บทที่ 1 วิวาห์ลวง
“เชิญคู่บ่าวสาวขึ้นมากล่าวขอบคุณแขกในงานสักหน่อยนะคะ...” เสียงพิธีกรประกาศก้องบนเวที
เอื้องดาวก้มหน้าลง สูดลมหายใจลึก ใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา ใบหน้าของเธอซีดเผือด ดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำตาใต้ผ้าคลุมเจ้าสาว แต่เก้าอี้ข้างเธอ…ว่างเปล่า
“เจ้าบ่าวหายไปไหน?”
“ทิ้งเจ้าสาวกลางงานแต่งเหรอ?”
“เห็นเดินออกไปกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้แวบๆ” พ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวมองเธอด้วยสายตาเหยียดหยาม ราวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของเธอคนเดียว
“ไปบอกให้พิธีกรเปลี่ยนพิธีการก่อน…แล้วให้คนไปตามหาตาธีร์กลับมาด้วย สงสัยจะไปเข้าห้องน้ำหรือเปล่า” เยาวภาเอ่ยขึ้น
“เสียเวลาจริงๆ คนมันไม่ได้รักกัน ไม่รู้จะบังคับให้ได้อะไรขึ้นมา” ธารารัตน์แม่ของเจ้าบ่าวพูดขึ้นลอยๆ แต่เมื่อเห็นสายตาของเยาวภาที่มองค้อนด้วยความไม่พอใจ เธอก็ไม่กล้าสบตา ไม่กล้าพูดอะไรมากไปกว่านั้น
“อย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลยนะเอื้อง” เยาวภาหันไปพูดกับหลานสะใภ้ที่เธอเลือกเองกับมือ เอื้องดาวเป็นพยาบาลดูแลเยาวภาอย่างใกล้ชิดมาหลายปี ทำให้เยาวภารักและเอ็นดูมาก ถึงขนาดสั่งให้ธีรชลหลานชายเพียงคนเดียวของตัวเอง แต่งงานกับเอื้องดาว
“ขอเชิญแขกผู้มีเกียรติรับประทานอาหารก่อนนะคะ ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ” ไม่นานเสียงพิธีกรก็ประกาศขึ้นอีกครั้ง
“คุณย่าคะ...เดี๋ยวเอื้องขอไปตามหาคุณธีร์ก่อนนะคะ” เอื้องดาวบอกกับเยาวภา ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินออกมา เธอรู้ว่าเขาจะไปที่ได้ เพราะแอบเห็นข้อความที่ธีรชลพูดคุยนัดแนะกับคนรักของเขา
เอื้องดาวเดินตรงไปที่ประตูห้องด้านหลังห้องจัดเลี้ยง เสียงพูดคุยของผู้ชายกับผู้หญิงดังเล็ดลอดมาก่อนที่เธอจะเจอภาพนั้น…
ธีรชลกำลังกอดกับจิรนิษฐ์…แฟนสาวของเขา ทั้งคู่ยืนกอดกันแนบชิดอย่างไม่กลัวว่าจะมีใครเข้ามาเจอ
“เมื่อไหร่จะเสร็จพิธีสักทีคะ ไหนบอกว่าแค่แต่งกันหลอกๆ ทำไมต้องจริงจังขนาดนี้ด้วย แขกในงานก็เยอะแยะไปหมด แถมยังมีคนมาทำข่าวอีก จี้เจ็บปวดใจจะแย่อยู่แล้ว ที่ต้องทนเห็นแฟนตัวเองแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ธีรชลก็โอบกอดเธอแน่นเป็นการปลอบใจ
“ธีร์ก็ไม่คิดว่าคุณย่าจะเล่นใหญ่แบบนี้เหมือนกัน ไม่รู้ยายพยาบาลนั่นไปพูดอะไรกรอกหูคุณย่าอีก ธีร์เองก็อึดอัดถึงได้ออกมาอยู่กับจี้ไงคะ” เอื้องดาวกัดริมฝีปากจนเลือดซิบ เธอเองก็อึดอัดไม่น้อยไปกว่าเขาเลย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้มีคนรักอยู่แล้วก็ตาม
“ขอโทษที่ต้องขัดจังหวะนะคะ” เสียงของเอื้องดาวทำให้คนทั้งสองตกใจ จนต้องรีบผละออกจากกัน แต่เมื่อธีรชลเห็นว่าเป็นเธอ สีหน้าของเขาก็แสดงออกว่าโกรธทันที
“ไม่มีมารยาท” ธีรชลถอนหายใจเย็นชา ก่อนจะต่อว่าเธออย่างไม่ไว้หน้า
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ แต่คุณย่ากำลังตามหาคุณอยู่ งานยังไม่เสร็จช่วยกลับไปด้วยนะคะ” เอื้องดาวพยายามพูดอย่างใจเย็นที่สุด
“แหม...เรียกคุณย่าได้อย่างไม่กระดากปากเลยนะ” จิรนิษฐ์กอดอกพูดกับหญิงสาวที่สวมชุดเจ้าสาวตรงหน้า
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าถ้าไม่ได้อยู่ต่อหน้าคุณย่า ให้เรียกท่านว่าคุณท่าน” ธีรชลพูดเสริม
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะค่ะ เอื้องมาเพื่อตามคุณกลับไปทำพิธีต่อให้เสร็จ”
“ลืมไปหรือไงว่าวันนี้มันก็แค่ละครฉากหนึ่ง? เราแต่งกันเพราะย่า ไม่ใช่เพราะฉันอยากแต่ง” เอื้องดาวกำมือแน่น สั่นด้วยความเจ็บปวด
“เอื้องไม่เคยลืมค่ะ…แต่ในเมื่อคุณรับปากจะทำแล้ว ก็ช่วยกลับไปแสดงต่อให้จบด้วยค่ะ คนทั้งงานรออยู่คุณ” ธีรชลถอนใจอีกครั้ง เหมือนรำคาญเหลือทน สำหรับเขาแล้ว แค่ได้เห็นหน้าเธอก็นับว่าเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมากแล้วจริงๆ
“งั้นก็กลับไปก่อน เดี๋ยวฉันตามไปเอง” เขาตอบอย่างขอไปที่ แต่เอื้องดาวก็ทำได้แค่เอื้องดาวยืนนิ่ง มองเขาอย่างเงียบๆ เพื่อกดดันให้เขารีบกลับไป เธอเองก็อยากให้พิธีแต่งงานมันจบเร็วๆ เหมือนกัน
“ไม่ได้ยินหรือไงธีร์บอกให้แกกลับไปก่อน ยังมายืนเซ่ออยู่ได้” จิรนิษฐ์ตะคอกอย่างหงุดหงิด เอื้องดาวคนนี้น่ารำคาญกว่าที่เธอคิดเอาไว้มากจริงๆ
“รีบไปนะคะ ฉันเองก็อยากให้ทุกอย่างมันจบเร็วๆ เหมือนกัน” เอื้องดาวบอกกับคนทั้งสอง ก่อนหมุนตัวเดินออกมาด้วยหัวใจที่บอบช้ำ เธอรู้สึกไร้ค่าเหลือเกิน ไม่อยากเชื่อเลยว่าธีรชลที่เคยสุภาพ วันนี้เขากลับไปเปลี่ยนไปราวว่าเป็นคนละคนกับที่เธอเคยรู้จักเหมือนหลายปีก่อน
“นังพยาบาลนี่ดูจะเอาเรื่องจริงๆ นะคะ ขนาดรู้ทั้งรู้ว่าเป็นค่างานแต่งปลอมๆ มันยังวางอำนาจเหมือนเป็นเมียธีร์จริงๆ แล้ว” จิรนิษฐ์หันไปพูดกับแฟนหนุ่มของตัวเอง
“ไม่ต้องห่วงหรอก ธีร์ให้มันเซ็นสัญญาแล้ว ถึงเวลาที่มันต้องไป มันก็ต้องออกไปจากชีวิตธีร์โดยไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรทั้งนั้น”
“จี้กลัวธีร์จะหลงเสน่ห์มันน่ะสิ มันคงไม่ยอมปล่อยธีร์ไปง่ายๆ หรอก ลงทุนไปตั้งขนาดนี้แล้ว อีกอย่างย่าธีร์ก็ยังหลงมันขนาดนั้น” ธีรชลดึงร่างเล็กๆ ของแฟนสาวเข้ามากอดแน่น แต่พอเขาจะก้มลงไปจูบเธอ มือบางของจิรนิษฐ์ก็ดันใบหน้าของเขาออก
“ทำไม...”
