บทที่ 8 แพ้มาก
น้ำจากฝักบัวหยุดลง เจ้าของร่างแกร่งหยิบผ้าเช็ดตัวมานุ่งแล้วเดินออกไป ขณะยืนอยู่หน้ากระจกก็จ้องมองรอยช้ำที่ซอกคออีกครั้งก่อนจะคลี่ยิ้มบาง ๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาหยิบแผ่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ซื้อกลับมาด้วยแปะไปบนรอยช้ำ
“ไปโดนอะไรมา” อเล็กซ์ที่เฝ้าสังเกตแผ่นสี่เหลี่ยมตรงคอของคิงส์ตั้งแต่ขึ้นรถมา เขาคิดว่าภายใต้แผ่นสี่เหลี่ยมนั้นต้องมีอะไรแน่ ๆ จึงเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
“ไม่รู้ตัวอะไรกัดครับ”
“คงจะแพ้สินะ” หรือโดนแมลงที่ไม่รู้จักกัด เลยตอบออกมาแบบนั้น
“ครับ แพ้มากเลย” ว่าพลางเอามือลูบตรงแผ่นสีเหลี่ยมเบา ๆ แล้วเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว
“อย่าลืมหายากินล่ะ”
‘หน้าตาเมื่อกี้มันอะไรกัน ยิ้มอย่างกับคนมีความสุข’ อเล็กซ์คิดในใจ
“ครับ”
“ไปกันเถอะ”
“ครับนาย” คิงส์รับคำ “สถานที่ที่นัดหมายไว้ก่อนหน้าถูกแจ้งเปลี่ยนแปลงไปเมื่อก่อนหน้านี้ประมาณสามสิบนาทีครับ”
“ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย”
“ผมให้ลูกน้องไปสำรวจเส้นทางล่วงหน้าแล้วครับ”
“ดีมาก” อเล็กซ์เอ่ยชม “ว่าแต่ไปอยู่โน่นตั้งสองปี ไม่มีอะไรพิเศษบ้างเหรอ”
อเล็กซ์เองก็เพิ่งจะมีโอกาสถามไถ่ หลังคิงส์กลับมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วแต่เขาเพิ่งเรียกกลับมาทำงาน เพราะก่อนหน้านี้เขาอนุญาตให้คิงส์พักผ่อนอย่างเต็มที่
“เช่นอะไรครับ”
“คนพิเศษน่ะ” เขาเจาะจง เพราะคิดว่าบอดี้การ์ดหนุ่มของเขาก็หล่อเหลาไม่เป็นรองใครแน่นอน คงจะมีใครเข้ามาในชีวิตบ้างแหละ
“ไม่มีครับ”
“ไม่มีผู้หญิงเข้าหาเลยเหรอ” อเล็กซ์แปลกใจกับคำตอบที่ได้ยิน
“ก็มีบ้างครับ”
“แล้ว?...”
“แล้วอะไรครับ”
“แล้วนายทำไง”
“ก็ไม่ทำไงครับ บางคนผมก็คุยด้วย บางคนผมก็เดินหนี”
“ใจร้ายเกินไปมั้ย”
“ก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรมากมายนี่ครับ ตอนนั้นตั้งใจไปฝึกให้จบหลักสูตรเร็ว ๆ เลยไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น”
“ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็มีสาวตามมาที่เมืองไทยแล้วบอกว่าท้องกับนายหรอกนะ”
“ก็ไม่แน่นะครับ”
“งั้นแน่ ไหนว่าไม่มีอะไรพิเศษไง”
“ฮ่า ๆ ผมก็ตามน้ำไปแค่นั้นเอง”
“ดูนายจะอารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนนะ เพราะไปจีนมาเหรอ” เขาว่าเขาดูไม่ผิด คิงส์ดูมีชีวิตชีวาขึ้นซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อน ที่ดูเหมือนคนอมทุกข์อยู่ตลอดเวลา แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาคิดได้ยังไงว่าบอดี้การ์ดของเขาเพิ่งเจอเรื่องดี ๆ มา
“เปล่าหรอกครับ เพราะได้กลับมามากกว่า ก็ที่นี่คือบ้านนี่ครับมันต้องดีกว่าอยู่แล้ว” ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะทำให้เขาอารมณ์ดี แต่ก็ใช่ว่าเขาจะบอกเล่าให้ใครฟังได้ สุดท้ายแล้วมันก็คงต้องเก็บซ่อนไว้เช่นเคย
ฟิลลิปส์มารับอลินตั้งแต่เช้าเพื่อจะได้เดินทางไปเขาใหญ่แบบไม่ต้องรีบเร่ง แต่ขณะที่รถของเขากำลังจะออกไปพ้นรั้วบ้าน รถที่อเล็กซ์นั่งมาก็สวนมาพอดี
ภาพของหญิงสาวที่กำลังหันไปยิ้มร่าให้คนขับ ทำให้คนขับรถของอีกคันนิ่งไป เขาพยายามข่มใจและเสมองไปทางอื่น แม้ในใจจะว้าวุ่นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“จอดแล้วลงกระจกให้ฉัน” อเล็กซ์ที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลังออกคำสั่ง
ทันทีที่รถชะลอตัวและกระจกถูกลดลง รถอีกคันก็จอดแล้วกระจกก็ถูกลดลงเช่นกัน
“ไปไหนแต่เช้า” อเล็กซ์มองทะลุไปถึงคนที่นั่งอยู่ข้างคนขับ
“อ๋อ ผมจะพาน้องลินไปเที่ยวเขาใหญ่น่ะ” ฟิลลิปส์เป็นคนตอบแทน
“ไปกันแค่สองคนเหรอ”
“ใช่ครับ” ฟิลลิปส์ตอบอย่างคนอารมณ์ดี “ว่าแต่...คุณอเล็กซ์มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า”
“งั้นผมไปนะครับ”
อเล็กซ์พยักหน้าเพียงเล็กน้อย ฟิลลิปส์ก็ปิดกระจกรถแล้วขับออกไป ส่วนคิงส์ก็ทำได้แค่มองผ่านกระจกหลังจนอเล็กซ์สังเกตเห็นความผิดปกตินั้น
“นายก็อยากไปเที่ยวเขาใหญ่เหรอ”
“เปล่าครับ” คิงส์รีบปฏิเสธ
“ถ้าฉันมีงานให้ทำล่ะ นายจะไปมั้ย”
“อะไรครับ”
“ตามดูยัยลินให้ฉันหน่อย ฉันไม่ค่อยไว้ใจหมอนั่นสักเท่าไหร่” เขาแค่กลัวว่าน้องสาวจะโดนหลอก เพราะดูเหมือนว่าฟิลลิปส์กำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่
“ครับนาย”
หลังส่งอเล็กซ์ที่บ้าน คิงส์ก็รีบขับรถออกไปทันที เขาขับไปตามถนนเรื่อย ๆ จนทันรถของฟิลลิปส์แถวชาญเมือง คิงส์เลยขับตามไปห่าง ๆ เพื่อไม่ให้ทั้งคู่รู้ตัว แต่ขณะที่ฟิลลิปส์เลี้ยวเข้าไปจอดในปั้มน้ำมันคิงส์ก็เลี้ยวตามเข้าไป ด้วยความที่รถเยอะเขาจึงหาที่จอดไม่ได้เลย พอเห็นรถอีกคันกำลังถอยออกเขาก็เข้าไปจอดแทนที่ทันที
“เหมือนมีคนตามเรามา”
“ไหนคะ” อลินหันกลับไปมองด้านหลัง
“ทางนี้” ฟิลลิปส์ชี้ไปทางด้านขวามือของเขา แต่มีรถกะบะอีกคันจอดอยู่ตรงกลาง “ถัดไปอีกคัน”
แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างคิงส์ เพราะรถคันที่จอดระหว่างรถของเขากับรถของฟิลลิปส์กลับถอยและขับออกไปทำให้คราวนี้อลินมองเห็นรถคันดังกล่าวชัดเจน
เธอหรี่ตามอง รู้สึกคุ้น ๆ เหมือนเธอจะเคยเห็นรถคันนี้ที่ไหน
“พี่อเล็กซ์เหรอ”
