บทที่ 8 เลิกเสแสร้งสักที

“สายแล้วนะเอื้อง...ธีร์โทรมาหรือยัง” เอื้องดาวปิดหนังสือลงทันที แม้จะรู้ว่าคุณย่าไม่ได้ตั้งใจจะกดดัน แต่ทุกครั้งที่ถูกถามถึงธีรชล มันก็เหมือนมีมีดมาทิ่มแทงในใจของเธอ

“ยังเลยค่ะ แต่เอื้องว่าอาจจะยุ่งกับงานก็ได้นะคะ เมื่อวานพี่ธีร์บอกว่าวันนี้มีประชุมกับลูกค้า เอื้องก็ลืมถามซะด้วยว่ากี่โมง” เธอพยายามเลี่ยง

“จะยุ่งแค่ไหนก็ไม่ควรลืมโทรหาเมียแบบนี้นะ ใช้ได้ที่ไหนกันธีร์นี่ก็จริงๆ เลย” เยาวภาพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

“ตั้งแต่กลับไป ถ้าย่าไม่ให้เอื้องส่งข้อความไปก่อน ก็ไม่ยอมโทรมาเลย แบบนี้จะไม่ให้ย่าย้ายกลับกรุงเทพยังไงได้”

“คุณธีร์...เอ่อ พี่ธีร์คงจะยุ่งอยู่กับงานที่บริษัทจริงๆ นั่นแหละค่ะ” เอื้องดาวตอบอย่างใจเย็น เธอไม่กล้าพูดความจริงว่าธีรชลไม่ได้อยากจะโทรหาเธอเลยแม้แต่น้อย

“ถ้าเขาไม่สนใจเอื้องจริงๆ ล่ะก็ ย่าจะโทรไปต่อว่าให้ถึงบริษัทเลย”

“โธ่คุณย่าคะ อย่าทำแบบนั้นเลยค่ะ” เอื้องดาวรีบจับมือเยาวภาไว้แน่นด้วยความตกใจ

“คุณย่าลืมไปแล้วหรือคะ ว่าเรากำลังอ่านอะไรกันอยู่ เอื้องกำลังอ่านถึงตอนที่...นางเอกกำลังจะเดินทางแล้วนะคะ” เธอรีบหาเรื่องอื่นมาเบี่ยงเบนความสนใจ เยาวภาหัวเราะเบาๆ พลางลูบหลังมือของเอื้องดาวอย่างเอ็นดู

“อ่านต่อไปเถอะ ย่าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง” เอื้องดาวถอนหายใจโล่งอกในใจ เธอรู้ว่าคำพูดของคุณย่าไม่ได้เป็นแค่คำพูดเล่นๆ หากย่ารู้ว่าเธอและธีรชลไม่ได้คุยกันเลยจริงๆ คุณย่าคงจะเสียใจมากแน่

ทั้งสองคนกลับมาสู่ความสงบอีกครั้ง เอื้องดาวอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลชวนฟัง จนเยาวภาเผลอหลับไป เธอค่อยๆ วางหนังสือลงอย่างเบามือ แล้วใช้ผ้าห่มผืนบางที่ติดมือมาคลุมให้เยาวภา

“คุณเอื้องคะ” เสียงเรียกจากพวง สาวใช้คนสนิท ทำให้เอื้องดาวหันไปมอง

“คุณธีร์โทรมาค่ะ” เอื้องดาวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที ไม่ใช่ความตื่นเต้นแบบภรรยาที่สามีโทรหา แต่เป็นความกังวลว่าเขาโทรมาด้วยเรื่องอะไรกันแน่

“ทำไมไม่บอกว่าคุณย่าหลับอยู่คะ” เธอถามเสียงแผ่ว

“คุณธีร์เขาไม่ยอมให้บอกค่ะ บอกว่ามีเรื่องด่วนที่ต้องคุยกับคุณเอื้องเดี๋ยวนี้” เอื้องดาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะรับโทรศัพท์มาจากพวง แล้วเดินออกห่างจากเก้าอี้ที่เยาวภานั่งอยู่เล็กน้อย

