บทที่ 5 อย่าเรื่องมาก

“ให้ผมช่วยดีกว่าครับ” กายอาสาเข้ามา เขามองหน้าพี่ไกด์แล้วยิ้มให้ พี่ไกด์ไม่พูดอะไร

โบนิตาหันไปมองหน้า

“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันช่วยเอง” เธอปัดมือของกายออกเพราะเป็นผู้ชายแปลกหน้า

และอีกมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบแบงก์ยี่สิบประมาณสี่ห้าใบออกมายื่นให้

“ช่วยค่าทำความสะอาดร้านก็แล้วกันนะ” ตาก็ปรือมองไม่ออกแล้วว่าใครเป็นใคร ตาลายไปหมด แต่ก็พยายามจะครองสติของตัวเองให้ได้

ไกด์หันไปพยักหน้าให้น้องชาย

“ขอโทษนะที่ทำเลอะครับ”

“ไม่เป็นไรครับ”

กายยังเดินออกมาส่งทั้งสามคนด้วย เขาดูจนการันต์พาเอมมาลินขึ้นรถ

“บ๊ายบายนะเอม แล้วฉันจะโทร. หา”

แม่สาวหน้าจืดยืนโบกมือลาเพื่อนรัก และตะโกนตามหลังเหมือนว่าเอมมาลินจะได้ยิน เธอมองรถของไกด์จนลับตา

โบนิตาทำท่าจะเมาออกมาแล้วตอนนี้

“เออะ...” เสียงเรอดังออกมาจากลำคอ ยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง ทำท่าจะอ้วกแต่ก็กลืนมันลงไป ยกมือของตัวเองขึ้นคลำหากระเป๋า แล้วก็เจอว่าตัวเองสะพายอยู่ แต่มันไพล่พาดไปอยู่ข้างหลัง

“แน่ะ แน่ะ แน่ะ แน่ นึกว่าหายไปไหน” เธอกำลังคุยกับกระเป๋าเหมือนมันมีชีวิต ก่อนจะทิ้งมันลงไปข้างตัวเหมือนเดิม

หิรัญยังคงยืนมองเธอไม่วางตา จะคอยดูซิ ว่าแม่ผู้หญิงคนนี้จะทำอะไร เขาได้แต่ยืนมองส่ายหน้าแล้วหัวเราะ

‘ยายรั่ว’

แทนที่โบนิตาจะเดินออกไปเรียกรถตามที่เธอบอกกับการันต์ แต่เธอกลับเดินเข้าไปในผับ

“อ้าว... ยายคนนี้ เมาแล้วไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่อง” หิรัญแทบถลาเดินตาม เพราะท่าเซตุปัดตุเป๋เอาตัวไม่รอดของหญิงสาว อีกอย่างเขากลัวเธอจะไปทำเลอะเทอะอยู่ข้างในเหมือนกับเอมมาลินอีก

หญิงสาวตรงไปที่ห้องน้ำ

“ทำไมปวดฉี่แบบนี้ จะราดแล้ว” เธอพึม ๆ พำ ๆ อยู่คนเดียว เดินเข้าไปข้างในใช้มือผลักบานประตูเกือบทุกบาน

มันปิดมีคนอยู่ ยกมือขึ้นกุมไปที่หน้าท้องเพราะปวดชิ้งฉ่องหนักมาก

“โอ๊ย อะไรกันเนี่ย” เธอบ่น จนเดินไปถึงห้องสุดท้าย ยอมรับกับตัวเองเลยว่ามันปวดมาก ๆ

“ไม่ไหวแล้ว” ถ้าใครมาเห็นท่าเดินของเธอตอนนี้คงจะหัวเราะน่าดู

โบนิตารีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่มันก็ไม่ทันการเสียแล้ว เธอนั่งลงไปทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ถอดกางเกงใน ทำหน้าแบบฟินสุด ๆ ที่ได้ปลดปล่อยของเสียออกไป โบนิตาก็นั่งฉี่จนเสร็จ

“อึก...” โบนิตายกมือปิดปากตัวเอง

‘ตายห่า แม่เอ๊ย อะไรกันนี่ ทำไม...!!! ทำไงดี’ กางเกงในเปียกหมดแล้ว

“เฮ้อ...” เธอถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะเริ่มทำความสะอาดโดยการถอดกางเกงในออกมาซัก

‘แหม...กระโปรงก็สั้น ลมมันจะเย็นไหมเนี่ย’ เธอคิด ค่อย ๆ ปลดกลอนเปิดออกมาดู ดูซ้ายดูขวาโชคดีไม่มีคนอยู่ในนั้น

โบนิตาวิ่งปรู๊ดไปที่ซิงก์น้ำจัดการซักกางเกงในเปื้อนฉี่ของตัวเอง ไม่วายยังกดเอาสบู่ล้างมือออกมาเพื่อให้กลิ่นหอมและสะอาดยิ่งขึ้น

‘ไม่ทิ้งเหรอ’

‘ทิ้งได้ไง ตัวแค่นิดเดียว เกือบสามร้อย ทิ้งก็บ้าน่ะสิ เพิ่งได้มาใหม่ด้วย’

‘รีบ ๆ เข้าเดี๋ยวมีคนมา’

ขณะที่กำลังบิดกางเกงในให้แห้งนั้นก็มีคนเปิดประตูห้องน้ำเข้ามา โบนิตาจึงรีบยัดกางเกงในที่เปียกหมาด ๆ เข้าไปไว้ในกระเป๋าสะพาย

‘เอกสารที่จะเอาไปส่งให้กับบริษัทคนหล่อไม่เลอะหมดเหรอ’ เธอหมายถึงเจ้าของบริษัทที่เคยไปเจอครั้งหนึ่งหล่อสุด ๆ

‘ไม่เป็นไร ค่อยไปปรินต์ออกมาใหม่วันอาทิตย์’

เธอยืดอก พยายามยืนตรง ๆ ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ในหัวเริ่มตีรวน ทั้งเบียร์ ทั้งเหล้า ทั้งค็อกเทลปะปนกันอยู่ในท้อง แล้วพวกมันก็คงถูกส่งเข้าไปในเส้นเลือด

‘ฉันอยากจะบ้าตาย วันอาทิตย์วันหยุด ฉันต้องถ่อสังขารไปออฟฟิศอีกเหรอ ฉันอยากนอน’

‘เหอะน่า ยังไงก็คุ้ม เพื่อยายเอมเพื่อนรัก วันนี้ควรเป็นวันที่เรามีความสุขที่สุดในโลก’

‘ใช่ ๆ ฉันมีความสุขที่สุด’ สองแขนชูขึ้นสูงทำหน้าตาว่ากำลังมีความสุข

‘ป่านนี้ เอมจะเป็นไงบ้างนะ’

โบนิตาเริ่มเดินหน้าออกจากผับ และก็คิดเป็นห่วงเพื่อน

หมับ...มือของผู้ชายที่ชื่อสันชัยจับเข้าไปที่ข้อแขนของโบนิตาเธอจึงหยุดเดิน

“ให้ผมไปส่งนะ” เขาเอ่ยปาก ส่งนัยน์ตาหวานเชื่อม

เธอชี้หน้าของเขา จ้องหน้าของเขาเพราะจำไม่ได้

“วิศวกรรถไฟฟ้า เราเพิ่งรู้จักกันเมื่อกี้นี้ไง จำได้หรือยัง ผมไวท์” เขาแนะนำตัวอีกรอบ

“อ๋อ... คุณนั่นเอง” เธอลากเสียงยาวแต่ก็ยังพยายามเดินต่อไปข้างหน้า

“กลับกับผมนะ รถผมอยู่ทางนี้” เขากึ่งลากกึ่งดึงให้เธอเดินไปกับเขา

โบนิตาไม่ไว้ใจใครอยู่แล้ว ‘เธอเกลียดผู้ชาย’ เสียงหนึ่งในหัวดังขึ้น หญิงสาวจึงสะบัดแขนเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา

“ไม่ ฉันไม่ไป ฉันไม่ไปกับคุณ” เธอปฏิเสธ ในความคิดคือเสียงแข็ง แต่ความเป็นจริงมันอ้อแอ้เพราะลิ้นที่พันกัน

“อย่าดื้อน่า สภาพแบบนี้ โบกแท็กซี่ ไม่มีคันไหนรับหรอกครับ” เขาบอกเธอ พลางส่งมือทั้งสองข้างมาประกบที่เอวแทน

“เอ๊ะ นายนี่พูดไม่รู้เรื่อง บอกว่าไม่ไป ไม่ไป ปล่อยฉันนะ” เธอดึงดัน แต่แรงของเขามีมากกว่า ถึงเท้าจะลากแต่ก็เหมือนว่าตัวของเธอจะลอยตามมือของเขาไปชัด ๆ

ปิ๊บ... เสียงกดรีโมตรถ ขาที่พาสองร่างก้าวมาถึงที่รถ สันชัยใช้มืออีกข้างเปิดประตู

โบนิตาทำตัวกางขวางตัวเองเอาไว้ที่ประตู

“ฉันไม่ไป” เธอออกแรงดิ้น

“เอ๊ะอีนี่ เรื่องมากจริง ๆ เมื่อกี้มึงยังอ่อยกูอยู่เลย เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว” สันชัยทำท่าจะง้างมือ

มือใหญ่ของหิรัญก็จับเข้าไปที่ข้อแขนของเขา

บทก่อนหน้า
บทถัดไป