บทที่ 9 กรุงโซล : 9

“เอ่อ คือ” ฉันได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ เพราะตั้งรับไม่ทันกับประโยคนี้

“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้เฮงซวย” เดียร์ที่นอนเมาคอพับโพล่งด่าใครสักคน

“เอ่อ ขอโทษนะคะ เพื่อนฉันคงไม่ได้ด่าพวกคุณ” ฉันยิ้มแหยๆ ส่งให้พวกเฮียไททันไปเพราะกลัวเขาจะคิดว่ายัยเดียร์ว่าให้

“ไม่หรอกครับ ด่าเฮียเต็มๆ”

เฮียไททันพูดแบบนี้แสดงว่ารู้จักกันจริงงั้นเหรอ แล้วทำไมยัยเดียร์ต้องด่าเฮียไททันด้วย คอยดูเถอะสร่างเมาเมื่อไหร่ แม่จะจับซักไซร้ให้หมดเปลือกเลย

“งั้นพวกเราขอตัวนะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องวันนี้อีกครั้ง” ฉันบอกลาเฮียไททันและเพื่อนอีกคนของเขา ก่อนจะเดินออกมา เหมือนจะเห็นอีกคนยืนอยู่ข้างๆ ผู้ชายกะล่อนๆ ที่ขอจีบฉันเมื่อกี้

พอมองเห็นเขาแล้วทำให้ฉันคิดถึงโซลขึ้นมาทันที ท่าทางเขาเหมือนกันมาก นิ่งๆ ดูเย็นชาและเยือกเย็น

@KM-Flowers

ภายในร้านดอกไม้ที่มีดอกไม้สดมากมายหลากหลายชนิดเรียงรายอยู่ในตู้กระจกห้องเก็บอุณหภูมิ แทนที่บรรยากาศภายในร้านจะอบอุ่น หอมกรุ่นไปด้วยหมู่มวลดอกไม้แต่เปล่าเลย...

เพราะตอนนี้เจ้าของร้านเคเอ็มฟลาวเวอร์อย่างแก้มใสคนนี้กำลัง...

กริ๊งงงง... กริ๊งงงง

ไม่รู้ว่าเสียงโทรศัพท์ของทางร้านดังกี่รอบแล้วนับตั้งแต่ที่ฉันเปิดร้านมา และทุกครั้งที่ฉันรับสายก็ต้องหูชากลับมาทุกที

“สะ สวั...”

[นี่เธอ ฉันสั่งดอกป๊อปปี้นะ แล้วทำไมถึงส่งดอกลิลลี่มาล่ะ แบบนี้ฉันจะใช้ทันงานได้ไงฮะ ทำไมถึงทำงานไม่เรียบร้อยแบบนี้ เสียแรงที่ไว้ใจ]

เห้อ!! ฉันได้แต่ถอนหายใจ เฮือกแล้วเฮือกเล่า

วันนี้ทั้งวันฉันทำงานพลาดตั้งแต่ออเดอร์แรกจนล่าสุดสายนี้ ให้ทำไงได้ จิตใจฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย มันล่องลอยไปหมด คิดถึงแต่ผู้ชายใจร้าย นี่ก็ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว

เขาไม่ยอมติดต่อมาหาฉันเลย โทรไปก็ไม่ติด ไลน์ไปก็ไม่อ่าน ไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่า พอยิ่งคิดมากน้ำตาก็พาลจะไหล ไม่ใช่ว่าเขาได้ครั้งแรกฉันไปแล้วเลยเบื่อหรอกนะ ไม่ๆ โซลไม่ใช่คนแบบนั้นฉันเชื่อใจเขา

“แก้มต้องขอโทษมากๆ เลยนะคะ วันนี้แก้มไม่ค่อยสบาย เลยเบลอนิดหน่อย เดี๋ยวแก้มให้คนส่งดอกไม้ไปให้ใหม่นะคะ”

ฉันแก้ตัวแบบนี้ทั้งวันเลยนะ บอกตรงๆ มันไม่มีคำแก้ตัวอื่นเลย เพราะฉันคิดไม่ออกจริงๆ จะให้บอกลูกค้าว่าเพราะมัวแต่คิดเรื่องแฟนเลยทำให้ส่งดอกไม้ไปผิดงั้นเหรอ ร้านฉันได้เจ๊งพอดี

แต่ลูกค้าฉันก็น่ารักนะ ทุกคนเขาก็โอเคอาจจะมีหงุดหงิดและโกรธในทีแรก แต่ก็เพราะว่าฉันเพิ่งทำงานพลาดครั้งแรก พวกเขาเลยให้อภัย โล่งอกไปที

ตื่อดึง ไลน์!!

