บทที่ 2 Ep.2 เจ็บ 2/2

คณิต PART

‘พี่รอยพิมพ์โดนรถชนค่ะ!’ เสียงนี้มันดังก้องอยู่ในหูของผม

ไม่จริงอะ ยัยนั่นอ่ะนะจะโดนรถชน เวลานี้เธอต้องไปอ่อยไอ้ผู้ชายคนนั้นอยู่สิ

โกหก หวายกำลังโกหกผมอยู่

“รถชนได้ไง” ถึงในสมองผมมันจะบอกว่าสิ่งที่หวายพูดนั้นเป็นเรื่องโกหก แต่เมื่อมาเห็นหน้าของหวายแล้วมันไม่น่าจะโกหกกันเนียนขนาดนี้

“ไม่รู้” ผมมองหวายที่ค่อยๆ ปล่อยเสียงสะอื้นออกมา คือไร? ไม่รู้งั้นเหรอ! มันจะเป็นไปได้ยังไง!

“ไม่รู้ได้ไงหวาย! พิมพ์โดนรถชนได้ยังไง”

“หวายไม่รู้ หวายต้องถามหมอคณิตมากกว่าว่าทะเลาะอะไรกับพี่รอยพิมพ์ พี่เขาถึงต้องวิ่งออกไปแบบนั้น!” ผมมองหน้าหวายอย่างสับสน

อะไร? รอยพิมพ์มาที่นี่งั้นเหรอ มาตอนไหนทำไมผมไม่รู้?

หรือว่าตอนที่ผม....เหี้ยเอ้ยย!!

“พิมพ์อยู่ไหนหวายตอบพี่มา!”

“น้ำหวานว่ายัยพิมพ์ไม่เป็นไรหรอกค่ะมันหนังเหนียวจะตายไป” ผมหันไปหาน้ำหวานทันทีก่อนจะเดินไปกระชากแขนเธอให้ออกไปจากห้องผมซะ

“ออกไปหวาน ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับเธอ” น้ำหวานแบะหน้าใส่ผมแต่ก็ยอมเดินออกไป ผมยกมือขยี้หัวตัวเองแรงๆ

ทำไมเธอต้องเข้ามาตอนที่ผมกับน้ำหวานกำลัง....สัสเอ๊ยย!

ที่จริงไม่อยากทำแบบนี้หรอก แต่เมื่อวานที่ผมเห็นเธอนอนตักไอ้ตัวผู้อยู่คือถ้าทำกันตอนผมไม่เห็นจะไม่เป็นไรเลย แต่นี่! ผมเห็นเต็มสองตา!

ผมเลยเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วขับรถกลับโรงพยาบาลทันที ข้าวแม่งก็ยังไม่ได้กิน แต่จู่ๆ น้ำหวานก็เข้ามาในห้องผม เธออ่อยผมสารพัดจนผมคล้อยตามและก็ร่วมรักกับเธอในที่สุด

“พี่รอยพิมพ์อยู่คอนโดค่ะ” ผมหันไปหาหวายอีกครั้ง....คอนโดไหนบอกว่าโดนรถชนแล้วไปอยู่ทำไมที่คอนโด?

“ไหนบอกว่าโดนรถชนแล้วไปอยู่คอนโดได้ไง!?”

“พี่รอยพิมพ์ไม่ยอมมาโรงบาลค่ะ พี่เขาบอกว่าไม่อยากเจอพี่” หวายตอบผมด้วยน้ำเสียงอึกอัก

เออดี! ให้แม่งตายห่าไปเลยผมจะได้ถอนหมั้นสักที รำคาญเหี้ยๆ!

“ออกไป พี่จะทำงานต่อ” ผมไล่หวายให้ออกไปจากห้อง

“หมอไม่ไปดูพี่รอยพิมพ์หรอคะ” หวายถามผม ใบหน้าของเธอแสดงความกังวลอยู่ไม่น้อย

“ไม่ล่ะ...ไม่ได้ตายนิ....ไม่จำเป็นต้องไป” ผมตอบหวายไปก่อนจะปิดประตูทันที

เธอเป็นหมอนิคงไม่ปล่อยให้ตัวเองตายหรอก เหอะ!คิดว่าผมเหี้ยใช่ป่ะ หึ! แต่เธอเหี้ยใส่ผมก่อน

ผมไม่ผิด!

