บทที่ 1 TTS EP.0 INTRO

“เจ้าเชื่อเรื่องพญานาคบ่ ?”

“เห้ออออ....”

เสียงถอนหายใจเป็นรอบที่ล้านของวันของนายแพทย์ ทศวรรษ ที่กำลังเหนื่อยหน่ายใจกับสิ่งที่เค้าต้องเจอในทุก ๆ วันกับความแปลก...ที่ยากจะรับมือไหวของลูกชายคนโตผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาลที่เค้ากำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ตอนนี้

“ก็ผมฝันแปลก ๆ นี่ครับพี่ท็อป...ช่วงนี้ก็นอนไม่หลับด้วย” ลูกชายคนโตแห่งตระกูล ‘ธีรปัญญากูร’ ที่ใคร ๆ ก็ขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อมาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุดระดับต้น ๆ ของประเทศเพราะมีอำนาจและถือกรรมสิทธิ์มากมายที่อยู่เหนือกฎหมายจนไม่มีใครกล้าที่จะต่อกรได้เลย

“น๊องนอนไม่หลับหัวใจมันกระสับกระส่ายยยยย~ แบบนี้จริงๆนะครับ!”แทนคุณพูดด้วยน้ำเสียงที่ใส่อารมณ์แถมยังใส่ทำนองเพลงไปด้วย แต่เรียกเสียงฮาได้แค่กับบอดี้การ์ดด้านหลัง โดยที่ท็อปไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไปแม้แต่น้อย เค้าก็มักจะทำแบบนี้อยู่เป็นประจำ...แทนคุณไม่ได้แคร์หรือสนใจใครหน้าไหนอยู่แล้วจนติดเป็นนิสัย ไม่มีความน่ายำเกรง ไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์

แม้จะเป็นลูกชายคนโตแต่ก็ทำตัวเหมือนเป็นลูกคนเล็กเหตุเพราะภายใต้อิทธิพลมากมายที่ล้นฟ้าล้นแผ่นดินกลับตกไปอยู่ในมือของลูกชายคนรองน้องชายของแทนคุณที่ดูพึ่งพาได้มากที่สุดและดูจะมีความเป็นผู้นำจนได้รับความไว้วางใจและความเคารพอย่างไม่มีข้อกังขา รวมถึงตัวเค้าเองก็เช่นกันที่ยินดีจะมอบตำแหน่งนี้ให้กับ คินน์ อนาคินน์ น้องชายคนรองเพราะตอนนี้ในหัวของแทนคุณนั้นคงไม่อยากครอบครองสิ่งใดมากไปกว่า...หัวใจของนายแพทย์ที่เรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในโรงพยาบาลแห่งนี้เลยก็ว่าได้

“คุณหนู ผมก็ให้หมอซันมาตรวจแล้วไงครับ หมอซันเป็นหมอจิตเวช ส่วนผมเป็นหมอศัลยกรรมทำได้แค่แนะนำต่อให้ก็เท่านั้นเอง” ภายใต้กรอบแว่น ที่ดันทรงตรงสันจมูกให้เข้ารูปพร้อมกับจดจ่ออยู่ที่เอกสารการวินิจฉัยโรคของไข้คนอื่นโดยไม่แม้แต่จะสนใจคู่สนทนาตรงหน้าเลยสักนิด

“ก็ยาที่หมอซันให้มามันทำให้ผมง่วง ง่วงแล้วก็หลับ หลับแล้วก็ฝัน ฝันอะไรแปลก ๆ”

“ก็นั่นมันยานอนหลับนี่ครับ...มายด์ขอฟิล์มเอ๊กซเรย์ของผู้ป่วยเมื่อกี้ด้วย” หมอท็อปกดโทรศัพท์โทรออกไปหาพยาบาลข้างหน้าห้องแล้วเค้าก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ แม้แทนคุณจะไม่สนใจเลยก็ตามว่าขณะนี้เค้ากำลังขะมักเขม้นกับการทำงานมากแค่ไหน

“ผมชอบฝันว่าตัวเองตกน้ำครับพี่ท็อป...แล้วผมก็แบบ อึ่ก...อั่ก...อุ้ก...” แทนคุณแสดงท่าทางเหมือนคนจะจมน้ำออกมาโดยเหลือกตาขึ้นไปด้านบน แล้วเอามือสองข้างบีบคอตัวเองเบา ๆ ก่อนจะไอออกมาอย่างทะเล้น เพื่อให้สมกับบทบาทสมมุติและอรรถรสในการเล่าเรื่อง

“แล้วเจอพญานาคมั้ยครับ?” หมอท็อปถามอย่างขอไปที เค้าค่อนข้างชินกับพฤติกรรมของแทนคุณเพราะเค้าโดนบุคคลคนนี้เทียวไล้เทียวขื่อมานานหลายเดือนแล้ว อีกอย่างนิสัยของแทนคุณก็ค่อนข้างเอาแต่ใจ ขี้เล่น ทะเล้นทะลึ่ง เค้าเลยต้องทำทีเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ทุกครั้งที่ทุกเที่ยงวันแทนคุณจะต้องนำข้าวกล่องมาเสิร์ฟให้เค้าเสมอถึงมันจะเป็นการรบกวนเวลางานของเค้าแค่ไหนก็ตาม

“ห๊าาาาา!!! พี่ท็อปรู้ได้ไงเนี่ย! อเมซิ่งม๊าก!!!” แทนคุณว่าออกมาอย่างประหลาดใจพร้อมเอามือทาบที่อกด้วยความตกใจจนโอเวอร์

“ก็คุณหนูถามผมว่าเชื่อเรื่องพญานาคมั้ย ?”

“ใช่ ๆ มีพญานาคสีดำมันรัดตัวผมเอาไว้แน่นเลยอ่า...แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นงูหรือพญานาคกันแน่ คือภาพในฝันมันเป็นสีขาวดำหน่ะครับ...แต่ ๆ ๆ ๆ ๆ” แทนคุณลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วยื่นหน้าเข้าไปหาหมอท็อปจนหมอท็อปต้องผงะตัวหนีเล็กน้อยแล้วยอมเงยหน้าฟังคู่สนทนาแต่โดยดี “เค้าบอกว่าไงนะพล...ในทำนายฝันหน่ะ” บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังของคุณหนูแห่งตระกูลมาเฟียหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความที่ปรากฎบนหน้าจอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ผู้ใดฝันถึงงูตัวใหญ่โอบรัดรอบกาย ขอทำนายว่าจะเจอเนื้อคู่ คู่แท้ ที่รักกันยั่งยืนนานหากจะเสี่ยงโชคเลขที่ส่งผลต่อฝันนี้คือ...16....79”

“พอ ๆ ๆ ๆ เอาแค่เจอเนื้อคู่ก็พอ” แทนคุณรีบเบรคบอดี้การ์ดของตนเอาไว้ก่อนจะยิ้มกรุ่มกริ่ม “ผมหน่ะเป็นคนฝันแม่นนะครับพี่ท็อป” แทนคุณกลับลงมานั่งที่เก้าอี้ดั่งเดิมก่อนจะไขว่ห้างแล้วยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจ “เพราะเนื้อคู่ของผมก็คงไม่ใกล้ไม่ไกลแถวนี้แหละ...มึงว่าป่ะพล?...โอะ...ชั้นโดนงูรัด~” แทนคุณหันไปถามความเห็นจากบอดี้การ์ดที่ยืนยิ้มแห้งเกรงใจหมอท็อปที่เอาแต่ส่ายหัวด้วยความเอือม

“ค…ครับ”

“เนื้อคู่ผมอาจจะชื่อย่อท็อป นามแฝง ทศวรรษ ว่าป่ะ คึคึ” แทนคุณยังคงตรงไปตรงมา นึกอยากจะพูดจะทำอะไรก็จะแสดงออกมาให้เห็นซึ่งๆหน้ากันไปเลย โดยที่หมอท็อปไม่ได้ตกใจหรือเคอะเขิลกับคำพูดเหล่านั้นเพราะตั้งแต่วันแรกจนวันนี้เค้าก็พบกับความประหลาดมากมายจากตัวคนตรงหน้าที่สำคัญไม่มีใครสามารถขัดใจได้เลย เพราะถ้าเค้าอยากได้อะไรเค้าจะต้องได้แม้ว่า อนาคินน์ จะมีสิทธิ์เป็นผู้กุมอำนาจในตระกูลมาเฟียทั้งหมด แต่แทนคุณก็ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกที่คุณกรณ์หรือหุ้นส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลแห่งนี้รักและถนุถนอมยิ่งกว่าไข่ในหิน

“ฟิล์มค่ะคุณหมอ” พยาบาลเข้ามาด้วยท่าทีที่กล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะรีบออกจากห้องนี้ไป

“หื้มมมม...” หมอท็อปรู้สึกถึงความผิดปกติเลยผลักตัวเองออกจากโต๊ะทำงานแล้วลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไปจากห้อง “ขอบคุณสำหรับข้าวกลางวันนะ เดี๋ยวว่างแล้วผมจะกินละกัน” หมอท็อปว่าออกมาด้วยความด้านชานั่นทำให้แทนคุณขมวดคิ้วมุ่นด้วยความขัดใจ ก่อนจะเดินตามหมอท็อปที่กำลังเดินไปที่ไหนสักทีโดยไม่ลังเลสิ่งใดเลย

“แล้วจะกินตอนไหน เมื่อไหร่ล่ะ นี่มันเที่ยงแล้วนะ” แทนคุณยังคงเดินตามหมอท็อปไม่ห่างแต่ก็ไร้คำตอบแล้วพบว่ามีบอดี้การ์ดอีกสองคนที่สแตนบายรออยู่หน้าห้องทำงานของเค้าอีกด้วย

แม้แทนคุณจะพยายามและแสดงออกทางด้านความรู้สึกมากแค่ไหน ภายในใจของหมอท็อปก็ยิ่งอึดอัดใจเพราะในเวลานี้เค้ายังไม่พร้อมจะเปิดใจให้ใครทั้งสิ้น เพราะด้วยภาระหลายอย่างที่เค้าแบกไว้และยังเป็น...คำมั่นสัญญาที่มีต่อใครบางคนเลยทำให้เค้าไม่สามารถทำได้ดั่งที่ใจแทนคุณต้องการ

“พี่ท็อปต้องพักบ้างนะ...วันนี้เป็นอาหารใต้แซ่บ ๆ พี่ท็อปจะได้...”แทนคุณที่ยังเดินไล่หลังแล้วพูดโน่นพูดนี่มากมายก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อหมอท็อปเปิดประตูห้องแผนกรังสีวินิจฉัย แล้วพูดสวนแทรกขึ้นมา...

“คุณหนูกลับไปได้แล้วแหละครับ”

“ทำไมอ่ะ! มายังไม่ถึงสิบห้านาทีเลยเดี๋ยวบ่ายๆค่อยกลับ” แทนคุณว่าออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์

“แต่ห้องนี้คุณหนูเข้าไม่ได้นะครับ” หมอท็อปยังคงเอ่ยออกมาด้วยความลำบากใจแม้สีหน้าจะไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ก็ตาม

“เข้าได้สิ ทำไมจะเข้าไม่ได้?” แทนคุณเผยด้านเอาแต่ใจขึ้นมาทันที

“ห้องนี้เป็นห้องปลอดเชื้อแล้วเป็นข้อมูลภายในของคนไข้ครับคุณหนู”

“เมื่อเช้าผมอาบน้ำแล้วครับพี่ท็อป ตัวห๊อมหอมม อีกอย่างเอาผมไปเอกซเรย์สมองเรื่องที่ผมฝันร้ายก็ได้ พี่ท็อปจะได้รู้ว่าผมไม่ได้โกหก!”

“คุณหนู เครื่องเอกซเรย์มันเอกซเรย์ฝันไม่ได้หรอกนะ”

“แต่ภาพมันติดอยู่ในสมองผมนิ่ มันคงไม่ต่างอะไรกับโทรทัศน์ละมั้ง”

“เมื่อคืนก่อนนอนดูซีรีส์เรื่องอะไร”

หมอท็อปยังคงยืนต่อล้อต่อเถียงกับแทนคุณหน้าห้องอยู่แบบนั้น

“นาคี2” แทนคุณตอบออกมาหน้าตาย จนทำให้หมอท็อปถอนหายใจออกมาอีกรอบ และรอบนี้เค้าก็กำลังจะเดินเข้าไปในห้องฉายรังสีจริง ๆ สักที และไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว

“พี่ท็อป...”

พรึ่บ! พรึ่บ!

แต่อยู่ ๆ แสงวูบวาบที่เป็นการฉายแสงจากภายในห้องก็กระทบเข้ามานัยน์ตาของแทนคุณจนทำให้เค้าหลับตาปรี่ด้วยความตกใจและแรงกระแทกจากไหนไม่รู้ปะทะเข้ากับร่างเค้าอย่างจังจนทำให้แทนคุณรู้สึกว่าตัวเองล้มลงกระทันหันแล้วภาพทุกอย่างก็ดับวูบไปในทันที

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณหนู” บอดี้การ์ดของเค้าประคองด้านหลังของแทนคุณไว้ หมอท็อปหันหน้ามาดูเล็กน้อยและรู้สึกว่าไม่มีอะไรเกิดจึงจะเดินเข้าไปในห้องเหมือนเดิม แต่แล้ว...คำพูดคำพูดนึงก็ดังขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่ผะแผ่วทำให้หมอท็อปหยุดทุกการกระทำทันที

“ท็อป...สัญญาได้มั้ย?”

“คุณหนู” หมอท็อปเดินเข้ามาหาแทนคุณด้วยความประหลาดใจ พร้อมกับหัวใจที่กระตุกวูบ โดยที่ตอนนี้เค้าสับสนกับสายตาที่แทนคุณมองมาที่เค้าเพราะมันช่างคุ้นเคยอย่างที่เค้าเองก็แทบจะไม่อยากจะเชื่อ...

“สัญญาด้วยจูบเหมือนทุกทีสิ” ประโยคสุดท้ายของแทนคุณ ทำเอาท็อปทำอะไรไม่ถูกเค้ายืนตัวแข็งทื่อก่อนร่างของคุณหนูตระกูลมาเฟียจะล้มฟุบลงไปกับพื้นต่อหน้าต่อตา

“คุณหนู!!!! คุณหนู!!!!!!!!!! หมอท็อป! ทำอะไรสักอย่างสิ!!!!!! คุณหนู!!!!!!!!” แล้วความอลม่านก็เริ่มต้นขึ้น บอดี้การ์ดต่างวิ่งวุ่นกันไปทั่วหมอคนอื่นก็ยกร่างอันไร้สติขึ้นเปลด้วยความรีบร้อน ยกเว้นแต่หมอท็อปที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปหลังจากได้ยินประโยคที่เค้าไม่ได้ยินมานานแสนนาน เพียงแค่...ประโยคนั้นไม่ควรหลุดออกมาจากปากของคุณหนูแทนคุณแต่ต้องเป็น...

“…พี่ธนา”

#TopTanStory

บทถัดไป