บทที่ 5 .
“ฉันบอกว่าให้แกจิบๆ ไง” อาเซียโวยออกมาทันที เมื่อพระพายไม่เชื่อฟัง พระพายทำหน้าแหยๆ เล็กน้อยเมื่อกลืนมันลงคอจนหมดแก้วแล้ว ยามที่เครื่องดื่มไหลผ่านพระพายรู้สึกแสบร้อนไปทั่วคอ ถึงแม้ว่ามันจะมีเหล้าผสมอยู่เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่มือใหม่อย่างเธอควรที่จะจิบๆ มันก่อน เพราะไม่อย่างนั้นก็จะเป็นแบบนี้
“ไม่เห็นอร่อยเลย” พระพายยังคงทำหน้าแหย รสขมยังคงติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ ความซ่าของโซดามันไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ
“กระดกทีเดียวแบบนั้นมันจะอร่อยได้ยังไงล่ะ มีแต่แสบคอ” เกลพูดออกมาบ้าง ขณะที่เธอเองก็กำลังยกแก้วของตัวเองขึ้นจิบ เกลคอแข็งแล้วแก้วของเธอจึงไม่มีโซดาผสมอยู่ มีเพียงแค่เหล้าเพียวๆ เท่านั้น
“มาเดี๋ยวฉันชงให้ใหม่” อาเซียยื่นมือมารับแก้วกับพระพาย เธอจัดการชงเหล้าให้พระพายใหม่อีกครั้ง
หลังจากทีพระพายรู้แล้วว่าตัวเองควรเริ่มจากตรงไหน เธอก็ปฏิบัติตามอย่างเชื่อฟัง พระพายจิบเหล้าเข้าปากทีละนิด จากที่ตอนแรกเธอบอกไม่อร่อย ตอนนี้เธอก็รู้สึกชอบมันขึ้นมา
พระพายดื่มไปหลายแก้วแล้วแต่ก็ยังไม่ออกอาการอะไรเพราะเธอดื่มแบบผสม ส่วนเพื่อนของเธอที่ดื่มกันแบบเพียวๆ ก็เริ่มที่จะมึนๆ กันแล้วเพราะนั่งดื่มกันมานาน
“ไม่ต้องผสมโซดาแล้ว ฉันอยากลองดื่มแบบเพียวๆ บ้าง” พระพายพูดบอกออกมาหลังจากที่ยื่นแก้วให้กับอาเซียแล้ว อาเซียมองพระพายอย่างชั่งใจว่าจะทำดีหรือไม่ แต่พอเจอสายตาพระพายที่มองอยู่เธอก็ต้องทำ อาเซียคีบน้ำแข็งใส่แก้วแล้วหยิบขวดเหล้ามาเทใส่จนเต็ม ก่อนจะยื่นกลับไปให้พระพาย
พระพายยกแก้วขึ้นจิบ รสชาติของมันเด่นชัดมากยิ่งขึ้น สายตาของพระพายกำลังมองไปที่เกลที่กำลังทำท่ายกแก้วขึ้นชนกับผู้ชายอีกโต๊ะหนึ่ง
“เดี๋ยวฉันมานะหาเหยื่อได้แล้ว” เกลหันมาพูดกับเพื่อนๆ ที่อยู่ในโต๊ะ พระพายและอาเซียจึงพากันพยักหน้ารับ ถึงจะยื้อไว้ยังไงเกลก็ไม่มีทางอยู่หรอก เพราะจุดประสงค์ที่มาก็เพื่อการนี้
“ฉันอยากเต้นอ่ะ แกจะไปกับฉันหรือเปล่าพระพาย” อาเซียหันมาถามพระพาย
“ไม่ล่ะ ฉันรออยู่นี่ดีกว่า” พระพายส่ายหัวปฏิเสธ ตอนนี้เธอเองก็เริ่มรู้สึกมึนๆ แล้ว ถ้าขืนลุกขึ้นก็คงล้มแน่ๆ
“งั้นดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ ระวังจะโดนเสือผู้หญิงลากไปกินนะแถวนี้มันเยอะ” อาเซียพูดเตือนออกมา พระพายพยักหน้ารับ ก่อนที่อาเซียจะเดินออกไป
เสียงเพลงยังคงดังกระหึ่มแบบต่อเนื่องไม่หยุดพัก พระพายนั่งจิบเหล้าไปเรื่อยๆ ขณะที่สมองก็กำลังคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา อาจจะเพราะพระพายคิดเยอะไปหน่อย เธอถึงไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองนั้นดื่มเหล้าไปแล้วกี่แก้วต่อกี่แก้ว พอหมดเธอก็เติมใหม่อีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว เหมือนมือมันจะไปเองยังไงยังงั้น
“ทำไมปวดหัวจังวะ” พระพายสบถออกมา ขณะที่กุมขมับของตัวเองเอาไว้ สักพักเธอก็รู้สึกเหมือนจะอ้วกขึ้นมา พระพายจึงลุกจากที่แล้วพยุงตัวเองไปทางห้องน้ำ
ปึ่ก!
“อ๊ะ!” พระพายร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อร่างเล็กของเธอถูกชนเข้าอย่างจังจนเซล้มลง แต่ยังดีที่ในเวลาต่อมาก็มีมือหนาของใครบางคนมาคว้าเอวของเธอเอาไว้ได้ทัน
หน้าของพระพายซุกอยู่ที่หน้าอกแกร่งของเขา พระพายเงยหน้าขึ้นช้าๆ เพื่อจะขอบคุณ ซึ่งร่างสูงที่กอดเธอเอาไว้ก็มองสบลงมาหาเธอเช่นกัน
“น่ารักจังวะ” ร่างสูงพูดพึมพำออกมา เมื่อสายตาของเขาสบกับดวงตากลมโตที่กำลังสั่นไหว แก้มเนียนของคนในอ้อมกอดทั้งสองข้าง ก็ขึ้นสีแดงระเรื่อจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ไหนจะปากบางสีแดงที่น่าก้มลงไปจุมพิตนั่นอีก
“ฉันชื่อนาวินนะ แล้วเธอละชื่ออะไรสาวน้อย” นาวินกระซิบถามที่ข้างหูเล็ก เพราะเสียงเพลงดังมาถึงตรงทางเข้าห้องน้ำ เขาไม่อยากจะตะโกนถามเสียงดัง เพราะอยากใช้ความอ่อนโยนไล่ต้อนเจ้ากวางน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนมากกว่า
“ทำไมคุณต้องอยากรู้ด้วย” พระพายถามออกมาเสียงแผ่ว ดวงตาของเธอปรือเล็กน้อย
“อึก!” พระพายยกมือขึ้นปิดปากเอาไว้ เมื่อสิ่งที่ดื่มเข้าไปกำลังตีขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ
“จะอ้วกเหรอ” นาวินถามออกมา เขาพยุงตัวพระพายเข้าไปในห้องน้ำหญิง เพราะคิดว่าถ้าเขาปล่อยให้หญิงสาวไปเอง ยังไงเธอก็ไม่มีทางเดินถึง
เมื่อเข้ามาให้ห้องน้ำได้พระพายก็อ้วกออกมาทันที ร่างสูงเอื้อมมือไปลูบหลังให้เธอ เขาไม่ใช่คนดีอะไร ที่ลูบไม่ได้ต้องการช่วย แต่ต้องการสัมผัสแผ่นหลังเนียนมากกว่า เมื่อพระพายอ้วกเสร็จแล้วนาวินก็พาเธอมาล้างปากที่อ่าง
“ฉันปวดหัวช่วยพาฉันกลับบ้านที” พระพายพูดออกมาเสียงแผ่ว เธอรู้สึกปวดหัวมากจนไม่สนใจแล้วว่าคนที่เธอกำลังขอความช่วยเหลืออยู่นั้นจะเป็นใคร
“ตอนนี้เธออาจจะปวดหัว แต่ถ้าไปกับฉันเธอจะปวด...” นาวินพูดออกมาอย่างมีเลศนัยพร้อมกับเลื่อนสายตาต่ำลงไปที่จุดนั้นของหญิงสาว
“ว่ายังไงยังจะไปอยู่มั้ย” นาวินถามออกมาเพื่อขอความสมัครใจ ถ้าเธอไม่ยอมเขาก็ไม่ฝืน
