บทที่ 5 ตอนที่ 5
แต่ยากเย็นเหลือเกินในการกระทำตามสมองสั่ง ด้วยใจถวิลหาไพลินมากมายไม่อาจกลั้น ลิ้นร้อนซอนไซ บุกบั่นตวัดพันเกี่ยวลิ้นเล็กราวกับมีอำนาจในการเป็นเจ้าของอย่างเปี่ยมล้น
ร่างไพลินแทบทรุดกองกับพื้นหากแต่ได้ลำแขนกำยำมากอานุภาพเกี่ยวรัดไว้ พอๆ กับลิ้นที่รัดกันเหนียวแน่น คนไม่ประสาพานจะขาดอากาศหายใจ เมื่อถูกจู่โจมรุนแรงและหนักหน่วง ร่างกายหญิงสาวตอบสนองการกระทำจากพี่ชายตัวใหญ่สมชื่อจนไม่อาจสลัดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีได้ จากจูบนี้ทำให้เธอต้องเฝ้าถามตัวเอง พี่ใหญ่คือ...พี่ของเธอจริงๆ หรือเปล่า
คำถามมากมายบรรจุอยู่ในหัวพลันวูบไหว เมื่อมือใหญ่ร้อนระอุบีบเคล้นเต้าทรวงอร่ามตามวัยสาวขึ้นทุกลำดับ ปีนี้เธอเป็นสาวเต็มตัว ใจกายโลดแล่นตามวัยเป็นธรรมดา ตอนนี้ทั้งร้อนผ่าว ใคร่อยากรู้การสัมผัสในแบบหญิงชาย และนั่นคือภาพพี่ชายได้แทรกเข้ามาอยู่ในความคิดแรกในหัวเธอทุกครั้ง อยากให้มือใหญ่คู่นั้นกระทำกับเธอ หยอกล้อเคล้าคลอกับร่างกายเธอไปทุกส่วน แปลกแต่จริง...เธอต้องการพี่ชายตัวเองถึงขีดสุด
ปากนุ่มถูกประกบเคล้าคลอและบดขยี้ ราวกับจะสอนสั่งพร้อมลงโทษในคราวเดียว ถ้าสอนคงใช่เพราะเขาค่อยๆ ละเอียดใช้ลิ้นรัดเกี่ยวกับลิ้นร้อนที่ยกขึ้น ขยับลงอย่างไร้ทักษะ หากแต่รู้สึกซ่านตึงไปด้วยความสุขสุดล้ำถาโถม ในขณะเดียวกันได้เกิดข้อสงสัย ทำไม...พี่ชายถึงได้กัดกินเธอแบบนี้ พี่น้องทำได้อย่างนี้เลยหรือ ไม่สิ...ไม่ๆ ต้องไม่เกิดเรื่องอย่างนี้กับเธอและพี่ชาย เธอควรหักห้าม และร้องห้ามต่อต้านการกระทำของพี่ชาย
พี่ใหญ่ถอนปลายลิ้นออกจากทางแสนหวาน ลิ้นอ่อนนุ่มและระอุด้วยความอุ่น
“พะ...พี่ใหญ่” ฝ่ามือบางผลักแผงอกแกร่งกล้า ไพลินสัมผัสได้ถึงไอร้อนผ่าวที่พุ่งออกจากอกพี่ชายที่พุ่งปะทะฝ่ามือ พลันทำให้เธอร้อนรนไปพร้อมกับเขาด้วย
“หืม” พี่ชายเพียงแค่ขานรับ หากแต่ยังพยายามจะจูบน้องสาวอยู่อีก เพราะรสชาติที่ได้รับ ช่างหอมหวาน ซ่านตรึง ละมุน ปลุกระดมความต้องการที่หมักบ่ม ราวกับไวน์ชั้นเลิศจากฝรั่งเศส ดั่งต้นไม้เพาะกล้าไว้อย่างแน่นหนาพร้อมปักลงดิน เขาสะกดใจตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป คำว่าพี่ชายที่นับถือถูกโยนทิ้งไปโดยไม่เหลือแม้แต่สถานะอันน่าเคารพ
การเป็นพี่ชายแล้วต้องคอยมอง คอยเหล่ คอยหวงอยู่ห่างๆ เขาก็อยากบอกให้น้องน้อยคนนี้รู้ความจริงซะให้รู้แล้วรู้รอด หากแต่แม่ขอไว้ด้วยไม่อยากให้ไพลินรู้สึกไม่ดีต่อครอบครัวที่เลี้ยงดูเธอมา อาจจะรับไม่ได้ที่ได้เป็นแค่เด็กถูกพามาเลี้ยง
“พี่ใหญ่จูบลิน พี่ใหญ่...” ไพลินรวบรวมสติอันกระเจิดกระเจิงเพื่อกล่าวต่อต้านพี่ชาย ในหัวหมุนติ้วด้วยความสับสน
“ก็จูบไง”
“เราจูบกันไม่ได้ เราเป็นพี่น้องกัน”
“ไม่เห็นเป็นไร” เขาอยากบอกความจริงกับเธอใจแทบขาด แต่คำพูดของแม่ย้ำเตือนเขาอยู่ทุกลมหายใจ แล้วความรู้สึกที่เขามีต่อไพลินเล่าจะทำอย่างไร ปล่อยทิ้งไปหรือว่าเขาต้องหนีออกจากบ้าน มาอยู่ต่างหากจะได้ไม่พบไม่เจอน้องสาวนอกไส้คนนี้ แล้วจะหาเหตุผลอะไรบอกแม่ ทั้งๆ ที่ดูแลกันมาตลอด
หรือ...มีเมีย ให้รู้แล้วรู้รอด เพื่อจะได้หลุดพ้นจากความรู้สึกทรมานนี้
พอได้ฟังคำว่าไม่เห็นเป็นไรจากปากที่เคารพและนับถือ ไพลินไม่อาจทานทนแรงเสียดทานในคำว่าพี่น้องได้ จึงพุ่งออกไปจากห้องด้วยหัวใจแตกยับและร้าวราน
“ลิน !!” พี่ใหญ่ได้แต่เรียกหากแต่ขาที่ควรก้าวตามไพลินไปกลับก้าวไม่ออก ได้แต่ยืนมองร่างบอบบาง นุ่มละมุน หอมกรุ่นแห่งวัยสาวเต็มตัววิ่งจากไป
ทุกคนที่เห็นไพลินวิ่งออกจากห้องวีไอพีต่างมองด้วยหญิงสาว และเกิดมีคำถาม หากแต่เข้าใจตรงกันว่าคงโดนผู้เป็นพี่ชายดุ เพราะดันเข้าไปขัดจังหวะช่วงเวลาหรรษากิจกรรมเข้าจังหวะพอดี
“นี่หล่อนมีอิทธิพลต่อเจ้านายมากเลยนะยะ” เพื่อนร่วมงานสายเดียวกัน สายนั่งดริ้งกล่าวเย้าแหย่จี๊ด สาวสวยประจำ โซบิ๊ก ผับหรูแห่งนี้
“ยังไง” จี๊ดที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ มีแก้วเครื่องดื่มถืออยู่ในมือหันมาทางเพื่อนร่วมงาน คนที่เปรยขึ้นเมื่อกี้
“อ้าว ก็ทำให้พี่น้องเขาแตกคอกันได้”
“หึ...มือระดับนี้แล้ว เจ้านายหลงฉันยังกับอะไรดี ยัยเด็กบ้านั่นดันทะเล่อทะล่าเข้าไป ก็สมควรโดน แหมฉันกำลังจะอมของกลางอยู่แล้วเชียว ยัยเด็กนั่นดันพรวดเข้ามาพอดี อดกินของอร่อย” จี๊ดคุยโวจะไม่ให้คุยได้อย่างไร ในเมื่อเด็กนั่งดริ้งทุกคนไม่มีใครเคยได้บริการเจ้านายสักคนยกเว้นหล่อนเท่านั้น แล้วทุกครั้งที่ไปรับใช้บริการเจ้านายถึงเตียง หล่อนก็ได้ทิปเป็นฟ่อนๆ คืนนั้นแทบไม่ต้องนั่งเชียร์แขกให้เมียปาก เมื่อยจิ๊เลยทีเดียว
ไพลินไม่รู้จะไปที่ไหนดีนอกจากกลับบ้าน เรื่องราวที่เธอประสบวันนี้ยอมรับมีสองขั้วในสมอง สับสน มึนงง แล้วไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับหัวใจ พี่ใหญ่จูบเธอ แล้วยังบอกว่า ก็จูบไง ไม่เห็นเป็นไร หน้านิ่งๆ ไม่มีทุกข์ร้อน ทั้งๆ ที่ผิดศีลธรรมความเป็นสายเลือดอย่างร้ายแรง
แต่...สำหรับเธอได้รู้สึกมากมายแปลกประหลาด กับพี่ชายตัวเองไม่ผิดหรืออย่างไร ร่างบอบบางทรุดนั่งลงม้านั่งในสวนหน้าบ้าน คิดอะไรไม่ตกสารพัด ภายในบ้านยังคงเปิดไฟสว่าง แม่นวลคงยังดูโทรทัศน์อยู่เพราะยังไม่ดึกมาก ตอนที่วิ่งออกจากผับนั่งแท็กซี่ตรงมาบ้านไม่ได้ดูเวลา เพียงแต่อยากหนีออกห่างพี่ใหญ่เพื่อทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเท่านั้น
