บทที่ 4 กรุงโซล : 4

‘เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้’

เสียงที่ได้ยินผ่านปลายสายที่โทรออก ทำให้หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบไหวไปชั่วขณะ “อะไรกัน ปิดเครื่องเหรอ หรือว่าแบตจะหมด”

รู้สึกหน้าชานิดๆ ที่โทรหาเขาแล้วไม่ติด เลยเลือกที่จะส่งไลน์ไปหาแทน

Kamsai Love : โซลทำอะไรอยู่เหรอ แก้มโทรหาไม่ติดน่ะ

Kamsai Love : แล้วทำไมกลับก่อน ไม่ยอมปลุกแก้มเลย มีธุระเหรอ?

Kamsai Love : ถ้าเปิดเครื่องแล้วโทรกลับหาแก้มด้วยนะคะ ... คิดถึง

ฉันเผลอพิมพ์คำว่า ‘คิดถึง’ ออกไป มันคงเป็นความเคยชิน เพราะฉันมักจะพิมพ์คำนี้ส่งให้เขาทุกครั้งที่เราไลน์หากัน

แต่ว่าในตอนนี้ สถานะของเราเปลี่ยนไปแล้ว นั่นยิ่งทำให้ใบหน้าฉันเห่อร้อนยิ่งกว่าเก่า

“ยางอายแกหายไปไหนแล้วยัยแก้ม ป่านนี้เขาจะเข้าใจความหมายคำว่าคิดถึงแกไปถึงไหนแล้วเนี่ย”

ฉันนั่งเอามือทุบหัวน้อยๆ ของตัวเองสองสามทีด้วยความเขินอาย

@14.00 น.

ตั้งแต่เช้ายันบ่ายฉันไม่เป็นอันทำอะไร นั่งรอโทรศัพท์จากโซลจนครึ่งค่อนวัน แต่ผลปรากฏว่า เงียบกริบ โทรไปไม่ติด ไลน์ไม่เปิดอ่าน มันเกิดอะไรขึ้น

ฉันชักจะรู้สึกไม่ดีแล้วล่ะสิ กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีกับเขาหรือเปล่า ถึงแม้ปกติเราจะไม่ค่อยได้ติดต่อหากันเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่ฉันโทรหา เขาไม่เคยปิดเครื่องแบบนี้ แม้แต่ไลน์ที่ส่งไปเขาก็จะตอบแทบจะทันที

แต่ครั้งนี้แปลกมาก นี่มันก็เกือบจะครึ่งวันแล้วนะที่ฉันติดต่อเขาไม่ได้เลย

“ไม่มีอะไรน่ายัยแก้ม คิดมาก” ฉันพยายามควบคุมสติของตัวเองไม่ให้คิดเพ้อเจ้อในเรื่องไม่ดี ตัวเองอาจจะคิดมากเกินไปก็เป็นได้ เดี๋ยวโซลคงจะติดต่อมาเองนั่นแหละ ใจเย็นๆ เข้าไว้

เพราะนั่งอยู่ในห้องเฉยๆ ไม่มีอะไรทำ แว่บหนึ่งเลยทำให้ฉันนึกหวนไปถึงสมัยแรกๆ ที่ฉันกับโซลเจอกัน

เราเจอกันที่ร้านดอกไม้ของฉัน ครั้งแรกที่เขาเดินเข้ามาในร้าน รู้อะไรไหม สายตาฉันไม่เคยหยุดมองเขาได้เลย ผู้ชายที่หน้าหวานๆ แต่มีความมาดเข้มที่ลงตัวบนใบหน้านั้น ดวงตาคมเข้มและดูอบอุ่น ผิวขาวน่าสัมผัส ส่วนสูงน่าจะสัก 185 เซนฯ ได้มั้ง

แค่มองเฉยๆ ยังรู้เลยว่าเขาน่ะ มีเสน่ห์ในตัวเองแค่ไหน…

เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้หัวใจฉันเต้นสั่นระรัว ราวกับมีใครมาเล่นกลองรัวๆ ในอกข้างซ้าย แถมยังรู้สึกได้ว่าใบหน้าตัวเองเห่อร้อนเพราะความเขินอาย เพียงแค่ได้สบตาผู้ชายตรงหน้า

ทุกย่างก้าวของเขาอยู่ในสายตาฉันทั้งหมด ท่าทางทะมัดทะแมง ไหล่กว้างผึ่งผายหน้าซบ ยิ่งเขาเข้ามาใกล้เท่าไหร่ ฉันยิ่งละสายตาจากผู้ชายคนนี้ไม่ได้สักวินาที

‘ขอโทษนะครับ เจ้าของร้านอยู่ไหม’ เสียงทุ้มนุ่มหูที่แสนจะไพเราะ

‘คุณครับ คุณ’

หมับ!!

‘อ๊ะ!’

ฉันสะดุ้งตื่นจากห้วงความคิดทันที ที่เหมือนมีคนมาสะกิดไหล่เบาๆ

‘เอ่อ... ขอโทษนะคะ เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไร’

‘^____^’

น่ารัก ทำไมเขาถึงได้ยิ้มละลายใจฉันขนาดนี้นะ

‘คือ... ผมจะมาซื้อดอกไม้น่ะครับ เลยถามว่าเจ้าของร้านอยู่ไหม’ ฉันที่ตอนนี้มีสติครบส่วนแล้วจึงได้ยินคำถามเขาเต็มสองรูหู

แต่เอ๊ะ!! เจ้าของร้านก็ฉันนี่ไง

‘เอ่อ... คือ เจ้าของร้านก็ฉันนี่ล่ะค่ะ’ ไม่ว่าเปล่าฉันชี้นิ้วมาที่ตัวเองเพื่อยืนยันกับเขาอีกเสียง แต่คนฟังกลับทำตาโต ยักคิ้วขึ้นเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

‘ขอโทษทีครับ คือว่า ผมไม่คิดว่าคุณจะเป็น... เจ้าของร้าน’ เขาพูดแล้วก้มหน้านิดหนึ่ง เอานิ้วชี้เกาคิ้วหน่อยๆ

ตึกตัก ตึกตัก

มันมาอีกแล้ว หัวใจฉันเต้นระรัวอีกแล้ว วันนี้รู้สึกเลือดจะไปหล่อเลี้ยงหัวใจได้ดีเกินไปแล้วนะ

‘คุณจะโกรธไหมถ้าผมจะบอกว่า ตอนแรก ผมคิดว่าเจ้าของร้านจะเป็น’

เป็น?? ฉันทำหน้างงงวยกับคำพูดที่ไม่จบประโยคดีของผู้ชายตรงหน้า

‘เป็นอะไรเหรอคะ’ เพราะเขานิ่งไม่ยอมพูดต่อ ฉันเลยถามออกไป

‘เป็นคนมีอายุกว่านี้น่ะครับ’ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาค่อนข้างไม่เต็มเสียงนัก นี่ร้านฉันจัดได้โลคลาสขนาดเขาคิดว่าเจ้าของร้านต้องแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ

ไม่เห็นจะเหมือนเลย แค่ทุกอย่างเป็นแนววินเทจ ฝาผนังสีน้ำตาลอ่อน มีลวดลายดอกไม้หลากสีพิมพ์อยู่บนพื้นสีน้ำตาล มองแล้วอบอุ่นจะตาย แล้วดูโต๊ะรับแขกสิ โซฟาสีเบจ โต๊ะกระจกใส ถึงจะเรียบแต่หรูดูไฮโซขนาดนั้น

คิดได้ยังไงว่าคนแก่เขาจะจัดร้านแบบนี้กัน

‘ผมขอโทษแล้วกันนะครับ ตอนนี้รู้แล้วว่าเจ้าของร้าน… น่ารัก’

ห๊ะ!! อะไรนะ น่ารักงั้นเหรอ ฉันไม่ได้หูฟาดไปใช่ไหม

‘ไม่ได้น่ารักอะไรหรอกค่ะ คุณก็ชมเกินไป’ ฉันตอบผู้ชายดวงตาคมเข้มตรงหน้าน้ำเสียงเรียบๆ ปนเขินอายเล็กน้อย

‘แล้วไม่ทราบจะรับดอกไม้อะไรดีคะ’ พอดึงสติกลับมาได้ฉันเลยรีบถามคุณลูกค้าผู้หล่อเหลาออกไป

‘ขอเป็นดอกลิลลี่ขาวสักช่อแล้วกันครับ’

‘ให้แฟนเหรอคะ’ ที่ถามแบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าฉันจะได้จัดให้ถูกยังไงล่ะ

‘หึ...’ เขาไม่ตอบแต่แค่ขำออกมา

“ฉันถามอะไรน่าขำเหรอคะ?” เพราะไม่เข้าใจว่าเขาหัวเราะเพราะคำพูดของฉันหรือเปล่า เลยเอียงคอเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามเขาด้วยความอยากรู้

‘เปล่าครับผมไม่ได้ขำอะไร ผมจะเอาไปให้แม่น่ะ แม่ผมชอบดอกลิลลี่’

อ๋อ... ให้แม่นี่เอง ฉันพยักหน้ารับทราบแล้วยิ้มบางๆ ให้เขา

ทำไมถึงเป็นผู้ชายอ่อนหวานแบบนี้นะ น้อยคนนักที่จะเข้ามาซื้อดอกไม้ให้แม่ แถมยังเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีแบบนี้ ยิ่งทำให้ฉันอึ้งเข้าไปอีก

บทก่อนหน้า
บทถัดไป