บทที่ 2 .
“เธอมันเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจ แย่งของคนอื่นได้โดยไม่รู้สึกอะไร” พระพายพูดออกมา ถึงน้ำเสียงของเธอมันจะปกติและแผ่วเบา แต่คำพูดของเธอมันก็เจ็บแสบ
เพี๊ยะ! ผลั่ก!
จูลี่ฟาดฝ่ามือลงไปที่ใบหน้าของพระพาย ก่อนจะผลักตัวเธอให้ล้มลง แว่นสายตาที่พระพายใส่เอาไว้ในตอนแรกกระเด็นหลุดออกไป จึงทำให้พระพายไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ชัดเจน เธอพยุงตัวเองลุกขึ้นแล้วใช้มือคลำหาแว่นของตัวเองช้าๆ เมื่อคลำหาเจอแล้วเธอก็เอื้อมมือไปหยิบมัน
แกร๊บ!
“อุ๊ย! โทษทีนึกว่าขยะ!” เท้าของจูลี่เหยียบลงบนมือของพระพายที่เอื้อมหยิบแว่น แรงที่เธอเหยียบลงมาทำให้แว่นที่อยู่ใต้ล่างแตกละเอียด
หลังจากนั้นจูลี่ก็กระชากตัวของพระพายให้ออกมานอกห้องพัก เธอผลักพระพายออกมาแล้วปิดประตูใส่หน้าอย่างไม่ใยดี
พระพายมองบานประตูห้องด้วยภาพมัวๆ เธอหวังว่าภูมิจะช่วยเธอบ้าง แต่เขาก็ทำเพียงแค่ยืนมองสิ่งที่จูลี่ทำกับเธอนิ่งๆ เท่านั้น
พระพายเดินออกมาจากหอพักนั้นด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย ขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างก็มีแต่หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย เธอเดินไปตามทางอย่างเหม่อลอย พร้อมกับหัวใจที่แตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ
ซ่า~
สายฝนที่ตกลงมายิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเธอให้ชัดเจน ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนจะซ้ำเติมเข้ามาจนพระพายไม่สามารถที่จะรับมันไหว พระพายเดินไปตามทางด้วยดวงตาที่พร่ามัว และมองอะไรไม่ค่อยชัดเจน เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังเดินอยู่กลางถนน
เอี๊ยด!! โครม!!
ร่างเล็กของพระพายถูกรถยนต์คนหนึ่งพุ่งเข้าปะทะอย่างแรง จนเธอกระเด็นออกไปข้างหน้า ศีรษะก็กระแทกกับพื้นเข้าอย่างจัง ร่างทั้งร่างของเธอนอนจมไปด้วยกองเลือดที่เริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ จนเปื้อนไปบนพื้นถนน
“นาวินมึงขับรถชนคนตาย!!” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยิน ก่อนที่สติของเธอจะดับวูบเข้าสู่ห้วงความมืดที่ว่างเปล่า
นาวิน...ชื่อนี้เธอจะจำมันเอาไว้
เพราะอุบัติเหตุในวันนั้นที่มันทำให้เธอเปลี่ยนไป...
“พระพาย! พระพายหยุดก่อน” เสียงตะโกนเรียกพร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ พระพายหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองอดีตแฟนเก่าของเธอช้าๆ ด้วยหางตา
“อะไร” พระพายถามออกไปเสียงนิ่ง พร้อมกับจ้องสบตากับภูมิโดยไม่มีความรู้สึกใดๆ
“กลับมาคบกับภูมิเหมือนเดิมเถอะนะ ภูมิขอโอกาสหน่อยได้หรือเปล่า” ภูมิพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาที่อ้อนวอน ถ้าหากพระพายคือพระพายในอดีต เธอก็คงจะหวั่นไหวกับน้ำเสียงและดวงตาคู่นี้แล้ว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่
เมื่อหลายเดือนก่อนเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเธออย่างรุนแรง พ่อกับแม่ของเธอส่งตัวเธอไปรักษาที่เมืองนอก โดยค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางคู่กรณีก็เป็นคนออกให้หมด แต่เธอก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าใครเป็นคนขับรถชนเธอกันแน่ เขาไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง มีแต่ครอบครัวของเขาเท่านั้นที่มารับหน้าแทนตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่เธอจำมันได้ดีก็คือเขาคนนั้นชื่อนาวิน