“มีอะไรหรือเปล่าคะ...พี่ธีร์” เธอเผลอเรียกเขาด้วยคำที่เยาวภาอยากได้ยิน

“อยู่กับคุณย่าใช่ไหม?” เสียงปลายสายเย็นชาและหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

“ค่ะ”

“ตอนนี้เธออยู่ไหน”

“เอื้องกำลังดูแลคุณย่าอยู่ในสวนค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“มีสิ! เธอทำอะไรลงไปถึงได้ทำให้คุณย่าคิดจะย้ายกลับมากรุงเทพฯ หะ?” เอื้องดาวตกใจไม่น้อย เธอไม่รู้เลยว่าทำไมธีรชลถึงรู้เรื่องนี้ แต่ก้ไม่แน่ในบ้านอาจจะมีคนของเขาแอบฟังแล้วคอยรายงานก็ได้

“คุณย่า...ท่านแค่พูดขึ้นมาเฉย ๆ ท่านยังไม่ได้ตัดสินใจเลยนะคะ”

“อย่ามาโกหก! ฉันรู้ด้วยว่าเธอก็เห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้ และย่าก็เริ่มเตรียมการบางอย่างแล้วด้วย เธอรู้ไหมว่าถ้าคุณย่ากลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ทุกอย่างจะวุ่นวายแค่ไหน”

“เอื้องไม่เข้าใจว่าทำไมมันจะต้องวุ่นวายด้วย ในเมื่อ...”

“ก็ในเมื่อฉันมีคนที่ฉันรักอยู่แล้วไงล่ะ! ถ้าคุณย่ากลับมาที่นี่ พวกเราก็ต้องทำเป็นสามีภรรยาที่รักกัน ต้องอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเดียวกัน นั่นคือสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุด” เสียงของเขาหนักแน่นและเต็มไปด้วยความรังเกียจที่ส่งตรงมาถึงเธอ

เอื้องดาวกัดริมฝีปากแน่น ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นเข้าสู่หัวใจ เธอรับรู้ถึงความจริงข้อนี้ดี แต่การที่เขาตอกย้ำมันซ้ำๆ ก็ยังทำให้เธอรู้สึกไม่ต่างจากเดิม

“คุณธีร์ไม่ต้องห่วงนะคะ เอื้องจะเป็นคนคุยกับคุณย่าเองค่ะ ว่าเราไม่ควรย้ายกลับไป” เธอพยายามควบคุมเสียงให้มั่นคงที่สุด

“แน่นอนว่าเธอต้องทำทุกวิถีทางอย่าให้คุณย่ากลับมากรุงเทพเด็ดขาด เธอมันพูดคำไหนคุณย่าก็เชื่อหมดอยู่แล้วนี่”

“ค่ะ เอื้องก็ไม่ได้อยากไป คุณไม่ต้องห่วงเอื้องจะต้องคุยกับคุณย่าให้ท่านเปลี่ยนใจ”

“คุยให้รู้เรื่อง! ถ้าคุณย่าตัดสินใจย้ายกลับมาเพราะเธอ...ฉันจะถือว่านี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด จำไว้!” ธีรชลตัดสายไปอย่างไม่ไยดี ทิ้งให้เอื้องดาวยืนนิ่งอยู่ในสวน ดวงตาของเธอเริ่มร้อนผ่าว แต่ก็ต้องรีบปาดน้ำตาออก ก่อนที่เยาวภาจะตื่นขึ้นมาเห็นเข้า เธอได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆ ว่าที่ทำอยู่นั้นคิดดีแล้วจริงๆ หรือ วิชาชีพพยาบาลก็ไม่ได้ต่ำต้อยอะไรเลย ตอนนี้เธอก็ไม่ได้มีเรื่องจำเป็นอะไรต้องใช้เงินอีกแล้ว แต่พอคิดย้อนไปถึงตอนที่เยาวภาช่วยเหลือพ่อของเธอให้รักษาตัวจนหาย บุญคุณนี้ที่แม้ว่าเยาวภาจะไม่เคยทวง มันกลับทำให้เธอยินดีจะทนทุกข์ต่อไป เพื่อแลกกับความสุขของเยาวภา แม้จะยังไม่รู้ว่าจะต้องติดอยู่ในข้อตกลงบ้าบอนี้ไปอีกนานแค่ไหน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป