บทที่ 3 ลูกเป็ดกลายร่าง

ผับMC 21.00น.

ตรงเวลาเป๊ะยัยโซดาพาฉันมาถึงผับที่นัดไว้อย่างเฉียดฉิวได้ทันเวลา มันพาฉันไปชั้นสองห้องวีไอพีที่นังแจสซี่มันจองไว้ แต่ผับนี้เป็นของพี่แซมพี่ชายของโซ่จริงไม่แปลกที่จะได้รับอภิสิทธิ์อะไรหลายๆอย่างเพราะเป็นเพื่อนกับน้องเจ้าของผับ มีเพื่อนรวยก็ดี๊ดีเนอะ บางทีฉันก็นึกอิจฉาเพื่อนที่มีต้นทุนดีมาตั้งแต่เกิดเลยใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบากอะไร ต่างจากฉันที่ต้องทำงานแลกเงินมาถึงจะมีใช้ แต่ก็นะถึงแม้ต้นทุนคนเราจะต่างกันแต่ฉันก็พอใจในสิ่งที่เป็นและสิ่งที่มี

“เห้ยยย...มึงดูสิกูพาใครมา” ยังไม่ทันถึงห้องโซดามันก็ตะโกนเรียกทุกสายตาให้หันมามองทันที

“เชี้ยยย...นี่ใช่อิลี่จริงๆป่าววะเนี่ยยย” อิแจสซี่ยกมือทาบอกพลางอุทานได้น่าตบมาก

“เห้ยยย!!!อิลี่เปลี่ยนไป๊...” น้ำหอมห่อปากทำท่าตะลึง

“ว้าวววว...นี่คนหรือนางฟ้าวะเนี่ยย” อิกันต์ก็เอากับเค้าด้วย

“...........................” ส่วนโซ่มองแว๊บนึงก่อนจะเมินหน้าหนี เห้อเห็นไหมล่ะบอกแล้วไม่ว่าฉันจะแต่งอย่างไงก็ไม่อยู่ในสายตาโซ่อยู่ดีแหละ

Part โซ่

วันนี้ก็กินเหล้าเข้าผับกันอีกตามเคยหลังเลิกเรียนแล้ว ตอนนี้ผมมานั่งที่ผับของพี่แซมพี่ชายผมเองที่เป็นเจ้าของที่นี่ ทุกคนมาครบกันหมดล่ะเหลือโซดากับลิลลี่ยังมาไม่ถึงกับลูกหยีแฟนผมที่โทรมาบอกว่าติดธุระจะมาดึกๆหน่อย

“เห้ยยย...มึงดูสิกูพาใครมา” เสียงโซดาตะโกนมาตั้งแต่หน้าประตู ผมเงยหน้าขึ้นไปดูก็เห็นโซดาที่แต่งตัวเปิดหน้าเปิดหลังแหวกข้างล่อเสือล่อตะเข้ตามปกติของมันแหละ แต่อีกคนที่ไม่เคยเห็นแต่งแบบนี้เลยก็คือไอ้ลี่ที่วันนี้มาในชุดเกาะอกสีแดงผ่าข้างสูงจนน่าใจหายกับรองเท้าส้นสูงเข้าชุด แต่งหน้าทาปากจนเปลี่ยนจากสาวจืดชืดให้กลายเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดทันตา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฝีมืออิโซดาที่บังคับแต่งให้ยัยโง่นี่แน่ๆ ยิ่งพอมันเดินมานั่งข้างๆยิ่งทำให้ได้รู้ ปกติเห็นแต่ยัยนี่ชอบใส่ชุดหลวมๆมาวันนี้โดนจับให้ใส่ชุดรัดรูปจนเห็นได้ชัดเลยว่า ยัยโง่นี่ซ่อนรูปชิบหาย กะจากสายตาคร่าวๆนี่ราวๆคัพดีเชียวล่ะ นี่ล่ะนะเขาถึงบอกว่าดูคนอย่าดูจากภายนอก

มันจะรู้ตัวไหมว่าคืนนี้แม่งน่าเอาขนาดไหน ไม่ผิดที่ผมพูดหรอกดูจากสายตาพวกของพี่แซมที่คืนนี้ตามมาแจมด้วยมองแทบไม่กระพริบกันเลยทีเดียว

(พรึบ) ผมถอดเสื้อโยนมาคลุมขาให้มันเห็นแล้วมันหงุดหงิดใจ

“เอาคลุมขาเอาไว้...มึงแต่งตัวอะไรของมึงมาเนี่ย?” ผมก็ไม่ได้กับมันนักหรอกเพียงแต่รำคาญสายตาพวกชอบม่อไง

“ก็โซดามันจับกูแต่งอ่ะทำไมอ่ะ...กูใส่ไม่สวยหรอวะ” ลิลลี่ถามผมกลับการจะทำหน้านิ่งๆ

“ก็สวยอยู่หรอกแต่มันโป๊ไปหน่อยไหมวะ?” ยอมรับว่าวันนี้มันสวยกว่าทุกๆวันที่ผมเห็นมาก ชุดสีแดงที่ตัดกับผิวขาวๆของมันกับหน้าอกที่แทบล้นทะลักออกมานอกเต้า ผมยาวๆของมันก็ถูกรวบขึ้นไปโชว์ต้นคอขาวผ่อง แต่งหน้าเข้มขึ้นนึดนึง ดูรวมๆคืนนี้มันโคตรเซ็กซี่เลยล่ะ แต่ผมก็ไม่อยากให้ใครมองมันด้วยสายตาหื่นๆอย่างที่ผมเผลอเป็นอยู่ไง

“เอองั้นวันหลังกูจะไม่แต่งแบบนี้แล้ว...” ข้อดีของลิลลี่คือไม่ว่าผมพูดอะไรยัยนี่จะเชื่อผมทุกอย่างเลย

ผมยังจำวันแรกที่เจอยัยนี่ได้เลย เมื่อตอนปีหนึ่ง ผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งรุ่นเดียวกับผมโดนเพื่อนแกล้งขัดขาให้ล้มจนกองกับพื้น ในสายตาคนอื่นอาจมองว่าลิลลี่หน้าตาธรรมดาไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย ยอมคนอื่นตลอด แต่สำหรับผมนั้นผมเห็นอะไรดีๆในตัวยัยนี่เยอะความมีน้ำใจ การให้อภัยอะไรหลายๆอย่างที่คนอื่นไม่มี ในขณะที่คนอื่นยืนหัวเราะไอ้ลี่อยู่นั่นแหละ ผมตัดสินใจเดินไปอุ้มมันไปทำแผลเพราะมันเองก็เดินไม่ไหว คำแรกที่ผมพูดกับมันคือยัยโง่โง่ให้เค้าแกล้งอยู่ได้ แต่มันกลับไม่ตอบอะไรผมมาเลยสักคำได้แต่ก้มหน้านิ่งๆ ผมก็พอรู้มาบ้างว่ามันเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน เหตุที่ไม่ค่อยมีใครคบมันคงเพราะอิจฉาล่ะมั้ง คงใช่อิจฉานั่นแหละก็ไอ้ลี่เนี่ยนะขนาดแต่งตัวธรรมดาหน้าตาก็ไม่ได้แต่งอะไรเลย แต่มันสวยธรรมชาติจนผมเมินหนีมันไม่ได้จริงๆ ผู้หญิงผมยาวๆดวงตากลมโตดูสดใส ผิวที่ขาวเนียนละเอียดจนเห็นเส้นเลือดแดงใส ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูแดงระเรื่อ จนทำให้ผมเกิดความรู้สึกอยากปกป้องมันขึ้นมา อยากดูแลร่างเล็กๆนี้ไว้เอง ผมจึงอาสาเข้ามาทำหน้าที่เพื่อนสนิทคนแรกของมันไง ตามมาด้วยสมาชิกที่เหลือที่ตอนนี้รักกันจนแทบจะเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันไปแล้ว

End โซ่

.

.

.

บทก่อนหน้า
บทถัดไป