ถึงแม้ว่าเธอจะเจ็บตัวกับอุบัติเหตุในครั้งนั้นอย่างสาหัส แต่สิ่งที่ได้กลับมามันก็ทำให้เธอพอใจ เธอไม่รู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้นกับเธอ แต่พอเธอฟื้นขึ้นมานิสัยของเธอมันกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างกับคนละคน อาจจะเป็นเพราะสมองของเธอมันได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก จึงทำให้ความรู้สึกและนิสัยของเธอมันเปลี่ยนไป
“กลับไปให้โง่สิ หน้าตาของนายมันก็งั้นๆ อ่ะ สงสัยแต่ก่อนฉันคงตาถั่วมั้งที่คบกับนาย” พระพายพูดออกมาตรงๆ อย่างไม่อ้อมคอม ตอนนี้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สวยสง่า ผู้ชายมากมายก็ต่างวิ่งเข้าหา เพราะการแต่งตัวที่ดูน่าดึงดูดของเธอ
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อนักศึกษาที่แนบชิดไปกับสัดส่วนโค้งเว้าบนร่างกายของเธอ และไหนจะกระโปรงทรงเอที่สั้นเหนือเข่าขึ้นมามาก เผยให้เห็นขาเรียวสวยนวลเนียน ซึ่งถ้าเป็นแต่ก่อนคงจะไม่มีใครได้เห็นอะไรแบบนี้บนร่างกายของเธอ เพราะเธอมักจะใส่เสื้อนักศึกษาที่ใหญ่กว่าตัวไม่สามารถมองเห็นได้เลยว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหน แล้วยิ่งกระโปรงของเธอแล้ว นี่ก็เป็นกระโปรงพลีทที่ยาวยิ่งกว่ากระโปรงเต้นรำในเทพนิยาย
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันไม่ใช่พระพายคนเดิมของนายอีกแล้ว นายควรจะเลิกยุ่งกับฉัน แล้วปล่อยให้ฉันไปเจอคนที่ดีกว่าเลิศกว่าและแซบกว่า โอเค๊!” พระพายพูดออกมาต่อ ก่อนที่เธอจะสะบัดข้อมือออกจากการกอบกุมของเขาแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น ภูมิได้แต่ยืนนิ่งและมองตามหลังเธออย่างเสียดาย ถ้าเขารู้ว่าพระพายจะสวยได้ขนาดนี้เขาคงจะไม่ยอมนอกใจเธอแน่ๆ
ขณะที่พระพายย่างก้าวเดินออกไป สายตาของผู้ชายทุกคนในคณะก็ต่างมองตามเธอเป็นตาเดียว
“เอ่อ...น้องพระพายครับพี่ขอเบอร์ได้มั้ย” สิงห์ เดินมาขวางหน้าของพระพายเอาไว้ พร้อมกับพูดจุดประสงค์ของตัวเองออกมา เขาเป็นรุ่นพี่ปี 4 ที่พระพายรู้จักดีเพราะชื่อเสียงด้านเสียๆ ของเขาที่เลื่องลือไปทั่วคณะ สำหรับเขาเรื่องที่โดดเด่นที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องผู้หญิง
“ไม่ค่ะ ถ้าพายอยากได้พี่เดี๋ยวพายจะเป็นคนเข้าหาพี่เองแหละค่ะ” พระพายพูดพร้อมรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่เคลือบไปด้วยยาพิษ
“แล้วเมื่อไหร่คนสวยๆ อย่างน้องพระพายจะอยากได้พี่ล่ะครับ” สิงห์ถามออกมาพลางยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“พี่เลิกม่อเมื่อไหร่พายก็อยากได้พี่เมื่อนั้นแหละค่ะ” พระพายกระตุกยิ้มเล็กน้อย หลังจากที่เธอพูดประโยคนั้นออกไปเสียงหัวเราะของกลุ่มเพื่อนสิงห์ ที่นั่งดูสถานการณ์ระหว่างเขากับเธออยู่ก็ดังลั่นขึ้นทันที เพราะสะใจที่เพื่อนของพวกเขาโดนสาวตอกหน้ากลับ
“ขอตัวนะคะพี่...สิงห์” พระพายพูดออกมา พร้อมรอยยิ้มอีกรอบ เรื่องราวในอดีตมันทำให้เธอรู้สึกเกลียดผู้ชายประเภทนี้จนเข้าไส้
“หาที่ตักผงกับไม้กวาดให้กูหน่อยดิ” โดมพูดขึ้นมา เมื่อสิงห์เดินกลับเข้ามารวมกลุ่มเหมือนเดิม
“ทำไมวะ” กานต์ถามออกมาหลังจากที่หยุดขำได้แล้ว