คณิต END

หมอคณิตกลับมาทำงานต่อ ในใจก็นึกเป็นห่วงรอยพิมพ์แต่เธอเป็นหมอเธอคงจะรักษาตัวเองได้ คงไม่ปล่อยให้ตัวเองตาย คณิตสะบัดหัวตัวเองแรงๆ ให้เลิกคิดเรื่องไร้สาระสักทีก่อนจะเดินไปตรวจคนไข้ตามปกติ

ทางด้านรอยพิมพ์ เธอสั่งให้รถโรงพยาบาลมาส่งเธอที่คอนโด ตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเพราะเธอค่อนข้างเจ็บหนักอาจจะมีกระดูกหักก็เป็นได้แต่ด้วยความดื้อของรอยพิมพ์ที่บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร ทำให้เจ้าหน้าที่เลือกที่จะเชื่อและพาเธอมาส่งที่คอนโด

รอยพิมพ์เดินเข้ามาในคอนโดอย่างช้าๆ เพราะขาของเธอดูเหมือนจะแพลง หนักสุดก็คงหัก แต่เธอก็ยังฝืนสังขารเดินมาที่ลิฟต์และกดชั้นห้องของตัวเองเธอเดินเข้าห้องและฟุบนั่งตรงโซฟาใหญ่ หยิบมือถือกดหาเพื่อนสนิททันที

“ไอ้วิส...มึงมาหากูหน่อยมีเรื่องจะให้ช่วย”

(นี่อีชะนีหน้าเผือก มึงยังกล้าให้กูไปหาอีกหรอ! เคลีย์กับหมอคินแล้ว?)

“ยัง! มึงรีบมาหากูเถอะก่อนที่กูจะตาย”

(อิชะนีมึงเป็นอะไร....)

“รีบมาอีกะเทยหัวโป๊ก”

ตื๊ด!

พอคุยเสร็จรอยพิมพ์เดินไปยังกระจกเพื่อสำรวจตัวเอง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ คิ้วข้างขวาแตก แผลปล่อยไว้นานจนเลือดแห้ง ที่มือก็ถลอกแต่ไม่มากแต่ส่วนที่เป็นหนักที่สุดน่าจะเป็นขาซ้ายของเธอที่พอขยับทีไรก็เจ็บทุกที

“ขาหักแน่เลย” รอยพิมพ์บ่นกับตัวเองพลางปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ขาซ้ายไปพลางๆ ถึงจะเจ็บหนักขนาดไหนเธอก็ไม่อยากไปโรงบาล ไม่อยากไปเจอคนใจร้ายคนนั้น

กริ๊ง กริ๊ง

เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น รอยพิมพ์ผละตัวออกจากอุปกรณ์ทำแผลเกาะขอบโต๊ะพยายามเดินไปยังหน้าห้อง

“อิชะนี.....มึงเป็นไรเนี้ย!!” พอเปิดมาปุ๊บเพื่อนสาวก็ถามเธอทันที รอยพิมพ์ไม่ตอบแต่บอกให้วิสช่วยพยุงเธอไปนั่ง

“กูโดนรถชน”

“แล้วไม่ไปโรงบาล...มึงคิดว่ามึงเป็นคนเหล็กรึไง...กูเห็นสภาพมึงแล้วไม่ต่างอะไรจากศพเลยนะ”

“นี่อีวิสกี้...กูโทรหามึงให้มาช่วยกูทำแผล ไม่ได้ให้มึงมาด่ากู”

“มันน่าด่าไม่ล่ะ!..ไหนมานี่ กูทำให้” วิสกี้เดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมา..พรางสำรวจใบหน้าของรอยพิมพ์ โดนหนักขนาดนี้ยังกล้ากลับคอนโดเขายอมใจเธอจริงๆ

“ไหนบอกจะไปง้อหมอคิน” วิสกี้ทำแผลที่หน้าพลางถามรอยพิมพ์ แต่รอยพิมพ์ก็เอาแต่เงียบ เธอไม่อยากจะพูดหรือคิดอะไรตอนนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เธอพึ่งเจอมามันทำให้เธอช็อกไม่น้อย

“อิชะนี...มึงขาหักใช่ไหม...ไปหาหมอเดี๋ยวนี้” วิสกี้พึ่งสังเกตเพราะมัวแต่ทำแผลบนใบหน้า แต่พอจะเปลี่ยนตำแหน่งไปที่แขนเขาก็เห็นที่ขาซ้ายของเธอมีไม้รองขาบวกกับผ้าพันไว้อยู่

“เออ” รอยพิมพ์ตอบเพื่อนกลับไป เธอไม่ได้แสดงสีหน้าว่าเจ็บปวดเลยสักนิด

“กูขอร้อง...ไปโรงบาลกัน แบบนี้ไม่ไหวมึงต้องรักษา”

“กูไม่ไป”

“มึงทะเลาะกับหมอคินใช่ไหม?” เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักปฏิเสธทุกครั้งที่บอกให้ไปโรงบาลเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนรักของเขาต้องทะเลาะกับหมอคินมาแน่ๆ ปกติรอยพิมพ์เคยไม่อยากไปหาหมอคินซะที่ไหน

“กูป่าว”

“ไม่ต้องโกหก...กูจะพามึงไปโรงบาล ไม่ต้องโรงบาลK4ก็ได้ โรงบาลแถวนี้แหละ”

“อืม” เพราะทนเห็นเพื่อนสนิทเป็นห่วงไม่ได้เธอเลยตอบตกลงไป รอยพิมพ์ถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่ง ถึงหมอจะไม่ค่อยเก่งเหมือนที่โรงพยาบาลK4แต่ก็ดูแลเธอดีกว่าใครบางคนที่เป็นหมอและพ่วงด้วยตำแหน่งคู่หมั้นของเธอ

หมอบอกว่ารอยพิมพ์ต้องเข้าเฝือกที่ขาซ้ายเป็นเวลา1เดือน ส่วนรอยฟกช้ำหมอก็ให้ยาแก้ฟกช้ำไปแล้ว ที่จริงหมอให้รอยพิมพ์นอนพักรักษาตัวสัก2คืน แต่รอยพิมพ์ปฏิเสธและบอกกับวิสกี้ว่าจะกลับคอนโด

“อีชะนี..ให้กูนอนเป็นเพื่อนมึงไหม ถ้าหมอคินมากูจะได้อธิบายให้เขาฟังว่าเรื่องเมื่อวานมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน”

“ไม่ต้องไปอธิบายหรอก...เขาไม่สนใจกูอยู่แล้ว มึงกลับไปเถอะ” วิสกี้มองรอยพิมพ์ที่นอนหันหลังให้เขา เขาก็อยากจะไปหาหมอคินด้วยตัวเองแต่ก็ไม่กล้า กลัวหมอคินต่อยแล้วดั้งที่ทำมา2แสนจะพัง

“กูกลับก็ได้....หายไวๆ นะมึง”

“อืม...ขอบใจมึงมากนะ” รอยพิมพ์หันมาขอบคุณเพื่อนรักและก็หันไปเหมือนเดิม

ทางด้านหมอคณิตวันนี้ก็เลิกงานเร็วเลยกะว่าจะมาดูอาการรอยพิมพ์ซะหน่อย เขาไม่ได้เป็นห่วงเธอหรอกก็แค่สงสาร กลัวไม่มีใครป้อนข้าวป้อนยาก็แค่นั้น

หมอคณิตรอลิฟต์สักพักลิฟต์ก็มาถึงแต่ทว่าพอประตูลิฟต์เปิดออก คิ้วของเขาก็กระตุกทันทีเพราะคนที่อยู่ในลิฟต์คือไอตัวผู้ที่อยู่กับรอยพิมพ์เมื่อคืนนี้

.

.

โอโห้!!! นางเอกสตรองแท้หลาวว วิ๊กกี้กับหมอคินเจอกันแล้ว!!! นางจะบอกคำจริงไหมอ่ะ หมอคินจะได้เข้าใจรอยพิมพ์ซักที ลุ้นๆๆๆ

#ไรท์ฝากเรื่งนี้ไว้ในอ้อมอ้อมใจทุกคนด้วยนะ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป