บทที่ 2 ห่วงสวัสดิภาพไข่

พรึ่บพับ!

พรึ่บพับ!

"เฮ้อ~"

ทั้งที่ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะเปลี่ยนเวลาเข้านอนเพื่อปรับสมดุลร่างกายให้ดีขึ้นจากอาการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ปาเข้าไปตีหนึ่งแล้วมิเชลก็ยังข่มตาหลับลงไม่ได้

"ทำไมการเข้านอนเร็วมันยากเย็นแสนเข็ญอย่างนี้เนี่ย"

ร่างสวยในชุดนอนผ้าซาตินบางเบาเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปโกรทฮอร์โมนไม่มีโอกาสได้หลั่งแน่ๆ

โครกคราก~

แต่สักพักก็เจอสาเหตุของการนอนไม่หลับ เมื่อเสียงท้องร้องคำรามดังขึ้นอย่างน่าหงุดหงิด สุดท้ายก็ต้องจำนนต่อเหตุผลที่ว่า หิว จนได้

"พรุ่งนี้ค่อยลดก็ยังทัน"

เธอบอกตัวเองเป็นการปลอบใจ อันที่จริงมิเชลไม่ได้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเลยสักนิด แต่เมื่อหลายวันก่อนถูกทักว่าจ้ำม่ำขึ้นเลยรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง โดยเฉพาะคนที่ทักคือคนเดียวกันกับคนที่เธอแอบชอบมาตั้งหลายปี

เมื่อไม่มีอะไรยับยั้งความหิวของเธอได้ เจ้าของหุ่นทรงลูกแพร์ก็ย่างกรายเข้าไปในครัวของคอนโดหรูทันที บรรยากาศด้านนอกกำลังมีฝนตกปรอยๆ ถ้าได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้อนๆ สักถ้วยก็ไม่เลวเหมือนกัน แม้ในสมองจะบอกว่ามันโซเดียมสูงแค่ไหนก็เถอะ แต่ถ้าได้กิมจิมาเพิ่มนะ โซเดียมสูงแค่ไหนก็ยอมพลีชีพ ท่าพิลาทีสมีในหัวตั้ง12ท่ามีอะไรให้กลัวกันแค่พุงย้อย

ทว่าพอเปิดตู้ลอยออกมากลับไม่พบของที่ต้องการเลยสักกล่อง

"อ้าว~ หมดตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เอาไงดีทีนี้"

เปิดตู้ค้างอยู่อย่างนั้นพลางใช้ความคิด สักพักก็ปิดมันเอาไว้ตามเดิมจากนั้นก็เดินไปหยิบโทรศัพท์และคีย์การ์ดของห้องข้างๆ ด้วยความเคยชิน

ฟังไม่ผิดหรอก เพราะห้องข้างๆ เป็นห้องของแทนไท เพื่อนสนิทของเธอเอง ถึงแม้หมอนั่นจะมาพักแค่อาทิตย์ละวันสองวันแต่ในห้องของเขามีของกินเยอะกว่าร้านขายของชำเสียอีก

แกร๊ก!

"ขอโทษนะเฮีย หนูจำเป็นต้องทำจริงๆ กระเป๋าตังค์ๆ อยู่ไหนเนี่ย"

แต่ทันทีที่เปิดประตูห้องออกไปมิเชลก็พบกับหญิงร่างบางในชุดเดรสสีแดงสุดเซ็กซี่คนหนึ่ง เธอคนนั้นกำลังทำบางอย่างกับแทนไท ซึ่งชายหนุ่มหมดสตินั่งพิงอยู่กับประตูห้อง ส่วนแม่คนนั้นกำลังรื้อค้นกระเป๋าสตางค์ของแทนไทอย่างลุกลี้ลุกลน

"นั่นเธอจะทำอะไรเพื่อนฉัน หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!"

"ว้าย! หนูปะ...เปล่านะคะ หนูแค่หาคีย์การ์ดแล้วจะพาเฮียไปขึ้นสวรรค์"

สาวชุดแดงตัวสั่นงันงก โดยที่มือของเธอนั้นยังถือกระเป๋าสตางค์ของแทนไทอยู่ มิเชลก้าวขาฉับๆ ไปประชิดตัวเธออย่างรวดเร็ว รีบคว้าข้อมือเล็กของหล่อนเอาไว้จากนั้นก็ล้วงเข้าไปในหน้าอกของเธอ

พรึ่บ!

"แล้วนี่อะไร"

ธนบัตรสีเทาหลายใบถูกกระชากออกจากชุดชั้นในของผู้หญิงชุดแดงทำเอาอีกฝ่ายหน้าซีดเผือดเมื่อถูกจับได้คาหนังคาเขา

"นะ...นี่เงินหนูนะ เอาคืนมา" เธอพยายามยื้อแย่งแต่พอเห็นมิเชลทำหน้าดุใส่ก็ไม่กล้าต่อสู้อีก

"ฉันเห็นหมดแล้วย่ะ นี่หล่อนไม่แหกตาดูเหรอยะว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิดกี่ตัว ถึงได้กล้าทำกับคนเมาแบบนี้ ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับเธอข้อหาลักทรัพย์เพื่อนฉัน" กดโทรศัพท์โทรออกหาตำรวจที่รู้จักทันที

"ยะ...อย่านะคะคุณผู้หญิง อย่าแจ้งตำรวจเลยนะคะ หนูทำไปเพราะจำเป็นจริงๆ"

เด็กสาวทรุดลงกอดขามิเชลอีกทั้งร้องห่มร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ดีที่ชั้นนี้มีเพียงห้องพักของเธอกับแทนไทไม่อย่างนั้นลูกบ้านคนอื่นคงได้แตกตื่นกันกลางดึก

มิเชลกลอกตาเซ็งๆ แล้วสะบัดเรียวขาออกอย่างแรง แต่เด็กนั่นยังไม่ยอมปล่อย

"แม่ของหนูกำลังป่วยบ้านก็ถูกยึดหนูต้องการหาเงินไปรักษาแม่เลยมาทำงานกับพี่มิ้วกี้ จริงๆ นะคะ หนูขายจริงๆ แต่...แต่..."

"แต่อะไรยะ!"

มิเชลตวาดเสียงดังพร้อมลดโทรศัพท์ลงเพราะเธอวางสายไปก่อนที่ตำรวจจะรับสาย ดูจากอายุเด็กคนนี้แล้วไม่น่าจะเกิน18ปี ทำไมกล้ามาทำงานแบบนี้

ไอ้คนที่มันเมาหมดสภาพอยู่นี่ก็ยังไง จับไปไม่มีหางก็จะเอามาระบายราคะหมดเลยงั้นเหรอ มันน่าจับตัดตอนนัก

ตอนนี้มิเชลเหมารวมไปหมดไม่รู้จะโมโหให้ใครกันแน่ระหว่างเด็กขายบริการหรือแทนไท

"หนูไม่กล้าค่ะ นี่เป็นครั้งแรกหนูกลัวเลยมอมเหล้าเฮียจนกลายเป็นสภาพแบบนี้ ตั้งใจจะพาเฮียมาส่งแล้วแอบหนีไปเลย แต่..."

"แต่เห็นว่าเพื่อนฉันเมาเลยจะรูดทรัพย์เขาใช่มั้ย"

"ก็หนูกลัวไม่ได้ค่าตัวนี่คะ" เธอเอ่ยด้วยน้ำตานองหน้า

"เธอมันพวกมิจฉาชีพชัดๆ เห็นทีจะปล่อยไว้ไม่ได้ซะแล้ว"

"น่ะ...นั่นคุณจะทำอะไร โทรหาตำรวจไม่ได้นะ" รีบกอดขามิเชลอ้อนวอนไว้อีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยกโทรศัพท์ขึ้นกดหาอะไรบางอย่าง

"ก่อนจับส่งตำรวจฉันต้องโทรหายัยมิ้วกี้นั่นก่อน แล้วไปร้องสคบ. ข้อหาเอาเปรียบผู้บริโภค"

"อย่านะคะหนูขอร้อง ไม่อย่างนั้นพี่มิ้วกี้ต้องให้คนมาฆ่าหนูแน่ๆ แล้วแม่ของหนูจะอยู่กับใคร ฮือ..."

เด็กสาวก้มลงกราบเท้าของมิเชลพลางร้องไห้ไม่หยุดจนคนถูกกราบตกใจ เอาจริงมิเชลแค่จะขู่ไม่ได้จับกุมเอาไว้ ไม่คิดว่าเด็กนั่นจะกลัวขนาดนี้ แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะหลบหนีอีก

"อายุเท่าไหร่แล้ว เอาบัตรประชาชนมาดูซิ! " เด็กสาวรีบเปิดกระเป๋าสะพายข้างแล้วหยิบบัตรประชาชนออกมายื่นให้มิเชลทันที

"นี่จ้ะ"

"อายุสิบเก้าย่างยี่สิบ งานมีตั้งเยอะตั้งแยะไม่รู้จักไปหาทำ มาขายตัวทำไม" เห็นอายุแล้วมิเชลยังตะคอกใส่ด้วยความโมโห

"หนูไม่ได้มีทางเลือกขนาดนั้นหรอกค่ะ คิดว่าทำอะไรแล้วได้เงินเร็วๆ ก็ทำเลย ฮึก! พี่สาวอย่าบอกพี่มิ้วกี้เลยนะคะ อย่าแจ้งความด้วย"

คุกเข่ายกมือไหว้มิเชลด้วยน้ำตานองหน้าไม่หยุด

"ฉันไม่บอกก็ได้แต่ต้องยึดบัตรเธอเอาไว้ก่อน ถ้าพรุ่งนี้เพื่อนฉันตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามีอะไรหายไปมากกว่าเงินสามพันในกระเป๋าฉันตามไปกระทืบเธอถึงคลับยัยนั่นแน่"

"ละ...แล้วหนูจะติดต่อขอรับคืนได้เมื่อไหร่คะ หนูต้องใช้ตอนไปทำงานพิเศษต่อนะ อีกอย่างหนูยังไม่ได้เอาอะไรเฮียไปด้วยซ้ำ"

"ใครจะไปเชื่อผู้หญิงอย่างเธอ ยังไงก็ต้องยึดไว้ก่อน เพราะถ้าเกิดเพื่อนฉันฟื้นขึ้นมาแล้วไข่แหว่งไปใครจะรับผิดชอบ"

"มันจะแหว่งได้ยังไง หนูยังไม่ได้จับหรรมเฮียเลยด้วยซ้ำ พี่ก็ห่วงสวัสดิภาพหรรมเฮียเกิ๊น"

"ไม่รู้ล่ะ เอาไว้ตรวจสอบแล้วถ้าเพื่อนฉันปกติฉันจะเอาบัตรนี่ไปฝากไว้กับนิติข้างล่างให้ก็แล้วกัน ไสหัวกลับไปได้แล้ว! ไป!"

"ค่ะๆ" เด็กสาวลุกขึ้นจากนั้นก็รีบวิ่งไปเข้าลิฟต์ทันที ทิ้งเอาไว้เพียงมิเชลที่ยืนหอบหายใจด้วยความโมโหและแทนไทที่เมาจนไม่ได้สติ

สุดท้ายก็เป็นเธอที่หิ้วปีกแทนไทเข้ามาในห้อง ดีที่เขายังพอมีสติลุกเดินได้บ้าง แต่กว่าจะลากกันเข้ามาได้ก็เซล้มหน้าฟาดพื้นไปหลายที

"จะตายไหมเนี่ยแทนเมาเหมือนหมาขนาดนี้ มีเรื่องทุกข์ใจอะไรหนักหนา ถึงได้ทำร้ายตับไม่เว้นแต่ละวัน"

บทก่อนหน้า
บทถัดไป