บทที่ 4 chapter 4

“ถึงหุ่นดี แต่หน้าตาคง...”

“เอาเป็นว่าพระเอกในนิยายที่ไผ่หลิวอ่าน คงเทียบเท่ากับคุณเขาไม่ได้หรอก” แค่เห็นไกลๆ คนละมุมห้อง รัศมีแห่งอำนาจและความมีเสน่ห์เย้ายวนชวนถวิลหาก็แผ่กระจายมา จนทุกสายตาสาวทุกคนต้องโฟกัสไปที่จุดเดียว! เสียงของหัวใจตึกตักรัวเร็วอย่างน่ากลัว พร้อมพลังดึงดูดให้ก้าวเท้าไปหาราวกับถูกสะกดจิต

แต่ทุกอย่างก็สิ้นสุดด้วยชายร่างใหญ่ยักษ์สองนายที่ยืนกันไม่ให้ใครเข้าไปหาชายหนุ่มได้ ยกเว้นเพียงแค่ผู้หญิงที่ได้รับเลือก ที่ไม่รู้เมื่อไหร่จะเป็นเธอ!

เอ่อ...แล้วเธอจะรู้ได้ยังไง ผู้ชายลึกลับที่ปาวรินทร์เพ้อละเมอหาอยู่ตรงไหน เซ็งจริง...พับผ่าซิ!

ชมบุหลันเบะปาก ยกมือเกาศีรษะสลับยกปิดปาก ด้วยแสงสีละลานตาทำให้เธอเริ่มวิงเวียน บวกกับเสียงที่ดังกระหึ่มทำให้ระบบในเรือนกายเริ่มทำงานผิดปกติ

ไม่ไหวแล้ว…รู้สึกเหมือนร้อนผ่าวไปทั้งเรือนกาย เหงื่อแตกซิกผุดไหลจากขมับและร่องรูขุมขน ห้องน้ำ...ห้องน้ำอยู่ไหนนี่! เพราะเร่งรีบเกินไป กลายเป็นความประมาทพลาดพลั้งจนเกิดเป็นภัยแก่ตัวเอง!

“โอ๊ย!” ชมบุหลันหลุดเสียงร้อง เมื่อสองขาเกี่ยวไขว้กัน ทำให้ร่างอ้วนป้อมถลาพุ่งลิ่วไปชนเข้ากับบางสิ่ง ที่เชื่อได้ว่าเป็นมนุษย์และเป็นผู้หญิงด้วย เพราะเสียงหวีดร้องแหลมเล็กอย่างกับนกหวีดดังใกล้ๆ ชวนขี้ในหูเต้นเร่า จนต้องรีบยันตัวลุกจากสิ่งรองรับกายอย่างเร็ว เพราะกลัวถูกกัดจนจมเขี้ยว

“โอ๊ย! อะไรกันนี่” หรี่หนังตาพลางยกมือขยี้เข้าไปในช่องหู

“จะร้องแรกแหกกระเชอไปถึงไหนกันหา! ...กลัวไม่มีใครได้ยินหรือไง” มืดๆ อย่างนี้ ซุ่มซ่ามกระแทกกับใครบ้างก็ต้องให้อภัยกันซิ แม้ผิดแต่ชมบุหลันยังคิดเข้าข้างตัวเอง

พิมพ์มาดาตวัดใบหน้าหงิกงอง้ำด้วยเพลิงโทสะอย่างไม่กลัวคอเคล็ดไปหายายตัวมารที่มาทำลายการปลุกเร้าเพลิงอารมณ์ของคีธให้ลุกโชติช่วง จนตกหลุมอากาศขาดจังหวะที่เธอไม่มั่นใจ ไม่รู้จะต่อติดหรือเปล่า

แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับโอกาสได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่ม ที่หาได้ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ด้วยคีธเป็นคนเข้าถึงตัวยาก อีกทั้งยังเก็บตัว ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป รู้เพียงแค่เขาร่ำรวยมหาศาล ใครก็ตามที่ถูกเลือกให้เข้าไปอยู่ด้วย จะได้รับผลตอบแทนกลับมามากมายมหาศาลพอๆ กับคนที่กล้าทำให้เขาไม่พอใจ จะเป็นดั่งมดที่ถูกขยี้บี้แบนติดพื้นในพริบตาเดียว

แสงสว่างมากพอให้พิมพ์มาดาเห็นตัวมารอย่างชัดเจน นัยน์ตาเข้มจัดเจิดจ้าด้วยประกายเพลิงที่ลุกโชน กลีบปากอิ่มแดงระเรื่อคลี่แบะหยามหยันในหุ่นทรงแอปเปิล รูปร่างเตี้ยม่อต้อ อกแบนอย่างกับไข่ดาว เอวย้วยพุงยุ้ย สะโพกขนาดบิ๊กไซส์...ส่วนขามืดจนมองไม่เห็น แต่คิดว่าคงเป็นเหมือนท่อนซุงดีๆ

“เธอ...หลงเข้ามามุมนี้ได้ยังไงยายอ้วนตุ้ยนุ้ย” กระแทกเสียงถาม

“อ้าว...ถามแปลก มีขาก็เดินมานะซิ จะให้ฉันเหาะเหินเดินอากาศมาหรือไง” ลอยหน้าลอยตาถามอย่างไม่สนใจยายผู้หญิงหน้ายักษ์ขมูขีจะกระโดดเข้าใส่บีบขย้ำกัดคอให้เป็นแผลเหวอะหวะ

“ทำไม...มุมนี้มีอะไรลับลมคมในซุกซ่อนเอาไว้หรือไง ฉันถึงเข้ามาไม่ได้น่ะ” ชมบุหลันยกไหล่พร้อมเลิกคิ้วยั่วโทสะยายขี้โมโหให้พุ่งลิ่วราวกับถูกไฟลน

“อ๋อ...เข้าใจละ” ชมบุหลันลากเสียงยาวพลางพยักหน้าราวกับกิ่งก่าก่อนจะได้ทองอย่างเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่

“ฉันเผอิญแปลงตัวเป็นนางมาร เดินทะเล่อทะล่ามาเหยียบตาปลายายผู้หญิงหน้าด้านแปลงตัวเองเป็นนางจิ้งจอกยั่วยวนกินผู้ชาย! โอ๊ย...หน้าด้านแท้หนอ ปล้ำผู้ชายกลางธารกำนัลก็ได้ด้วย”

เพราะความเบื่อหน่าย เขาไม่อยากสนใจเรื่องหยุมหยิมพานให้อารมณ์เสีย แต่เสียงใสๆ ที่ดังแล่นลิ่วมากระทบโสตประสาทหูอย่างจัง หนังตาที่ปิดอยู่ลืมขึ้นทันควัน

ท่ามกลางแสงสีไม่ได้ทำให้ความสามารถในการมองลดลงแม้แต่น้อย แม้กระทั่งที่มืดมิดไร้แสงไฟเขาก็มองเห็นทุกสรรพสิ่งได้ชัดแจ้ง ไม่แพ้หูที่ต่อให้เสียงอึกทึกครึกโครมเพียงใดก็ยังจำแนกแยกแยะได้ยินทุกสำเนียงเสียงอย่างชัดเจน

สาวน้อยร่างเล็กค่อนไปทางเจ้าเนื้อยืนเด่นเป็นสง่า ใบหน้าเรียวรูปไข่ที่เขามองเห็นถึงหยดน้ำเม็ดเล็กๆ ที่ติดอยู่บนปลายจมูกโด่งรับกับริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ สองแก้มใสจนเห็นเส้นเลือดฝาด ที่สะดุดให้หัวใจเหมือนจะเริ่มเต้น ก็นัยน์ตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอนคู่นั้นเบิกกว้างนิดๆ จ้องเขาอย่างตะลึงงันเล็กน้อย

คีธหน้านิ่วคิ้วขมวด เมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดในทรวง จนต้องรีบยกมือขึ้นทาบอกด้านที่มีหัวใจ ซึ่งหยุดเต้นมานานแล้วเหมือนมีความรู้สึกขึ้นมา พร้อมสัญชาตญาณในกายบ่งบอกถึง...ภัยคุกคาม!

ผู้หญิงตัวเล็กเบื้องหน้ามาเพื่อ...ทำร้ายเขา!

แต่ถึงเป็นอย่างนั้น สัญชาตญาณนักล่าในกายก็ยังถูกจุดขึ้นมาโดยระงับเอาไว้ไม่ได้ ทั้งที่ความจริงแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกของเธอไม่ได้สวยเลิศเลอ จนถึงขั้นสะดุดตาเลยสักนิด แต่กลับไปกระตุ้นต่อความรู้สึกภายในร่าง จนเดือดระอุราวกับมีเปลวเพลิงไฟไหลพล่านไปทั่ว อยากยื่นมือไปคว้าแขนกลมกลึงดึงร่างแน่งน้อยมาคลุกคลีแนบชิด

เกิดอะไรขึ้นกับเขา!

ไม่ใช่ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่มันนาน...นานจนเขาลืมไปแล้วต่างหากล่ะ เมื่อคนที่เอ่ยปากบอกรัก ให้คำมั่นสัญญาจะอยู่ดูแลกันจนตายจากไปข้างหนึ่ง เพียงรู้ตัวตนแท้จริงของเขา ก็กลัวและหาทางหนีตายอย่างลนลาน ช่างเป็นอะไรที่น่าสมเพชเวทนาเป็นยิ่งนัก

เธอได้ลงมือทำร้ายอย่างเลือดเย็น ไม่แค่ทิ้งความโดดเดี่ยวเดียวดายเอาไว้ให้ แต่ยังนำเอาความหวังของเขาไปด้วย

กรามหนาขบกัดบดเบียดจนแก้มตอบนูนขึ้นสัน นัยน์ตาเข้มดุเปล่งประกายวาววาบขึ้นมา เคยคิดว่าความรักจะเอาชนะทุกอย่างได้ แต่ความจริงที่ได้รู้ก็คือ...ความกลัวและความโลภต่างหาก ชนะทุกสิ่ง!

ในเมื่อชอบทรัพย์สินเงินทองเขาก็จะให้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับคืนไปคือความกลัวที่พวกผู้หญิงหิวเงิน เพียงแค่เห็นรูปลักษณ์ภายนอกของเขาก็หลงคิดว่าเป็นเทพบุตรยอมสยบแทบเท้า ได้รับติดตัวไปทุกคน!

มุมปากหนาหยักยกขึ้นเล็กน้อยเย้ยหยันตัวเอง...ผู้หญิงเป็นทั้งงูพิษดีๆ และตัวน่ารำคาญ แต่ที่ต้องทนคือเธอเหล่านี้เป็นอาหารอันโอชะที่เขาจำต้องใช้ประทังชีวิตให้มีอยู่

“ไปไหนกันหมด...ปล่อยให้ยายอ้วนตุ๊ต๊ะนี่เข้ามารบกวนคุณคีธได้ยังไงกัน ไม่กลัวโดนไล่ออกกันใช่ไหม” พิมพ์มาดาแผดเสียงดังลั่น ใบหน้าแดงก่ำ หายใจหอบแรง เมื่อเหลียวมองไปรอบๆ แล้วไม่มีคนคุ้มกันของคีธอยู่ใกล้สักคน เป็นความผิดของเธอเองที่เมื่อครู่เพราะอยากอยู่กับชายหนุ่มสองต่อสอง เลยสั่งให้คนอื่นๆ ถอยไปอยู่ห่างๆ ยิ่งไกลยิ่งดี

บทก่อนหน้า
บทถัดไป