บทที่ 15 ล่าม
‘เอาเด็กออกซะ! ถ้าเธอไม่อยากตาย!’
‘ไม่นะ! ฉันไม่ยอมเด็ดขาด!'
'ก็แค่ก้อนเลือดชั่ว ๆ ที่ไม่ควรปล่อยให้ลืมตาดูโลก! เธอต้องฆ่ามัน!'
‘ไม่! ฉันจะไม่ฆ่าเขา!’
‘งั้นฉันจะฆ่าเธอแทน! ฉันจะฆ่าทั้งเธอและไอ้มารหัวขนในท้องเธอซะ! ชอนซา!’
‘อย่านะ! ไม่! กรี๊ดดดดด!!!’
เฮือกกก!!
ฉันถลันตัวลุกขึ้นด้วยหัวใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้า ดวงตากะพริบถี่เพื่อปรับสายตาท่ามกลางความมืดมิด บรรยากาศเย็นเฉียบรอบตัวสั่นประสาทฉันเล็กน้อย ความเจ็บปวดบริเวณฝ่ามือทั้งสองข้างค่อย ๆ เรียกสติของฉันให้กลับมาสู่โลกอันดำมืดตรงหน้าอีกครั้ง
ที่นี่มัน… ที่ไหนกัน??
ฉันกวาดสายตามองรอบตัวด้วยความไม่คุ้นชิน แม้ในที่แห่งนี้จะมืดมากจนแทบมองไม่เห็น แต่ฉันรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนก่อนที่ฉันจะหมดสติไปแน่ ๆ เพราะสภาพของที่นี่โดยรอบมันคือ… โกดัง!
อะไรกัน?! ฉันมาอยู่ในสถานที่สกปรก ๆ แห่งนี้ได้ยังไงกัน ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้ฉันถูกผู้ชายคนหนึ่งลักพาตัวมา และตื่นขึ้นมาในห้องนอนห้องหนึ่ง จากนั้นฉันก็หมดสติไปอีกครั้งเพราะถูกเขาคนนั้นทำร้าย…
จริงสิ! มือทั้งสองข้างของฉันถูกเศษกระจกจากกรอบรูปนั่นบาดจนเลือดไหลไม่หยุดนี่นา ฉันเสียเลือดมากจนหมดสติไป คิดได้ดังนั้นฉันก็รีบยกสองมือขึ้นมาดูทันที
เอ๊ะ… ผ้าพันแผลงั้นเหรอ?
มือทั้งสองข้างของฉันถูกผ้าพันแผลสีขาวพันรอบมือไว้อย่างลวก ๆ รอยเลือดสีแดงเข้มเริ่มแห้งเกรอะกรังอย่างน่ากลัว ผู้ชายสารเลวคนนั้นทำร้ายฉันแล้วยังทำแผลให้ฉันด้วยอย่างนั้นเหรอ? ทำไมกัน? แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?
ฉันนั่งถามตัวเองในใจก่อนจะตัดสินใจรวบรวมแรงที่เหลือเพียงน้อยนิดเพื่อลุกขึ้นยืน ฉันต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ ในโกดังแห่งนี้มันทั้งหนาวและสกปรกไปหมด ฉันจะไม่ทนนั่งโง่อยู่เฉย ๆ เด็ดขาด
หากทว่า…
แกร๊ก…
“โอ๊ย…” ฉันที่กำลังจะก้าวเท้าเดินกลับต้องสะดุดอะไรบางอย่างจนเกือบจะล้มถ้าไม่ติดมือทั้งสองข้างค้ำยันผนังเอาไว้ซะก่อน ส่งผลให้ความเจ็บปวดตรงฝ่ามือจู่โจมฉันในทันที ฉันทิ้งตัวนั่งลงที่เดิมก่อนจะก้มลงมองต้นเหตุเมื่อครู่
นี่มัน… โซ่ตรวนงั้นเหรอ?!
ฉันนิ่งค้างไปหลายนาทีกับสิ่งที่เพิ่งจะรับรู้ บริเวณข้อเท้าข้างซ้ายของฉันถูกวัตถุเย็นเฉียบล่ามเอาไว้ด้วยโซ่ตรวนราวกับนักโทษในเรือนจำ มันทำให้ฉันรู้สึกช็อกจนพูดอะไรไม่ออก
ผู้ชายคนนั้น… คนสารเลวนั่นล่ามฉันเอาไว้ในโกดังโทรม ๆ ด้วยโซ่ตรวน… เขามันสารเลวเกินไปแล้ว!!
.
.
.
เคร้ง!
เสียงบางอย่างดังขึ้นใกล้ตัวเรียกเปลือกตาฉันให้เปิดขึ้นช้า ๆ ไม่รู้ว่าเวลามันผ่านไปนานเท่าไหร่นับตั้งแต่ฉันลืมตาตื่นครั้งก่อน รู้แต่ว่าร่างกายฉันตอนนี้มันอ่อนแรงมาก ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย แถมบาดแผลที่มือก็เริ่มอักเสบมากกว่าเดิม อากาศรอบตัวเย็นจัดจนหนาวสั่นไปหมด มันคือความทรมานที่ฉันไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต มันทรมานจนอยากจะกลั้นใจตาย…
ฉันพยุงตัวลุกขึ้นจากฟูกที่นอนเก่า ๆ เพื่อมองหาต้นเสียงเมื่อครู่ มันคือถาดอาหารที่ถูกวางกระแทกลงตรงหน้าฉันนั่นเอง และนอกจากถาดอาหารนั้นยังมีเงาของร่างสูงพาดผ่านลงมา เบื้องหลังเขาคือประตูซึ่งกำลังเปิดกว้างอยู่ แสงไฟจากด้านนอกส่องเข้ามาจนฉันรู้สึกแสบตา
“…” เขายืนมองฉันเพียงชั่วครู่ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินกลับออกไป ฉันมองไม่เห็นว่าเขากำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่ เพราะแสงจากด้านหลังเขามันส่องตาจนรู้สึกแสบไปหมด จึงทำได้เพียงเปล่งเสียงอันแหบแห้งของตัวเองออกมาเบา ๆ
“ดะ… เดี๋ยว”
ร่างสูงเดินห่างออกไปไม่กี่ก้าวหยุดชะงักลง ฉันพยายามลุกขึ้นยืนแม้จะไร้เรี่ยวแรงเต็มทีก็ตาม แต่ฉันจะไม่ยอมทนอยู่ในสภาพแบบนี้อีกแล้ว ทั้งหนาว ทั้งทรมาน ความเจ็บปวดที่มือมันกำลังเล่นงานฉัน!
“ฉัน… เจ็บ”
“…”
“ปล่อย… ปล่อยฉันสักที” ฉันกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ต้องบอกก่อนว่าช่วงที่ฉันติดอยู่ที่นี่ ทำให้ฉันมีเวลาคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตอนแรกฉันไม่รู้เจตนาของผู้ชายคนนี้เลย ฉันแค่เข้าใจว่าเขาลักพาตัวฉันมาเพื่อเรียกค่าไถ่หรือเป็นตัวประกันเพราะต้องการต่อรองบางอย่างกับพ่อของฉันเท่านั้น ฉันคิดแบบนั้นจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เหตุการณ์ที่เขาทำร้ายฉันจนมือทั้งสองข้างมีบาดแผลฉกรรจ์จากเศษกระจกของกรอบรูปใบนั้น…
ผู้หญิงที่อยู่ในภาพบนกรอบรูปนั่น… ฉันมั่นใจว่าเธอจะต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับผู้ชายคนนี้แน่ ๆ และการที่เขาลักพาตัวฉันมาก็คงจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นสินะ
ผู้หญิงที่ตามหลอกหลอนฉันแม้แต่ในความฝัน!
