บทที่ 9 เสือสิงห์
S Condo
ตัวเลขค่อย ๆ เลื่อนขึ้นทีละชั้นพร้อมเสียงหัวใจเต้นแรงของฉัน นี่มันบ้ามาก ฉันรูู้ดี... การบุกมาที่คอนโดของสิงห์คำรามโดยที่เราต่างไม่เคยรู้จักกันแบบนี้มันบ้าระห่ำมากจริง ๆ แต่ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว สายซอหายตัวไปทั้งคืน ขาดการติดต่อ และเบาะแสเดียวที่ได้รับก็คือเธอถูกสิงห์คำรามพาตัวไป
ฉันไม่ได้รู้จักสิงห์คำรามเป็นการส่วนตัว เราอาจจะเคยเจอกันบ้างตามสถานที่เที่ยว แต่ไม่เคยพูดคุยกัน เขาเป็นรุ่นพี่ฉันหนึ่งปี นิสัยส่วนตัวเป็นยังไงไม่รู้ แต่จากข่าวค(ร)าวที่เข้าหูมาตลอด คือเขาเป็นผู้ชายที่โคตรอันตราย ทั้งเย็นชา เลือดเย็น สายโหดตัวพ่อ แน่ล่ะ… ก็เขาเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเสือพยัคฆ์นี่ น้องชายทั้งชั่วร้ายและบ้าระห่ำขนาดนั้น พี่ชายจะแพ้กันได้ยังไง
ติ๊ง…
ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นยี่สิบ คอนโดนี้เป็นคอนโดหรูใจกลางเมือง มีความไพเวทค่อนข้างสูง ตอนแรกฉันเกือบจะเข้ามาที่นี่ไม่ได้ โชคดีที่ฉันมีรุ่นพี่พักอยู่ที่นี่เลยขอให้เขาลงมารับ ฉันโกหกเขาว่ามีธุระสำคัญจะคุยกับสิงห์คำราม แต่ติดต่อเจ้าตัวไม่ได้ รุ่นพี่ก็ใจดีบอกเลขชั้นมาให้ แต่เขาไม่ค่อยแน่ใจเรื่องเลขห้อง บอกแค่ว่าอยู่ห้องสุดท้ายของทางเดิน
อ่า… ห้องซ้ายหรือห้องขวากันล่ะ?
ฉันหยุดยืนอยู่ตรงกลางทางเดินโดยมีประตูห้องซ้ายขวาขนาบข้าง ทั้งสองห้องต่างเป็นห้องสุดท้ายของทางเดินเหมือนกัน ต่างกันแค่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันเท่านั้น
“ขวาร้ายซ้ายดี… ห้องซ้ายล่ะกัน” ฉันตัดสินใจก้าวไปทางหน้าประตูห้องซ้ายมือ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ รวบรวมความกล้าก่อนกดกริ่งหน้าประตู กดกริ่งสองสามครั้งแต่ยังไร้เสียงตอบรับจากคนด้านใน พอจะกดอีกครั้งได้ยินเสียงกริ๊กเสียก่อน ฉันถอยหลังออกห่างจากประตู เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของห้องที่เปิดประตูออกมาด้วยสภาพเปลือยอก ผมเผ้ายุ่งเหยิงหน่อย ๆ สีหน้าง่วงงุนอย่างเต็มที่ และฉันจะไม่ตกใจเลยถ้าเขาคนนั้นคือคนที่ฉันกำลังตามหา ทว่า…
“คนจะนอน กดทำไมนักวะ?”
ไม่จริง! นี่ไม่ใช่ห้องสิงห์คำราม แต่เป็นห้องของเสือพยัคฆ์ต่างหาก!
บางทีก็สงสัย ทำไมช่วงนี้ดวงฉันชงกับหมอนี่ัจังเลย!
“ขอโทษที ฉันมาผิดห้อง” ฉันตีสีหน้าตกใจกลับมาเรียบนิ่งแล้วหมุนตัวจะเดินหนี แต่ถูกมือหนาถือวิสาสะคว้าข้อมือไว้ ฉันรีบสะบัดออกราวกับถูกของร้อน “จะทำอะไร?!”
“ฉันดิต้องถามว่าเธอคิดจะทำอะไร?” ดูเหมือนอาการง่วงงุนของเขาเมื่อครู่จะหายไปแล้ว เวลานี้หน้าตาของเสือพยัคฆ์ดูตื่นเต็มตามาก “เธอมาปลุกฉันตั้งแต่เช้าแล้วยังจะบอกว่าผิดห้องอีกเหรอวะ”
“ก็ขอโทษไปแล้วไง ฉันไม่รู้ว่านี่ห้องนาย” ถ้ารู้จะไม่เฉียดเข้าใกล้แม้ปลายหางตาเลย
“ไม่รู้? จริงดิ?” เขาเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เชื่อ “เรื่องบังเอิญแบบนี้มันมีอยู่จริงเหรอวะ เหอะ ๆ”
“ฉันไม่มีเวลามาเถียงกับนาย ขอตัว” ขี้เกียจจะสนใจเขาต่อจึงตัดใจหมุนตัวมาหน้าห้องฝั่งตรงข้าม ถ้าฝั่งซ้ายเป็นห้องเสือพยัคฆ์ งั้นฝั่งขวาก็ต้องเป็นห้องของสิงห์คำรามแน่ สองพี่น้องอยู่ห้องตรงข้ามกันนี่เอง
ปึง ๆ ๆ
หลังจากกดออดห้องฝั่งตรงข้ามเสือพยัคฆ์สองสามครั้งแล้วอดร้อนใจระดมมือทุบบานประตูไม่ได้ ฉันทุบอยู่ชั่วครู่ประตูก็ถูกเปิด ร่างสูงเจ้าของห้องคือคนที่ฉันกำลังตามหา ใบหน้าเย็นชาของเขาเรียบนิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ แม้จะเห็นคนไม่รู้จักอย่างฉันยืนเคาะประตูหน้าห้อง
“น้องสาวฉันอยู่ที่ไหน?!” ไม่รอให้เขาตอบ ฉันถลาเข้ามาในห้อง ไม่สนแล้วว่าจะไร้มรรยาทหรือไม่ คนอย่างพวกเขาคงไม่จำเป็นต้องใช้คำนั้นด้วยหรอกมั้ง “สายซอ! แกอยู่ที่นี่หรือเปล่า?!”
“เจ้…” เสียงหวานคล้ายแปลกใจดังมาจากทางหน้าประตูห้องนอน สภาพน้องยังสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย แม้จะยับนิดหน่อย แต่ก็ดูปลอดภัยดี ฉันรีบเดินเข้าไปดึงเธอออกมาจากห้องนอน จับหมุนซ้ายหมุนขวาตรวจเช็คร่างกาย
“แกเป็นอะไรหรือเปล่า เขาทำอะไรแกหรือเปล่ายัยซอ?!”
“เขา?” สายซอเลิกคิ้วถาม ก่อนมองไปทางหน้าประตูคอนโดซึ่งมีร่างสูงของสิงห์คำรามยืนอยู่ โดยมีเสือพยัคฆ์ยืนพิงขอบประตูมองมาทางพวกเราด้วยสายตาเหมือนเจอเรื่องน่าสนใจ
“ใช่ ผู้ชายคนนั้นทำอะไรแกหรือเปล่า แล้วทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่หะ เจ้โทรหาก็ไม่ติด บ้านก็ไม่กลับ เป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว” ฉันยิงคำถามยาวเหยียดจนสายซอต้องยกมือขึ้นห้าม
“เดี๋ยว ๆ หยุดก่อนเจ้ เค้าไม่เป็นไร ไม่มีใครทำอะไรเค้าหรอก เอ่อ… เอาเป็นว่าเรากลับกันก่อนเหอะ เดี๋ยวเค้าเล่าให้ฟัง” สายซอไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบลากฉันออกจากห้องทันที ตอนจะเดินผ่านร่างสูงทั้งสองตรงหน้าประตู ฉันเหลือบตามองพวกเขาคนละที มองด้วยสายตาเหมือนกันคือไม่ถูกชะตา และได้รับสายตาเย็นชาตอบกลับมาจากสิงห์คำราม ส่วนเสือพยัคฆ์น่ะเหรอ…
เขายิ้ม! ยิ้มด้วยใบหน้าหล่อร้ายแสนอันตรายของเขา!
.
.
.
หลังจากสองสาวสองพี่น้องเดินเข้าลิฟต์ไปแล้ว หนุ่มหล่อคนน้องหันกลับมามองพี่ชายด้วยสายตาล้อเลียน ตั้งแต่ทั้งสองย้ายมาพักที่นี่ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เขาเห็นพี่ชายผู้แสนเย็นชาพาผู้หญิงเข้าห้อง นับว่าเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายที่น่าสนใจโคตร ๆ
“มองอะไร ไม่กลับห้อง?”
“ฮึ ไม่คิดว่าเจ้าป่าก็ลากเหยื่อเข้าถ้ำเป็นเหมือนกัน” เสือพยัคฆ์กระตุกยิ้มมุมปาก เรื่องสนุกแบบนี้ปล่อยไปง่าย ๆ ได้ยังไง
“เพ้อเจ้อ” สิงห์คำรามคว้าประตูจะปิดใส่หน้าน้องชายที่พูดจาเลอะเทอะ เขายังคงความเย็นชาหน้าตายไว้ได้อย่างดี
“เดี๋ยวสิไอ้เฮีย สรุปสนใจเธอหรือเปล่า?” มือหนายื้อบานประตูห้องพี่ชายไว้ เขาเลิกคิ้วสูงอย่างรอคำตอบ
“ทำไม? มึงสนใจยัยนั่นหรือไง?”
“เออ สนใจ”
สิงห์คำรามชะงักเล็กน้อย เพียงแค่เล็กน้อยจริง ๆ แต่กลับอยู่ในสายตาคมปราบของเสือพยัคฆ์ เขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างพอใจในท่าทีของพี่ชายตัวเอง
“ฮึ ไม่ต้องตกใจไปไอ้เฮีย เพราะคนที่กูสนใจไม่ใช่คนน้อง…”
“…”
“แต่เป็นคนพี่ต่างหากล่ะ”
