บทที่ 9 เรื่องแบบนั้นมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน

ณ ห้องทำงานของธีรชล

ธีรชลโยนโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะกระจกอย่างแรง ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงด้วยความหงุดหงิดถึงขีดสุด เขาคลายเนกไทให้หลวมลง เพื่อระบายความอึดอัดที่เพิ่งได้รับจากปลายสายเมื่อครู่ ความโกรธต่อการกระทำของย่าและ 'ผู้หญิงคนนั้น' พุ่งสูงจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้

เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของ จิรนิษฐ์ หญิงสาวผู้เป็นคนรักที่แท้จริงของเขาเดินเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟ

“เป็นอะไรคะธีร์ คุณดูหงุดหงิดมาตั้งแต่เช้าแล้วนะ” จิรนิษฐ์วางแก้วกาแฟลงข้างๆ แล้วเลื่อนตัวเข้ามานวดไหล่เขาอย่างเอาใจ

“เรื่องคุณย่า...” ธีรชลตอบเสียงห้วน

“ย่าคุณนี่ดูจะเหงาจริงๆ นะคะ ขยันสร้างเรื่องจัง ท่านทำอะไรอีก”

“จู่ๆ ท่านก็พูดว่าอยากย้ายกลับมากรุงเทพฯ” จิรนิษฐ์ชะงักมือที่นวดไหล่ไว้ ใบหน้าของเธอแปรเปลี่ยนเป็นความกังวล

“ย้ายกลับมา? ทำไมคะ ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ”

“ไม่สบายบ้าอะไรล่ะ!” เขาตวาดออกมาเบาๆ

“คุณย่าบอกว่าสบายดีขึ้นมากแล้ว...และที่สำคัญ ท่านอยากให้ธีร์กับยัยเอื้องดาวได้อยู่ด้วยกัน!” เขาเน้นคำว่า 'ยัยเอื้องดาว' ด้วยความรังเกียจอย่างชัดเจน

จิรนิษฐ์ถอนหายใจยาว พลางเลื่อนไปนั่งตรงข้ามเขา แล้วจับมือเขามากุมไว้แน่น

“อย่าเพิ่งใจร้อนสิคะธีร์” เธอพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยน แต่แววตาฉายความไม่พอใจอย่างปิดไม่มิด

“ไม่ใจร้อนได้ไง ถ้าย่ามาอยู่ที่นี่ ธีร์ก็ต้องแสดงละครว่ารักกับยัยนั่นอีก แค่คิดก็อึดอัดจะตาย”

“จี้ว่าเรื่องนี้มันแปลก ๆ นะคะ อยู่ๆ คุณย่าจะคิดย้ายกลับมาทำไม ทั้งที่ท่านก็อยู่ที่นั่นมาตั้งนานแล้ว”

“นั่นสิ!” ธีรชลขบกรามแน่น

“จี้ว่ามันต้องเป็นฝีมือยัยนั่นแน่ๆ ยัยเอื้องดาวต้องพูดอะไรกรอกหูคุณย่าแน่ๆ ถึงได้ทำให้ท่านเปลี่ยนใจกะทันหันขนาดนี้” จิรนิษฐ์บีบมือเขาเบาๆ เพื่อกระตุ้นให้เขามองหน้าเธอ

“ธีร์ก็น่าจะรู้นิสัยของคนแบบนั้นดีอยู่แล้วนี่คะ” เธอกรอกเสียงนุ่มทว่าเต็มไปด้วยยาพิษ

“มันคงอยากได้ตำแหน่ง ‘คุณนาย’ จนตัวสั่น อยากเข้ามาอยู่ในบ้านใหญ่ อยู่ในสายตาคุณย่า เพื่อให้สถานะของตัวเองมั่นคงขึ้นกว่าที่เป็นแค่พยาบาล”

“ธีร์ก็คิดแบบนั้น!” ธีรชลตอกย้ำราวกับคำพูดของจิรนิษฐ์คือความจริงแท้ที่เขาเชื่ออยู่แล้ว

“คุณย่ารักยัยพยาบาลนั่นออกขนาดนั้น ถึงขนาดบังคับให้เราแต่งงานกัน เรื่องแค่นี้ยัยนั่นต้องทำได้อยู่แล้ว”

“จี้ไม่ได้อยากคิดมากเลยนะคะ แต่พูดตามตรงว่าจี้ก็กลัวใจคุณเหมือนกัน”

“กลัวใจธีร์อะไร”

“แหม...แม่นั่นไม่ได้ขี้เหร่เลยนะคะ อีกอย่างเป็นพยาบาลก็ไม่ได้ต่ำต้อยอะไรเลย” จิรนิษฐ์พูดต่ออย่างจงใจ

“พูดอะไรของคุณน่ะจี้ ผมรักคุณจะตายไป ไม่สนใจคนแบบนั้นหรอก”

“ยัยพยาบาลนั่นคงเห็นว่าคุณย่ามีเงิน มีอำนาจ...แล้วมันก็ใช้ความดีงามหลอกล่อ จนคุณย่าไว้ใจทุกอย่างขนาดนี้ ถ้ามันได้มาอยู่ใกล้คุณขึ้นมา จี้จะไว้ใจได้ยังไง”

“ผมสัญญาเลยจี้ เรื่องแบบนั้นมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน ผมจะพยายามกระชากหน้ากากยัยนั่นให้เร็วที่สุด คุณย่าจะได้เลิกหลงสักที” ธีรชลพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“คุณแม่บอกจี้ว่า ถ้าคุณย่าจัดการเรื่องมรดกแล้ว คุณก็จะหย่ากับมันใช่ไหมคะ?” จิรนิษฐ์ยื่นหน้าเข้ามาจูบปลอบโยนที่ข้างแก้มของเขา

“จริงๆ ธีร์ไม่ได้มีปัญหาอะไรเรื่องมรดก ยังไงธีร์ก็เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลอยู่แล้ว”

“แล้วธีร์ยอมแต่งงานกับมันเพราะอะไร?”

“ธีร์เคยพูดไปแล้วไง ว่าเพราะคุณย่าขอร้อง หลายปีมานี้ธีร์ไม่ได้ดูแลคุณย่าเลย นับตั้งแต่ที่ท่านทะเลาะกับคุณแม่แล้วหนีไปอยู่เชียงใหม่คนเดียว ตอนนั้นธีร์ฟังความข้างเดียว พอรู้ความจริงก็อดรู้สึกผิดต่อท่านไม่ได้”

“จะอะไรก็ช่างเถอะค่ะ จี้จะลองเชื่อใจคุณก็ได้ แต่จี้ขอเตือนไว้เลยนะคะ ถ้าคุณพลาดไปมีใจให้มันขึ้นมาจริงๆ จี้ไม่ยอมแน่ จี้จะตามราวีให้ถึงที่สุดเลยคอยดู”

“ธีร์รู้แล้วน่า ธีร์ก็บอกไปแล้วไงคะ ว่าธีร์ทำไปทั้งหมดก็เพื่อคุณย่า”

“แล้วเรื่องที่คุณย่าจะย้ายกลับ ตกลงว่าจะยังไงคะ จี้จะได้เตรียมใจเอาไว้บ้าง”

“แม่นั่นเขารับปากว่าจะช่วยคุยกับคุณย่าให้”

“แล้วคุณก็เชื่อมันน่ะเหรอ? ธีร์เราเพิ่งคุยกันเองนะคะ ว่าคนที่พูดให้คุณย่าอยากกลับมาก็คือมัน...”

“ใจเย็นก่อนสิจี้ เรื่องนั้นธีร์รู้อยู่แล้ว แล้วธีร์ก็มีแผนสำรองเอาไว้แล้ว”

“แผนสำรองอะไรคะ”

“ธีร์คิดว่าถ้าธีร์ไปหาคุณย่าให้มันบ่อยหน่อย แบบ...อาทิตย์ละครั้ง อาจจะช่วยให้คุณย่าเปลี่ยนใจได้”

“ธีร์คะ!!! กรุงเทพ-เชียงใหม่เลยนะคะ แล้วคุณยังต้องทำงานทุกวันแบบนี้อีก คุณย่านี่ยังไงบอกว่ารักหลาน รักจริงหรือเปล่า” ธีรชลมองหน้าแฟนสาวด้วยสายตาผิดหวัง เขาไม่คิดว่าเธอจะพูดถึงย่าของเขาแบบนี้เลย

“ขอโทษค่ะ จี้ก็แค่สงสารคุณ ทำงานก็เหนื่อยมากแล้ว ยังต้องมาเดินทางไกลบ่อยๆ แบบนั้นอีก” ธีรชลแค่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เรื่องนี้เขาก็คิดหนักเหมือนกัน แต่ถ้ามันทำให้อะไรดีขึ้นได้ เขาก็ยินดีทำ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป