บทที่ 1 ตอนที่ 1

ผัวทวิน

มาครบองค์ประชุมแล้วนะงั้นผมเริ่มเปิดประชุมเลยแล้วกัน” ท่านประทานบริษัท ทัชเลิฟ คอนดอม เรียกพนักงานประชุมเป็นการล่วงหน้าโดยประกาศอย่างเป็นทางการผ่านอีเมลภายในของพนักงานในระดับหัวหน้างานแต่ละฝ่าย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้จึงได้ฤกษ์เปิดประชุมอย่างเป็นทางการ

“วันนี้มีอะไรเป็นพิเศษหรือคะบอส” หญิงสาวนางหนึ่งในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเอ่ยถามผู้เป็นเจ้านายสูงสุดแห่ง ทัชเลิฟ ด้วยความอยากรู้ไม่ได้ระบุหัวข้อประชุมอย่างชัดเจน เพียงแต่บอกว่าแจ้งวาระพิเศษเท่านั้น แล้วไอ้วาระพิเศษคืออะไร เพราะการประชุมประจำเดือนก็ถูกจัดขึ้นอยู่เป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว เพื่อรายงานผลการดำเนินงาน

“ใจเย็นๆ สิมีนาคนสวยรับรองคุณได้รู้แน่” เอริก โดมินิกอีวานส์ หันไปทางผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดคนสวยผู้อยู่กับบริษัทมานานหลายปี แล้วเอ่ยยั่วเย้านิดๆ โดยไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษกับผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดคนนี้

“อ๋อ...ค่ะบอสมีนารับทราบ” มีนา วัลลภา หญิงสาววัยสามสิบต้นๆ ที่สูงวัยเฉพาะอายุแต่หน้าเด็กยิ่งกว่าเด็กสาวอายุสิบแปดคนที่เรียกเธอป้าคือพวกที่รู้จักอายุจริง หากแต่คนภายนอกมักเรียกเธอน้องโดยเฉพาะลูกค้าที่อายุน้อยกว่า บ้างเรียกน้อง บ้างเรียกหนู โดยไม่รู้อายุจริง

“ที่ผมเรียกทุกคนมาประชุมในวันนี้เพื่อแนะนำให้รู้จักผู้บริหารคนใหม่ ขอเชิญเพชร โดมินิกอีวานส์ ผู้บริหารคนใหม่แห่งฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยครับ” เอริกเอ่ยออกมาอย่างเป็นทางการเพื่อเชิญใครสักคนที่นามสกุลเหมือนเขา บางทีอาจเป็นน้อง หรือพี่ หรือใครก็ตามในครอบครัวเดียวกันสักคน

ทุกคนในห้องประชุมต่างใจจดใจจ่อรอคอยบุคคลที่มีชื่อดังกล่าว และนั่นในห้องประชุมที่ควรรักษามารยาทสักนิด หากแต่หลายคนก็ยังหันหน้าหากันเพื่อกระซิบถามในสิ่งที่สงสัย กระทั่ง...ใครคนหนึ่งปรากฏกายตรงปากประตู

ท่านประทานเอริกผุดลุกขึ้นพร้อมกับก้าวไปยืนหน้าโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ ในขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงกับเทพบุตรที่ก้าวมายืนเคียงข้างท่านประทานซึ่งหน้าถอดพิมพ์กันออกมาเป็นคนๆ เดียวกัน เรียกได้ว่าสำเนาถูกต้องเลยทีเดียว มีนายังคงก้มดูเอกสารที่อยู่ตรงหน้าตัวเองโดยไม่ได้สนใจเสียงฮือฮาที่เกิดขึ้น แต่เมื่อ...

“ผมขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์คนใหม่ เพชร ทายาทโดยตรงของผม ก็พูดง่ายๆ ลูกชายของผมที่เพิ่งเรียนจบจากบอสตันมาหมาดๆ”

“สวัสดีครับผมเพชร โดมินิกอีวานส์ ลูกไม้หล่นได้ต้นของท่านประทาน ขอโปรดชี้แนะเรื่องการทำงานด้วยนะครับ

“หล่อ...อ๊ะหล่อ” หัวหน้าฝ่ายต่างๆ ต่างฮือฮาในความหล่อ คมเข้ม องค์ประกอบที่เรียกว่าเพชร เลอค่าและเพชรสมนามจริงๆ สาวหม้าย สาวโสด รวมไปทั้งสาวที่มีสามีแล้วต่างตกอยู่ในภวังค์ความเพอเฟคเกินบรรยายผู้ชายเบื้องหน้า นี่แสดงว่าเอริก ตอนเป็นหนุ่มคงไม่แพ้กัน

“อะ...หึ่ม” ผู้เป็นเจ้านายทำลายความอึกทึกด้วยเสียงกระแอม ว่า...ไม่ได้ลูกชายเขาหล่อบาดกรีดลึกหัวใจขนาดนี้ เป็นธรรมดาที่สาวแท้ๆ จะละเมอเสียงดังอย่างที่เห็น

“ฟังผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์แนะนำตัวก่อนนะสาวๆ” เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านผลิตภัณฑ์คุมกำเนิดตัดบทเสียงวี๊ดว้ายกระตู้วู้ในวินาทีต่อมา

ในขณะมีนาได้แต่มองชายหนุ่มนิ่ง ดวงตาไม่กระพริบ หากแต่หัวใจกลับกระโดดโครมคราม เธอไม่คิดเลยว่าจะมีผู้ชายหน้าไหนทำให้หัวใจแข็งเป็นหินที่ไม่เคยโบยบินออกนอกกรอบกระตุกได้ เพราะผู้ชายที่ชื่อเพชรคนนี้

“เพชรอายุ 22 ปีเขาอาจจะมีประสบการณ์การทำงานน้อย หากแต่ความรู้ที่ได้สั่งสม รวมทั้งการศึกษาดูงานอยู่ต่างประเทศ ระหว่างศึกษาจะทำให้เขานำสิ่งต่างๆ มาพัฒนาระบบ และผลิตภัณฑ์ของเขาให้ดียิ่งๆ ขึ้นๆ ไป” เอริกกล่าว

“ใช่ครับทั้งนี้ทั้งนั้นผมคงต้องขอคำปรึกษาจากรุ่นพี่อาวุโสทุกท่าน ช่วยชี้แนะ” เพชรเสริมประโยคของพ่อ

“ส่วนฝ่ายที่ต้องทำงานร่วมกันกับเพชรโดยตรงคือฝ่ายการตลาด เพชรนั่นคุณมีนา เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด”

“สวัสดี...ดีครับคุณมีนา” เพชรเอ่ยกล่าวทักทายมีนาด้วยเส้นเสียงติดขัด ในจังหวะสบประสานสายตากับหญิงสาวที่ถูกแนะนำ

“อ้อ...สะ...วัสดีค่ะ”

ทั้งคู่สบประสานสายตากันและกัน ดวงตาสีเขียวมรกตกรีดลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลของหญิงสาว กระตุกหัวใจราวกับไฟฟ้าช๊อต หัวใจดวงเล็กซึ่งมักเย็นชาต่อบุรุษเพศ ตอนนี้กลับรู้สึกสั่นไหวและไม่อาจควบคุมจังหวะการเต้นได้ ผู้ชายคนนี้อายุต่างกับเธอตั้งสิบปี ในขณะเธอ 32 เขา 22 แล้วที่สำคัญมีนาไม่เคยชอบนึกผู้ชายอ่อนอาวุโสกว่ามากๆ ขนาดนี้

เพชรสบตากับมีนาเขารู้สึกถึงกระแสความบางกระโดดเข้ามาในจังหวะการเต้นของชีพจร เป็นกระแสแปลกๆ ที่เขาเองก็อธิบายไม่ถูกว่านั่นคืออะไร รู้แต่ว่าเขาไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้ จะเรียกว่ากระตุกหัวใจ กระชากวิญญาณ ก็พอนิยามคำเหล่านี้ได้ เอาล่ะเขาจะพยายามไม่มองไม่สบตากับเธอ เพราะถ้าขึ้นชื่อว่าตำแหน่งผู้อำนวยการ อายุคงไม่ใช่ยี่สิบต้นๆ ทว่าดวงหน้าที่เขาเห็นต่อสายตากล้าแกร่ง อายุของเธอไม่มีวันถึงหากให้เดาจากสายตาเธอคงไม่เกินยี่สิบ

เอริกแนะนำลูกชายสุดหล่อกับสาวๆ และเจ้าหน้าที่ในระดับหัวหน้าฝ่ายจนครบทุกคน จากนั้นเมื่อชี้แจงทุกอย่างครบถ้วน ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องจึงขอให้ทยอยออกไปทำงาน ยกเว้น

“มีนาอยู่ก่อน เพราะงานนี้คุณกับเพชรมีหน้าที่ต้องเกี่ยวพันกันโดยตรง”

“อะไรคะ คุณพะ...เพชรเพิ่งมาทำงานให้เริ่มโปรเจคเลยเหรอคะ”

“งานค่อนข้างเร่งด่วน เพราะเรามีเวลาราวๆ สามเดือนในการพัฒนาสินค้าให้ทันกับการประกวด คิงคอนดอม 2015 ที่จะมาถึงนี้”

“ปกติบริษัทเราไม่เคยส่งผลิตภัณฑ์เข้าประกวดในงานนี้นี่คะ”

“เพชรปรึกษากับผมแล้วว่าเขาต้องการดันถุงยางอนามัยของเราให้ก้าวไปติดตลาดโลก ดังนั้นงานประกวดถุงยางอนามัยที่ดีที่สุดในโลกครั้งนี้ จะมีทัชเลิฟ คอนดอมติดชื่ออยู่ในบอร์ดด้วย”

“เอาจริงเหรอคะบอส”

“ผมดึงตัวเพชรมาช่วยงานก็เพราะวัตถุประสงค์นี้โดยตรง แม้ว่าเป็นงานแรก แต่จะเป็นงานสร้างชื่อให้ทั้งเพชร และทัชเลิฟด้วย” เอริกอธิบายแก่คุณป้าหน้าละอ่อน

เอริกคงให้ภาษีลูกชายมาดี จึงวางใจสำหรับทำงานใหญ่ เพราะทั้งโลกก็รู้อยู่ว่างานประกวดถุงยางอนามัยนี้ จัดขึ้นระดับโลก และปีที่ผ่านมาประเทศหรือบริษัทที่ชนะเลิศ สินค้าเขาเป็นเลิศทุกองค์ประกอบจริงๆ ดังนั้นยากมากที่จะสอยแชมป์ลงจากบัลลังก์ได้

“เอาเป็นว่าเพชรปรึกษางานกับมีนาไป พ่อขอตัวก่อน”

“ครับท่านประทาน” เพชรรับปากพ่อแล้วกดสายตาลอบมองความน่ารักหญิงสาวตรงหน้า

“อ้อ...เรียกพี่มีนาก็ได้ไม่ต้องเรียกคุณมีนา เราสองคนจะได้คุ้นกันเร็วๆ ร่วมงานปรึกษางานกันได้ราบลื่น” เอริกสั่งแล้วก้าวออกจากห้องประชุม วางใจให้มีนากับเพชรได้ปรึกษาพูดคุยงานที่ต้องประสาน เพื่อการพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ยอมรับต่อตลาดและผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่เป็นชาย เพราะถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงที่ถูกผลิตออกมาเมื่อสามปีที่แล้วยอดไม่กระเตื้องเลยสักนิด

“พี่...”

“หืมว่าไงคุณเพชร”

“พี่มีนาไม่เหมาะกับคุณ ถ้าพ่อแม่คุณไม่แจ้งเกิดผิด ผมคิดว่านายอำเภอคงลงตัวเลขปีเกิดของคุณผิดแน่ๆ มีนา”

“เอ่อ...คุณเพชรควรเรียกดิฉันพี่มีนาอย่างที่ท่านประทานบอกนะคะ เพราะฉันเป็นพี่คุณฉันทำงานที่ทัชเลิฟ มาสิบกว่าปี หรือเรียกว่าตั้งแต่ฝึกงานตอนเรียนมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้”

“แต่...พี่หน้าเด็กแถมยังน่ากินแบบนี้ผมเรียกพี่ไม่ได้จริงๆ ขอเรียกมีนาแล้วกันนะครับ”

“ทะลึ่ง” มีนาต่อว่าชายอ่อนวัยกว่าตรงหน้าด้วยเสียงเบา เจอกันวันแรกก็โดนลองของซะแล้ว แสดงว่าลูกท่านประทานแสบไม่เบา ถึงได้เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ตำแหน่งนี้เคยมีคนดำรง และขาดช่วงไปเมื่อสามเดือนก่อน เพราะคุณชาติดี ถูกซื้อตัวไปทำงานกับคู่แข่งจากนั้นตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ก็ว่างเว้นมา กระทั่งตอนนี้คือเพชร ซึ่งมีดีกรีเมืองนอก ภาษีดีเป็นลูกชายเจ้าของบริษัท มันจะเด่นดีดังอะไรขนาดนั้น

เพชรพูดไทยไม่ค่อยชัด แต่ก็ชัดกว่าคนไทยหลายๆ คนคงเพราะเขาเป็นลูกครึ่งหนำซ้ำยังเป็นเด็กนอก ภาษาไทยย่อมกระด้างนิดๆ เป็นธรรมดา

“ผมได้ยินนะ ว่าแต่มันหมายความว่ายังไงทะลึ่งเนี่ย” เขาต่อว่าหญิงสาวแต่ดวงตาสีเขียววาววับจับดวงหน้าอ่อนวัย กว่าอายุจริงที่เขาได้ทราบจากคำแนะนำจากพ่อ

“แปลว่าคุณน่ารัก” มีนาประชดพร้อมผลุบสายตามองต่ำมากกว่าที่จะสบตาคมกริบ ที่เผลอมองทีไรด้วยใจเย็นเยือกแทบละลายทุกที

“อ้อ...งั้นเหรอ ไว้คราวหน้าถ้าผมชมมีนาว่าน่ารัก ผมจะใช้คำนี้เพราะเป็นคำที่มาจากคนน่ารัก อ้อ...คนทะลึ่งสิ”

“เออ...ว่าเรื่องงานเถอะ” อีตาบ้าเล่นเอาหน้าชา หลอกด่าหรือไม่รู้ความหมายจริงๆ กันแน่

บทถัดไป