บทที่ 5 ชีวิตใหม่

วันหนึ่งชอนซามีอาการไข้ขึ้นจนน่ากลัว เธอตัวร้อนมาก ผมเป็นห่วงน้องจนทำอะไรไม่ถูก พยายามเช็ดตัวและเอาขนมปังให้เธอกิน แต่เธอก็อาเจียนออกมาจนหมด ผมจึงตัดสินใจเข้าไปขโมยยาในร้านขายยาแห่งหนึ่ง และผมก็ถูกเจ้าของร้านจับได้…

ตอนนั้นเจ้าของร้านจะเอาเรื่องและจะพาผมไปส่งให้กับตำรวจ แต่ผมยอมไม่ได้ ผมพยายามยกมือไหว้และคุกเข่าขอร้องเขา ผมทำไปเพราะต้องการจะช่วยน้อง น้องสาวผมกำลังป่วยหนักมาก ผมอ้อนวอนเจ้าของร้านคนนั้นอยู่นาน แต่เขากลับไม่ยอมเชื่อผมสักนิด ไม่สิ… พูดให้ถูกคือเขาฟังผมไม่รู้เรื่องเลยต่างหากล่ะ เพราะผมพูดภาษาเกาหลีในขณะที่ที่นี่คือประเทศญี่ปุ่น

ใช่… ผมกับชอนซาถูกองค์กรนรกส่งมาค้ามนุษย์ที่ประเทศญี่ปุ่น!

เมื่อเจ้าของร้านฟังภาษาผมไม่รู้เรื่อง เขาเตรียมกระชากคอผมไปสถานีตำรวจทันที หากทว่ากลับมีผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามารั้งเอาไว้เสียก่อน เขาสวมชุดสีขาวแต่งตัวสุภาพและหน้าตาใจดี เขาเป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยยามมองเขา นับตั้งแต่ผมมาเหยียบประเทศแห่งนี้

และก็เป็นจริงดังนั้น เขาช่วยเหลือผมจากเจ้าของร้านเอาไว้ เขาฟังภาษาเกาหลีรู้เรื่องและยังพูดคุยกับผมได้ด้วย เนื่องจากเขาเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลใกล้เคียง เจ้าของร้านจึงยอมปล่อยผม นายแพทย์ท่านนี้ชื่อว่า ฮายาชิ ฮิคารุ ท่านเป็นคนใจดีมาก ท่านขอตามผมมาหาชอนซาที่กำลังนอนป่วยอยู่ใต้สะพานเล็ก ๆ หลังจากตรวจอาการเบื้องต้นท่านจึงรีบพาชอนซาไปรักษาที่คลินิกตัวเองทันที

เราสองคนพี่น้องอาศัยอยู่ที่คลินิกของคุณหมอนานหลายวันจนชอนซาอาการดีขึ้น ผมจึงตัดสินใจพาน้องกลับเพราะเกรงใจคุณหมอมาก ท่านดูแลพวกเราอย่างดีแถมยังให้ที่อยู่ที่กิน ผมรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของคุณหมอฮายาชิจริง ๆ

แต่คุณหมอฮายาชิไม่ยอมให้ผมกับชอนซาไปไหน ท่านต้องการจะอุปการะพวกเราสองคน ตอนนั้นผมตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะมีใครต้องการเด็กเร่ร่อนอย่างเราสองคนอีก คุณหมอเป็นผู้มีพระคุณกับผมมาก บุญคุณที่ชาตินี้ทั้งชาติผมไม่มีทางตอบแทนท่านหมด

ท่านพาเราสองคนไปหาภรรยาและลูกชายของท่านที่บ้าน และทำเรื่องติดต่อขออุปการะอย่างเป็นทางการจนผมกับชอนซาได้เข้าเรียนในโรงเรียนดี ๆ และได้มีชีวิตใหม่ในฐานะลูกบุญธรรมของท่านตลอดมา

ผมเลือกที่จะใช้ชีวิตตามรอยของพ่อบุญธรรม ผมฝันอยากจะเป็นหมอเหมือนกับท่าน ผมอยากจะตอบแทนบุญคุณอันล้นฟ้าที่ท่านเคยช่วยเหลือผมจากนรกนั่น

แต่แล้ว… ชีวิตและความฝันของผมก็ต้องจบลงเพราะเหตุการณ์เลวร้ายเมื่อแปดปีก่อน…

เหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล!

.

.

.

กึง!

ความคิดทั้งหมดหยุดลงเมื่อร่างสูงคุ้นตาเปิดประตูห้องเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน ใบหน้าหล่อ ๆ ของมันเต็มไปด้วยความกังวลอย่างชัดเจน ผมลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปหา สองมือกระชากคอเสื้อแล้วผลักมันไปกระแทกกับผนังห้องผู้ป่วยด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดที่พร้อมจะระเบิดออกมาทุกเมื่อ

“ชินซอง… เกิดอะไรขึ้นวะ?” น้ำเสียงเคร่งเครียดเอ่ยถาม มันไม่ได้ปัดป้องมือผมออกแต่กลับมองไปทางเตียงผู้ป่วยแทน

“กูต่างหากที่ต้องถามมึงไอ้คิระ มันเกิดเรื่องเหี้ยอะไรขึ้นกับน้องสาวกู!”

ฮายาชิ อาคิระ คือชื่อของไอ้ผู้ชายตรงหน้าผม อาคิระเป็นลูกชายแท้ ๆ ของพ่อบุญธรรม ผมกับมันและชอนซาเติบโตมาพร้อมกัน เราอยู่ร่วมกันเหมือนพี่น้องมาโดยตลอด แม้ผมจะมองออกว่าอาคิระมันไม่ได้รักชอนซาแบบน้องสาวก็ตาม แต่มันก็ไม่เคยทำให้ชอนซาลำบากใจ แถมมันยังตามดูแลชอนซาไม่เคยห่าง ถึงขนาดย้ายโรงเรียนไปเรียนกับชอนซาเลยด้วยซ้ำ

ผมจึงไว้ใจอาคิระมาก ตอนที่ผมถูกจองจำก็ได้มันนี่แหละที่คอยส่งข่าวคราวอยู่เสมอ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อสองปีก่อน ผมทราบข่าวจากมันว่าพ่อบุญธรรมและแม่บุญธรรมของผมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหัน ตอนนั้นผมเสียใจมาก เสียใจอย่างที่สุดที่ไม่สามารถออกมาเคารพศพท่านทั้งสองเป็นครั้งสุดท้ายได้ ผมทรมานและคลั่งอยู่ในห้องขังนานเกือบเดือนกว่าผมจะทำใจและยอมรับความเป็นจริงได้

การสูญเสียคนที่รัก… มันเจ็บปวดและทรมานราวกับตายทั้งเป็น และผมไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองแน่… ผมจะไม่ยอมเสียคนที่รักไปอีกแล้ว!

ชอนซาคือทุกสิ่งทุกอย่างของผม… ผมไม่ยอมสูญเสียเธอแน่!

“มึงจะฆ่ากูก็ได้ไอ้ชินซอง กูผิดเอง… ที่ปล่อยชอนซาให้อยู่บ้านคนเดียวแบบนั้น… อึก”

ผมดึงความคิดกลับมาที่ผู้ชายตรงหน้า สายตาหลุบต่ำมองมือตัวเองที่กำลังบีบคออาคิระอยู่ สีหน้าของมันตอนนี้แดงก่ำเหมือนคนจะขาดอากาศหายใจตาย

ผมกำลังจะฆ่ามัน…

คิดได้ดังนั้นจึงค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากคอของอาคิระ มือทั้งสองข้างของผมสั่นมาก ร่างกายมันก็สั่น เวลาที่ผมคลั่งผมมักจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าได้เมื่อขาดสติ ทั้งที่เมื่อก่อนผมเป็นคนใจเย็นมาก และนี่คือผลพวงจากการตกนรกทั้งเป็นมากว่าแปดปีเต็ม…

ขุมนรกนั่นมันเปลี่ยนผมให้กลายเป็นปีศาจ!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป