บทที่ 20 นรก
ปึก!
“โอ๊ย” ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ฮาเดสผลักฉันลงบนฟูกแข็ง ๆ ด้วยความรุนแรง เขากวาดสายตามองเชือกบนผนังไล่มาจนถึงขวดน้ำก่อนจะหยุดลงที่โซ่ตรวน แววตาดำมืดมีประกายไฟน่ากลัวผุดขึ้น นั่นทำให้ฉันรีบถอยหลังหนีทันที
“หึ… เธอนี่มันร้ายไม่ใช่เล่น ถึงขนาดอ่อยไอ้เวรนั่นจนมันติดกับเลยเหรอ” เขาปรามาสฉันน้ำเสียงเย็นชา แววตาดุร้ายจ้องลึกเข้ามา
“ฉะ… ฉันไม่ได้อ่อยเขานะ อาคิระเขามาช่วยฉัน… อ๊ะ!”
“หยุดมารยาได้แล้วอัยย์! คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่าผู้หญิงชั่ว ๆ อย่างเธอมันทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ!” ฉันพูดยังไม่ทันจบดี ฮาเดสกลับทาบทับลงมาบนตัวฉันอย่างรวดเร็ว เขารวบสองมือของฉันขึ้นไปกดไว้เหนือหัว แล้วใช้มืออีกข้างเอื้อมแกะเชือกเส้นนั้นออกจากผนังโกดังก่อนจะเอามันมามัดข้อมือทั้งสองของฉันแทน
“หยุดนะ! ฉันเจ็บ!”
แควก!!
“อ๊ะ!! จะ… จะทำอะไร!” สองตาฉันเบิกโพลงด้วยความตื่นตกใจ เมื่อถูกผู้ชายเหนือร่างลงมือฉีกทึ้งเสื้อผ้าออกจากร่างกายด้วยความดิบเถื่อน ผิวเนื้อของฉันถูกความคมของผ้าบาดจนแสบไปหมดทั้งตัว ฉันกรีดร้องเหมือนคนเสียสติพยายามดิ้นหนีโดยไม่สนใจว่าจะโดนเชือกที่ข้อมือบาดจนเลือดไหลสักแค่ไหน
ร่างทั้งร่างของฉันเปลือยเปล่าภายในเวลาไม่ถึงนาทีด้วยฝีมือของคนสารเลว เขาฉีกแม้กระทั่งบราเซียของฉัน เหลือไว้เพียงชั้นในตัวน้อยที่ปกปิดส่วนสำคัญที่กำลังโดนหน้าขาของเขากดทับอยู่ พอนึกถึงสภาพของตัวเองตอนนี้จู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
นี่ฉันกำลังเปลือยต่อหน้าผู้ชายสารเลวคนนี้อย่างนั้นเหรอ… มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม...
“เคยบอกแล้วไงว่าฉันจะเป็นกระจกสะท้อนการกระทำของเธอ” ฮาเดสกระซิบบอกเสียงต่ำ ฉันแทบไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลยสักนิด ตอนนี้สมองมันอื้อไปหมด หูหนวกตาลายไปชั่วขณะ ฉันกำลังช็อกกับสถานการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างมาก “ชอนซาต้องตายไปพร้อมกับลูกในท้อง...”
“...”
“เด็กคนนั้นถูกพิพากษาให้ตายทั้งที่ยังไม่เคยลืมตาดูโลก… มันช่างบัดซบสิ้นดี” เขายังคงพูดพร่ำต่อไปขณะใช้มือข้างหนึ่งกดข้อมือที่ถูกมัดของฉันเอาไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างที่ยังว่างเขาใช้มันทำร้ายร่างกายฉันด้วยการบีบเคล้นไปทั่วทุกส่วนอย่างไร้ความปรานี สัมผัสรุนแรงสร้างความเจ็บปวดให้กับฉันอย่างแสนสาหัส
“อึก…” เสียงร้องของฉันสะดุดไปขณะทรวงอกถูกบีบขย้ำอย่างป่าเถื่อน มันเจ็บมาก ทั้งเจ็บ ทั้งทรมาน สัมผัสกักขฬะของฮาเดสไม่ต่างจากการลากฉันลงนรก เขาปล่อยมือออกจากการจับข้อมือฉันเพื่อเปลี่ยนมาสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกายของฉันแทน “จะ… เจ็บ”
“เจ็บแค่นี้ไม่ตาย เพราะมันเทียบไม่ได้สักนิดกับสิ่งที่ชอนซาเจอ”
“มะ… ไม่! ฉันไม่รู้… ฮึก!” ฉันสะอื้นตัวสั่น เรียวฟันคมเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งอยู่ในโพรงปาก
“เธอไม่รู้อย่างนั้นเหรอ? เธอทำลายชีวิตชอนซาแล้วยังจะกล้าพูดว่าไม่รู้อีกเหรอ!!”
“อ๊ะ!” ฉันร้องออกมาเมื่อชุดชั้นในเพียงสิ่งเดียวบนร่างกายถูกมือหนากระชากออก ฉันเห็นเขาปลดเข็มขัดและกางเกงของตัวเองออกลวก ๆ ความหวาดกลัวผุดขึ้นในใจทันที
ไม่นะ…
“เธอมันน่าขยะแขยงยิ่งกว่าเชื้อโรค ทำเรื่องสารเลวเอาไว้มากมาย แต่ทำเป็นเสแสร้งว่าจำไม่ได้ งั้นฉันจะช่วยรื้อฟื้นความทรงจำชั่ว ๆ นั่นให้เธอเอง!”
“ได้โปรด! อย่าทำฉันเลย ฮือ!”
ฉันพยายามเบี่ยงตัวหนีฝ่ามือแข็งกระด้าง แต่มันก็ไร้ผลเมื่อถูกฮาเดสกระชากกลับมาใต้ร่างเช่นเดิมก่อนที่เขาจะทำเรื่องโหดร้ายด้วยการล่วงล้ำเข้ามาในกายฉันอย่างไร้ความปรานี
“กรี๊ดดด!!” ฉันกรีดร้องออกมาสุดเสียงจนเจ็บคอไปหมด แต่ความเจ็บนั้นมันสู้ไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวหนึ่งของความเจ็บเบื้องล่างเลย ฉันรู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองกำลังฉีกขาดจากการถูกรุกรานด้วยความรุนแรง มันเจ็บจนแทบจะขาดใจตาย
“รสชาติของการตกนรกทั้งเป็นมันเป็นยังไงล่ะอัยย์…”
“…”
“มันหวานหอมถูกใจเธอดีไหม?”
สารเลวที่สุด…
นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ฉันคิดออกในเวลานี้ นอกจากเสียงกรีดร้องแทบขาดใจของฉันแล้ว เสียงความรุนแรงจากการเคลื่อนไหวของเขาก็ดังไม่แพ้กัน ความเจ็บปวดเจียนตายฝังลึกอยู่ในกายฉัน มันเหมือนนรกที่มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ นรกที่เขากระชากฉันลงไปด้วยความโหดร้าย
ฉันรู้สึกอยากตาย… อยากจะตายเหลือเกิน…
“…”
ร่างหนายังคงเคลื่อนไหวต่อไปอย่างบ้าคลั่ง แววตาคมกริบดุดันหลุบต่ำมองฉันกรีดร้องด้วยแววตาเย็นชา ไร้ความรู้สึก ฉันขัดขืนอะไรเขาไม่ได้เลย ทำได้เพียงยกมือที่ถูกมัดทั้งสองข้างขึ้นกำชายเสื้อของเขาแน่นเพื่อระบายความทุกข์ทรมาน และนั่นก็ทำให้ฉันได้เห็นรอยสักบริเวณแผงอกข้างซ้ายของเขาโผล่พ้นคอเสื้อออกมา ราวกับมันเป็นเครื่องตอกย้ำถึงการกระทำเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานของเขา
ฮาเดสสารเลวเหลือเกิน… เขามันโหดร้ายเกินความเป็นคน… เขาข่มขืนฉันด้วยความดิบเถื่อน… เขาทำร้ายฉันอย่างไร้ความปรานี… เขามันไม่ต่างอะไรจากสัตว์นรก!!
