต่พอเห็นเลือดแล้วมันอดเสือกไม่ได้ว่ะ”

“มึงอยากมีปัญหากับเฮียไม้เหรอวะ!”

เฮียไม้… หมายถึงไม้เอกหรือเปล่า? ถ้าจำไม่ผิดเขาเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งของอัคคี ฉันเคยได้ยินชื่อเขาหลายครั้ง และเคยเห็นอัคคีปะทะกับคนของเขาบ่อย ๆ แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงของเขาเลย คนพวกนี้ก็คือคนของไม้เอกคนนั้นสินะ

“ก็ให้มันมา คิดว่ากูกลัว?”

“ถุย! อย่าคิดว่าเป็นน้องเฮียสิงห์แล้วจะกร่างกับเฮียไม้ได้นะโว้ย! เฮียไม่เอามึงไว้แน่!!”

“งั้นมึงควรเก็บปากกลับไปฟ้องมันให้ได้ก่อนดีไหม?” เสือพยัคฆ์รุดหน้าเข้าหาสวะตัวนั้น พวกมันถอยกรูอย่างระวังตัว มองหน้ากันเลิ่กลั่กก่อนจะพากันวิ่งหนีไป “ฮึ! เป็นแค่ลูกหมาคิดจะมากัดกับเสือ”

บรรยากาศรอบตัวตกอยู่ในความเงียบ ฉันเพียงยืนก้มหน้ามองพื้นนิ่ง ๆ ไม่ได้สนใจจะมองผู้ชายข้างกายสักนิด มือข้างหนึ่งล้วงโทรศัพท์มากดดู ปลายสายยังคงถือสายอยู่ เขากำลังมาหรือเปล่านะ…

พรึ่บ

ติ๊ด!

“…” ฉันมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่เพิ่งถูกแย่งไปกดตัดสายทิ้งด้วยความนิ่งงัน รู้อยู่ว่าผู้ชายคนนี้นิสัยเสียแค่ไหน แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ไง!

“คิดว่ามันจะมาเหรอ ฮึ!” เสือพยัคฆ์แกว่งโทรศัพท์ในมือไปมา เขาทำฉันโกรธขึ้นมาจริง ๆ แล้วนะ

“เอาคืนมา”

“นี่ เรามาพนันกันไหม” นอกจากเขาไม่ฟัง เขายังกวนประสาทฉันด้วยการยื่นหน้าหล่อ ๆ เข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจกรุ่นร้อน กลิ่นบุหรี่ฉุน ๆ ลอยอบอวลรอบตัวไปหมด หมอนี่สูบบุหรี่จัดขนาดไหนกันเนี่ย

“คืน-โทรศัพท์-มา” ฉันเน้นย้ำทีละคำ

“อยากได้คืนก็ลองชนะฉันให้ได้ก่อนสิ”

“เสือพยัคฆ์!” ฉันหมดความอดทนจริง ๆ แล้ว ไม่รู้ทำไมเวลาอยู่ต่อหน้าเขา ความเย็นชาของฉันถูกสั่นคลอนเสมอ

“ฮึ รู้จักฉันจริง ๆ ด้วยสินะ” เขาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินวนรอบตัวฉันคล้ายกำลังประเมินกัน ฉันเชิดหน้ายืนนิ่ง ใช้ความเย็นชาสะกดความประหม่าเอาไว้

เขาจำฉันไม่ได้หรอก… ไม่มีทางจำได้

“เธอ… แม่งคุ้นว่ะ”

ฉันลอบถอนใจ แต่เดี๋ยวสิ นี่ไม่ใช่เวลามาโล่งใจนะ

“คืนโทรศัพท์ฉันมา เราไม่รู้จักกัน นายไม่ควรทำแบบนี้”

“แต่ฉันรู้สึกเหมือนเคยรู้จักเธอว่ะ” เขาไม่ยอมแพ้ ขยับหน้าเข้ามาจ้องกันใกล้ ๆ ฉันเบี่ยงสายตาหนี ข่มอารมณ์ประหม่าของตัวเองเอาไว้

“ไม่ เราไม่เคยรู้จักกัน”

“แต่เธอรู้จักฉัน?”

“เหอะ มีใครบ้างไม่รู้จักนาย?” เลื่อนสายตากลับมาสบดวงตาคมกริบ ความวาววับในตาเขาทำฉันระแวงขึ้นมา “ฉันเป็นแฟนอัคคี ไม่แปลกถ้าจะรู้จักนาย”

เสือพยัคฆ์เลิกคิ้ว จุ๊ปากหนึ่งทีแล้วถอยใบหน้าออกไป

“แฟนไอ้อัคคีงั้นเหรอ… อืมม… น่าสนใจจริง ๆ”

เขาพึมพำคนเดียว ในหัวคงกำลังคิดเรื่องเลว ๆ อะไรอยู่ล่ะสิ ก็อัคคีเป็นศัตรูกับเขานี่…

“เธอคิดว่าไอ้เวรนั่นจะมาช่วยเธอไหม?” จู่ ๆ เขาก็ถามขึ้นมา ฉันมองหน้าเขาอย่างเย็นชา เอาจริง ๆ ไหม ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกว่าอัคคีจะมาช่วยฉันหรือเปล่า เพราะปกติฉันไม่เคยขอความช่วยเหลือจากเขา แล้วอัคคีเองก็ไม่เคยใส่ใจฉันอยู่แล้วด้วย ถึงบอกไงว่าเราต่างก็เป็นแฟนที่สาดความเย็นชาใส่กันเท่านั้น แต่จะให้ฉันตอบเสือพยัคฆ์ไปแบบนั้นน่ะเหรอ… ไม่มีทาง!

“คืนโทรศัพท์ฉันก่อนเขาจะมาซะ”

“เธอคิดว่ามันจะมางั้นสินะ อืมม… ดี! งั้นเรามาพนันกัน”

“อย่ามาตลก ฉันไม่ว่างเล่นกับนายหรอกนะ” หมอนี่ว่างมากสินะ ถ้าว่างมากก็เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีไหม จะมาวุ่นวายกับฉันทำไมนัก

“ทำไม? หรือเธอไม่มั่นใจว่ามันจะมาช่วยเธอหรือเปล่า?”

ฉันเกลียดไอ้บ้านี่ชะมัด ทำไงดี

“ฉันให้เวลาอีกสิบนาที ถ้ามันยังไม่มาถือว่าฉันชนะ” เขาพลิกข้อมือดูนาฬิกา

“แล้วยังไง”

“หืม”

“นายชนะแล้วยังไง? ฉันชนะแล้วยังไง?” จุดประสงค์ของการพนันครั้งนี้คืออะไรฉันยังไม่รู้เลย เขาบ้าหรือเปล่าถึงพูดเองเออเองแบบนี้

“ก็ไม่ยังไง ถ้าเธอชนะฉันจะคืนโทรศัพท์แล้วปล่อยให้เธอกลับกับแฟนสุดที่รักของเธอ”

“…” นั่นหมายความว่าอัคคีจะต้องมาสินะ

“แต่ถ้าฉันชนะ… คืนนี้เธอต้องกลับกับฉัน”

ฉันนิ่งเงียบ จ้องดวงตาวาววับราวกับเสือนักล่าของผู้ชายตรงหน้า เขากำลังมองฉันเหมือนมองเหยื่อถูกใจ

บัดซบที่สุด… เสือพยัคฆ์กำลังสนใจฉัน!

อย่าคิดว่านั่นคือเรื่องดี มันโคตรแย่เลยเหอะ กิตติศัพท์ของหมอนี่ฉาวโฉ่ไปทั่ว เหยื่อที่เขาสนใจไม่มีรายไหนรอดไปจากเงื้อมมือเขาหรอก เหมือนฉันเมื่อสองปีก่อนนั้นไง ไม่รู้ว่าเด็กเนิร์ด ๆ อย่างฉันตอนนั้นกลายเป็นเหยื่อของเขาได้ยังไง คิดแล้วก็น่าบัดซบจริง ๆ!

สองปีที่ผ่านมาฉันเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นอีกคนและใช้ชีวิตแบบหลบหลีกผู้ชายคนนี้มาตลอด เพราะไม่อยากพบเจอหน้าเขา ไม่อยากตอกย้ำความทรงจำเลวร้ายวันนั้น ใครจะคิดว่าโชคชะตาช่างน่าตลก เหวี่ยงคนเลว ๆ อย่างเสือพยัคฆ์กลับมาเจอฉันอีกครั้งแบบนี้

ก็ได้… ในเมื่อหลบดี ๆ ไม่ได้ งั้นก็พุ่งชนมันเลยแล้วกัน!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป