บทที่ 8 ยั่วยวนปั่นหัว
ชายหนุ่มถอนใจเฮือก เหลียวตามร่างขาวอวบน่าฟัดด้วยความเสียดาย
เดวินนั่งกุมขมับ ก้มมองตรงเป้ากางเกงที่คับตุงอย่างปลงไม่ตก ทั้งหัวบนหัวล่างของเขาคิดวุ่นวายอยู่แต่เรื่องของเธอ แล้วเธอยังจะมายั่วเขาแบบนี้
ร่างสูงใหญ่ลุกไปอาบน้ำดับความร้อน ฝ่ามือหนาชักรูดแก่นกายที่ตั้งชันแข็งปั๋งเพราะพิษใคร่ ชายหนุ่มหลับตานึกถึงใบหน้าขาวสวยของผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในจินตนาการวาบหวิวตั้งแต่เขาผันอาชีพมาเป็นบอดี้การ์ด
คุณหนูยูริ... คุณหนูญรินดา... เธอไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของผู้ชายที่ต้องทนเก็บกดอารมณ์หื่น
“คนสวยของพี่ ช่างยั่วเหลือเกิน” ครางโหย มือที่กุมกระชับท่อนเอ็นขยับขึ้นลงรุนแรง สมมติว่าได้ถูไถอยู่ในกายสาว
เนื้อตัวเธอหอมกรุ่นนุ่มนิ่ม ช่วงเอวเล็กนิดเดียว แต่หน้าอกหน้าใจใหญ่ทะลักขอบเสื้อ สะโพกผายงอนเด้งน่ากระแทกที่สุด
“ซี้ด... ยูริจ๋า... พี่อยากโดนหนูขึ้นคร่อมอีก” บ่าไหล่กว้างสั่นเทาใต้สายน้ำที่สาดกระเซ็น บั้นเอวสอบหยัดเกร็งกระเด้าโยกเร่งจังหวะ เสียงกระถอกลำรักเปียกชื้นดังรัว ๆ
ความรู้สึกเสียวสยิวสุดกู่ที่ไหลมารวมอยู่ตรงปลายทาง จวนเจียนจะพุ่งกระฉูด
แต่ทุกอย่างก็สะดุดกึก เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้าน
เดวินกังวลว่าญรินดาจะไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจวิ่งออกมาจากห้องน้ำในสภาพล่อนจ้อน
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นน่าตกใจยิ่งกว่า หญิงสาวแต่งหน้าสวยเฉี่ยว สวมชุดเดรสรัดรูปสีเนื้อเหมือนในวันที่โดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่ รางบางยืนอยู่ตรงบันได หันมาพูดกับเขาเสียงหวาน
“นั่นรถของพี่บอย ผู้ชายที่ฉันเพิ่งรู้จักในทินเดอร์ ฉันโทรเรียกให้เขามารับไปเที่ยวที่ผับใกล้ ๆ แถวนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยนะคะ ฉันสัญญาว่าจะกลับก่อน 6โมงเช้า”
เธอปรายตามองเรือนกายบึกบึนท่อนล่าง ยิ้มให้เขาด้วยท่าทางว่าสมน้ำหน้าในความซื่อบื้อ แล้วก็เดินไปขึ้นรถสปอร์ตคันหรูที่จอดรออยู่หน้าบ้านอย่างกระดี๊กระด๊า
แสงสีฉูดฉาดและเสียงดนตรีจังหวะเร่งเร้าที่ดังกระหึ่มภายในดิสโก้ผับกระตุ้นให้อะดรีนาลีนในร่างกายพลุ่งพล่าน ยิ่งดึกบรรยากาศในฟลอร์เต้นรำยิ่งอลหม่านคึกครื้น
คืนนี้ หญิงสาวใส่ชุดเดรสรัดรูปสีเนื้อที่นั่งจิบมาร์ตินี่บนเก้าอี้สตูลบริเวณหน้าเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม เป็นที่สนใจของเพศตรงข้ามมากที่สุด
เธอยกขาไขว่ห้างอวดน่องเรียวยาวขาวผ่อง ขอบกระโปรงผ้ายืดร่นพรืดขึ้นจนเกือบมองเห็นอันเดอร์แวร์ ใบหน้าสวยจัดเชิดหยิ่ง ไม่แคร์สายตาเขียวปัดของชายหนุ่มใส่เสื้อสีดำกางเกงยีนสีดำที่ตามมาคุมเชิงอยู่ห่าง ๆ
เขาจ้องเขม็งมาที่เธอ
เธอก็ชำเลืองหางตามองเขาอย่างอวดดี
“น้องยูริ เราไปดิ้นเรียกเหงื่อกันสักหน่อยไหมครับ”
หนุ่มหล่อหน้าตี๋ที่นั่งขนาบข้างหญิงสาว ชะโงกหน้าเข้ามากระซิบกระซาบที่ข้างหูของเธอ ท่าทางของทั้งคู่ดูสนิทสนม ไม่เหมือนกับคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน
“ดีเหมือนกันค่ะ” ญรินดาวางแก้วค็อกเทลลงบนโต๊ะ ส่งมือให้ชายหนุ่มจับจูงไปที่ฟลอร์เต้นรำ
ร่างอวบอิ่มขาวผ่องในชุดเดรสรัดรึงที่ส่ายสะโพกโยกไหวไปตามจังหวะดนตรี ทำให้พวกหนุ่ม ๆ ส่งเสียงฮือฮาด้วยความชอบใจ ยิ่งมีคนเป่าปากส่งเสียงเชียร์ เธอยิ่งสนุกและรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ต้องการ
เดวินถอนใจอย่างอ่อนอก ภาพหญิงสาวถูกผู้ชายมากหน้ารุมล้อม ทำให้เขาหงุดหงิดอารมณ์เสีย แต่เขาไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของเธอ เขามีหน้าที่แค่ปกป้องคุ้มครองเธอเท่านั้น
ท่ามบรรยากาศชุลมุนวุ่นวาย จมูกของเดวินได้กลิ่นความไม่ชอบมาพากล ระหว่างที่คนส่วนใหญ่หมกมุ่นอยู่กับความบันเทิง ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่ามีมือลึกลับแอบใส่อะไรบางอย่างลงไปในแก้วมาร์ตินี่ของหญิงสาว
เขาพยายามเดินฝ่าฝูงชนที่กรูกันมานั่งพักหลังจากดีเจเปลี่ยนเพลงเป็นจังหวะผ่อนคลาย
ขณะนั้นญรินดากลับมานั่งประจำที่พอดี เดวินยื่นมือไปจับมือเธอไว้ ก่อนที่เธอจะยกแก้วค็อกเทลขึ้นมาจิบแก้กระหาย
“เฮ้ย ! มึงเป็นใครวะ ไอ้เสร่อ ปล่อยมือจากผู้หญิงของกูเดี๋ยวนี้นะโว้ย” บอยทำท่ากร่าง เพราะถือว่าตัวเองมีพรรคพวกอยู่ในผับ
แขกที่มาเที่ยวตีวงล้อม เว้นพื้นที่ไว้ให้ทั้งคู่อย่างรู้งาน...
“นั่นสิ คุณเป็นใครคะ”
ญรินดาทำหน้าซื่อตาใส แสร้งว่าไม่รู้จักเขาเพื่อผสมโรงกับอีกฝ่าย เดวินจึงต้องปล่อยมือจากเธอ
ฤทธิ์แอลกอฮอล์และความขุ่นเคืองที่สะสมอยู่ในใจ ทำให้ญรินดานึกครึ้ม อยากจะหาเรื่องปั่นหัวชายหนุ่ม ดูจากหน่วยก้านของทั้งสองฝ่าย ถ้าหากต่อยกันแบบตัวต่อตัว เดวินเหนือกว่าหนุ่มตี๋คู่ควงของเธอหลายเท่า แต่ผู้ชายท่าดีทีเหลวอย่างบอยคงไม่กล้าลุยเดี่ยว ต่อให้มีการตะลุมบอนกันเกิดขึ้น ญรินดามั่นใจว่าเดวินเอาตัวรอดได้สบาย
“ผมเห็นคนแอบใส่อะไรบางอย่างลงไปในแก้วค็อกเทลของคุณ ห้ามดื่มเด็ดขาด” น้ำเสียงเขาเคร่งเครียด
“กูเป็นแขกวีไอพีของที่นี่ ไม่มีใครกล้ามาวุ่นวายกับโต๊ะของกู เมาแล้วก็อย่ามาหาเรื่องชาวบ้าน” บอยทำทีโมโหกลบเกลื่อนพิรุธ
“ไม่ต้องทะเลาะกันค่ะ เดี๋ยวฉันจะพิสูจน์ความจริงเอง” ญรินดายกแก้วมาร์ตินี่ขึ้นมาดื่มรวดเดียว ทำให้ทุกคนมองเธอตาค้าง
“คุณทำบ้าอะไร !”