หลังจากวางสายลูกค้ากำลังจะไปจัดดอกป๊อปปี้ที่ฉันส่งผิดไปให้ เสียงไลน์จากมือถือฉันก็ดังขึ้น ไม่อยากเปิดอ่านเลยแฮะ เพราะคงไม่ใช่คนที่ฉันคิดถึง?

Seoul Love : อยู่ไหน

ฮึกๆ แทบน้ำตาร่วง หลังจากที่เปิดอ่านไลน์แล้วเห็นว่าใครส่งมา

Kamsai Love : หายไปไหนมา รู้มั้ยว่าแก้มเป็นห่วง

Seoul Love : ….

โซลเปิดอ่านแต่ไม่ยอมตอบคำถามฉัน

Kamsai Love : แก้มอยู่ร้าน จะมาหาเหรอ?

Seoul Love : ….

เหมือนเดิม โซลอ่านแล้วแต่ไม่ตอบ ต้องการอะไรกันแน่ เล่นอะไรอยู่หายไปตั้งนาน ไลน์มาหา พอคนเขาคุยด้วยก็ไม่ยอมตอบอะไรมาเลย ครั้งนี้ฉันจะโกรธจริงๆ แล้วนะ

จังหวะที่ฉันกำลังจะส่งข้อความกลับไปหาเขาแบบงอนๆ เขาก็ตอบกลับมาแบบสั้นๆ แต่เล่นเอาฉันยิ้มออกเลยล่ะ

Seoul Love : อีก 20 นาทีถึง เตรียมปิดร้านด้วย เดี๋ยวไปรับ

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

ฉันดีใจหัวใจแทบวาย จะได้เจอหน้าเขาแล้วในรอบหลายวันที่ผ่านมา ดีแล้วแก้มใสที่แกยังเชื่อมั่นผู้ชายคนนี้ ก็โซลน่ะไม่เคยทำให้แกผิดหวังอยู่แล้วนี่

ไม่รอช้าฉันรีบจัดช่อดอกป๊อปปี้แล้วก็ให้เด็กที่ร้านเอาไปส่งให้ลูกค้าคนเมื่อกี้ จากนั้นก็เดินไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวเองเสร็จ ก็สั่งเด็กคนงานที่เหลือให้เฝ้าร้านแล้วก็ปิดร้านตามเวลาปกติเพราะฉันคงไม่เข้ามาแล้ว

ปี้นๆ

ฉันยืนรอโซลที่หน้าร้านไม่นาน รถปอร์เช่สีน้ำตาลไหม้เงาวับก็ขับมาจอดที่หน้าร้าน โซลเลื่อนกระจกฝั่งคนนั่งลงแล้วพยักหน้าเป็นเชิงสั่งให้ฉันขึ้นรถ

เฮ้อ!!

จะมีมุมหวานกับเขามั่งไม่ได้เลยใช่ไหม จะลงมาทักทายแล้วเปิดประตูให้ฉันเหมือนเจ้าหญิงหรือนางเอกนิยายหน่อยไม่ได้เลยหรือไง ฉันได้แต่คิดน้อยใจแล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถทันที

“จะพากะ แก้ม ไปไหนเหรอ” ฉันได้แต่เอื้อนเอ่ยคำพูดท้ายประโยคอย่างแผ่วเบา เมื่อหันมาเจอแววตาเย็นชาคู่นั้น

เฮือก!! ฉันสูดอากาศเฮือกใหญ่เข้าปอด สายตาแบบนี้อีกแล้ว สายตาดุกร้าวและเย็นชา พักหลังๆ ฉันเห็นบ่อยมากๆ เลยนะ โซลที่อบอุ่นหายไปไหนแล้ว ฉันไม่ค่อยรู้สึกถึงความอบอุ่นจากโซลมาเกือบจะเดือนแล้วนะ ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่กับโซลเวอร์ชั่นนี้เลย

“คลับ”

เขาตอบกลับมาสั้นๆ แล้วก็เหยียบคันเร่งรถมุ่งไปข้างหน้า

บทก่อนหน้า
บทถัดไป