บทที่ 11 ฆ่า

อีกด้านหนึ่งของหลังผับซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากหญิงสาวมากนัก ร่างสูงสวมฮู้ดคลุมศีรษะยืนอยู่ในมุมมืดบริเวณนั้น ดวงตาเรียวคมดุจสัตว์ร้ายจ้องมองไปที่ร่างบางด้วยแววตาดำมืด ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มเย็นน่ากลัว

ชายหนุ่มพยายามอย่างหนักเพื่อจะหักห้ามใจไม่ให้เดินไปกระชากร่างบางแล้วลากเธอไปลงนรกซะเดี๋ยวนี้ เขาอยากทำแบบนั้นใจแทบขาดเพราะมันคือสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดหลายปี เพราะเธอไม่ได้แค่ทำลายชีวิตของเขา แต่เธอทำลายตัวตนและความเป็นคนของเขาจนหมดสิ้น

ถึงเวลาแล้วอัยย์… ถึงเวลาที่เธอจะต้องชดใช้ให้กับฉันแล้ว!

.

.

.

[บทบรรยาย อัยย์]

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นสามนัดหลังจากฉันก้าวลงจากรถ บอดี้การ์ดคนหนึ่งพุ่งเข้ามาบดบังฉันไว้พร้อมจับตัวให้ก้มตัวลง เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้ดูเหมือนว่ามันจะเฉี่ยวบริเวณที่ฉันยืนอยู่ไม่ไกล ไม่มีเสียงกรีดร้องตื่นตกใจจากฉันเลยสักนิด มีเพียงใบหน้าเรียบเฉยและแววตานิ่งขึงมองไปยันทิศทางของกระสุนนั่น

“พาคุณหนูหนีไปก่อน! เร็ว!” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นพร้อมกับแรงกระชากเบา ๆ ให้ฉันเดินตามไปอีกทาง ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัวท่ามกลางอากาศหนาวเย็นที่เริ่มจับตัวลง ฉันสะบัดแขนออกจากการจับกุมของบอดี้การ์ดพลางกระชับเสื้อโค้ชแน่น สองเท้าก้าวเดินไปตามตรอกมืด ๆ ซึ่งน่าจะเป็นทางลัดไปที่ไหนสักแห่ง

เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนฉันเพิ่งไปร่วมงานแถลงข่าวการเลื่อนตำแหน่งของพ่อ ท่านได้เลื่อนตำแหน่งในการเมืองอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ และถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากไปเพียงใดก็ต้องจำใจไปร่วมงานอยู่ดี ส่วนเหตุการณ์ลอบยิงขณะนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการเมืองของพ่ออีกนั่นแหละ

เชื่อไหม? ฉันเจอเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่หกขวบ คิดว่าฉันควรชินไหมล่ะ!

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงปืนปริศนาดังก้องภายในตรอกเบื้องหน้า ฉันชะงักฝีเท้าแล้วจับจ้องผ่านความมืดเข้าไป บริเวณนั้นคือจุดที่เกิดเสียง บอดี้การ์ดรีบขยับตัวบังฉันตามสัญชาตญาณ ฉันคิดว่าตอนนี้เราเดินมาถึงกลางตรอกแล้วและอีกไม่กี่เมตรก็จะถึงทางออก คนที่เข้ามาขัดขวางทางออกของฉันจะต้องเป็นพวกเดียวกับกลุ่มนั้นแน่ ๆ

“คุณหนูระวังตัวนะครับ เดี๋ยวผมจะเดินไปดูสักครู่”

“...” ฉันไม่ตอบอะไร ทำเพียงยืนกอดตัวเองนิ่ง ๆ เพื่อบรรเทาความหนาว สายตามองตามร่างสูงที่ค่อย ๆ ขยับเดินไปด้านหน้าเข้าหาความมืด ฉันไม่รู้หรอกว่าตรงนั้นมันมีอะไร แต่มันจะต้องไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่นอน

ปัง!

“อ๊ากกกกก!” เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นอีกครั้ง ฉันสะดุ้งเล็กน้อยพยายามหรี่สายตามองผ่านความมืดเข้าไป ความเงียบกลืนกินรอบตัว และฉันไม่เคยกลัวไม่ว่าตรงนั้นจะมีอะไรก็ตาม ฉันตัดสินใจก้าวเท้าเดินไปด้านหน้าช้า ๆ ระยะการมองเห็นค่อย ๆ ปรับโฟกัสทีละนิด จนกระทั่งเดินมาถึงจุดที่มีร่างสูงสวมชุดสีดำกำลังนอนคว่ำอยู่ ฉันจำได้ว่าเขาคือใคร แต่ที่ไม่เข้าใจคือใครเป็นคนฆ่าเขา?

“...”

ท่ามกลางความเงียบอันแสนหนาวเย็น ฉันกวาดสายตามองไปด้านหน้าอีกครั้ง สองเท้าค่อย ๆ ก้าวเดินต่อช้า ๆ และพบว่าบริเวณนี้ไม่ได้มีเพียงร่างของบอดี้การ์ดฉันเท่านั้น แต่ยังมีร่างของชายปริศนาอีกสามคนกำลังนอนเกลื่อนกลาดอยู่กลางตรอก สภาพของแต่ละคนโชกไปด้วยเลือด พวกเขาล้วนถูกกระสุนปืนพรากลมหายใจไม่ต่างกัน

นี่มัน… เกิดเรื่องอะไรขึ้น!?

ฉันถามตัวเองในใจพลางกวาดสายตามองรอบตัว นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ มีใครคนหนึ่งลั่นไกปลิดชีพผู้ชายสามคนนี้ และถ้าเดาไม่ผิดสามคนนี้เป็นคนที่มาดักรอฉันแน่ ๆ แต่กลับถูกใครบางคนฆ่าทิ้งเสียก่อน

เพื่ออะไร?

ถ้าคนคนนั้นฆ่าชายสามคนนี้จริง ๆ แสดงว่าเขามาเพื่อปกป้องฉันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเขาถึงต้องฆ่าบอดี้การ์ดของฉันด้วยล่ะ ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

ตึก ตึก ตึก

เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ฉันรีบหันกลับไปมองด้วยความระแวดระวังทันที ซึ่งในจังหวะนั้นเองร่างของฉันถูกใครคนหนึ่งตรงเข้ามาซ้อนด้านหลังด้วยความรวดเร็ว ความเย็นเฉียบจากฝ่ามือหนาสัมผัสลงบนลำคอฉัน ปลายนิ้วแข็งกระด้างกดลึกลงบนหลอดลมจนฉันไม่กล้าแม้แต่ขยับตัว

“คะ คุณหนู!” เสียงเรียกจากบอดี้การ์ดที่เพิ่งวิ่งเข้ามาหาฉันขาดหายไปทันทีเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ฉันกำลังถูกใครสักคนจับเป็นตัวประกันโดยไม่ทันตั้งตัว สัมผัสได้ถึงไอร้อนบริเวณแผ่นหลังและลมหายใจเย็น ๆ เป่ารดต้นคอ มืออีกข้างหนึ่งของเขากำลังถือวัตถุสีเงินเล็งไปเบื้องหน้า และทิศทางที่มันมุ่งไปก็คือร่างของบอดี้การ์ดของฉันนั่นเอง

“จับตาดูไว้ให้ดี ๆ การฆ่าครั้งนี้… เพราะเธอ”

ปัง!

“อึก!”

หลังจากเสียงกระซิบน่ากลัวนั่นจบลง ลูกกระสุนจากปืนในมือเขาก็พุ่งเข้าใส่บอดี้การ์ดของฉันทันที ร่างสูงนั่นค่อย ๆ ล้มลงขณะที่กระสุนตัดผ่านขั้วหัวใจ ฉันมองภาพนั้นด้วยแววตานิ่งงัน ภายในหัวใจเริ่มเต้นรัวถี่ขึ้น ฉันไม่รู้ว่าคนคนนี้ต้องการอะไรจากฉันกันแน่ เขาจับตัวฉันและฆ่าคนของฉันเพื่ออะไร

“ต้องการอะไร…” ฉันพยายามเปล่งเสียงถาม แม้มันจะยากเย็นเพราะถูกปลายนิ้วกดหลอดลมเอาไว้ คนคนนี้รู้จุดตายเป็นอย่างดี เพียงแค่เขาบิดข้อมือนิดเดียวก็สามารถปลิดชีพฉันได้แล้ว

ช่างน่ากลัวอะไรขนาดนี้…

“ชีวิตเธอ… อัยย์”

ตุบ!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป