บทที่ 6 การแสดงครั้งแรกในรายการวาไรตี้

รถแท็กซี่จอดที่หน้าหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว เขมจิราลงจากรถ แล้วแวะซื้อกับข้าวที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหน้าหมู่บ้านติดมือกลับบ้านไปด้วย

เธอต้องดูแลตัวเองให้ดี เพราะร่างกายคือต้นทุนของการปฏิวัติ ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องกินข้าวให้ดี

วันต่อมา ทีมงานรายการได้ปล่อยตัวอย่างรายการวาไรตี้ครั้งนี้ พร้อมประกาศรายชื่อแขกรับเชิญที่เข้าร่วมรายการโดยตรง สิ่งที่แตกต่างจากชาติที่แล้วคือ มีชื่อของเธอกับกวินท์เพิ่มเข้ามา

ในชาติที่แล้ว ฑีปกรปรากฏตัวในฐานะแขกรับเชิญปริศนา ดังนั้นก่อนรายการออกอากาศ ทุกคนจึงไม่คาดคิดว่าเขาจะเข้าร่วมรายการนี้

เรื่องนี้ เขมจิราไม่ได้แปลกใจเลย

ทันทีที่ทีมงานประกาศอย่างเป็นทางการ ก็เกิดประเด็นร้อนขึ้นมาทันที นอกจากแฟนคลับของแขกรับเชิญคนอื่นๆ ที่เข้ามาสนับสนุนไอดอลของตัวเองแล้ว คอมเมนต์ก็เหลือเพียงสองกระแส

กระแสหนึ่งคือการโจมตีเขมจิราอย่างบ้าคลั่ง ส่วนอีกกระแสคือการชื่นชมญาดาวี

เขมจิรากำลังเล่นโยคะอยู่ แต่โทรศัพท์ของเธอกลับเด้งแจ้งเตือนข้อความไม่หยุด ทั้งหมดเป็นการแท็กถึงเธอ

[ตอนแรกก็ตั้งตารอ "ชีวิตดีดี" เทปนี้มาก พอเห็นเขมจิรา ความคาดหวังลดลงไปครึ่งหนึ่งเลย]

[ต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ ได้ยินมาว่ามาตรฐานการคัดเลือกของทีมงานค่อนข้างสูง ทำไมถึงปล่อยให้เขมจิราหลุดเข้ามาได้]

[เขมจิรา ยัยผู้หญิงขี้อิจฉาคนนี้ ต้องรู้แน่ๆ ว่า 77 ของฉันจะมาออกรายการนี้ เลยพยายามทุกวิถีทางเพื่อเข้ามาให้ได้]

77 เป็นชื่อเล่นที่แฟนคลับใช้เรียกกวินท์ เขาเดบิวต์ในเดือนเจ็ด แฟนๆ เลยตั้งฉายานี้ให้เขา

[77 เขามาออกรายการเพื่อดูแลน้องสาว ไม่ชายตามองเขมจิราหรอกนะ ขอเตือนให้เธอตัดใจซะเถอะ]

[พูดตามตรงนะ หน้าตาของเขมจิราก็ถือว่าสวยสู้ได้อยู่ เคยดูผลงานของเธอ การแสดงก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ทำไมต้องเลือกเดินทางผิดๆ ด้วย]

[ก็ไม่มีสมองไง ในวงการนี้คนหน้าตาดีมีเยอะแยะไป แล้วใครจะรู้ว่าของแท้หรือเปล่า]

...

คอมเมนต์ทำนองนี้แทบจะเต็มหน้าฟีดของทีมงานรายการ เขมจิราเลื่อนอ่านแค่ไม่กี่ข้อความก็ไม่ได้ดูต่อแล้ว กดรีโพสต์แล้วก็ปิดโซเชียลมีเดียไป

ตอนนี้ญาดาวีเป็นแค่นักแสดงปลายแถว แต่คอมเมนต์ของแฟนคลับกลับพูดถึงเธอแทบทุกประโยค ดูแวบเดียวก็รู้ว่าจ้างหน้าม้ามาทำการตลาด

ความลำเอียงของตระกูลทับทองที่มีต่อญาดาวี เขมจิราเคยเห็นมาแล้วในชาติที่แล้ว บริษัท ทับทอง เอนเตอร์เทนเมนท์ จะทำแบบนี้ก็ไม่แปลก

กลับกัน พวกแอนตี้แฟนของเธอด่าไปด่ามาก็ไม่มีอะไรใหม่เลยสักนิด เธอขี้เกียจเสียเวลาไปตอบโต้คำด่าของแอนตี้แฟน ชื่อเสียงในทางลบก็ถือเป็นชื่อเสียงเหมือนกัน เธอไม่จำเป็นต้องตอบโต้ การใช้ความสามารถตบหน้ากลับไปคือการโต้กลับที่ดีที่สุด

รายการวาไรตี้นี้ถ่ายทำในรูปแบบไลฟ์สด ไม่มีการซ้อมล่วงหน้า นอกจากทีมงานแล้ว ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าแขกรับเชิญจะเจอกับอะไรบ้าง ดังนั้นจึงถือเป็นรายการที่สะท้อนภาพลักษณ์ของแขกรับเชิญได้อย่างสมจริงมาก

เขมจิราอาศัยความทรงจำจากชาติที่แล้ว จัดของที่ต้องเอาไป และพักผ่อนอย่างเต็มที่สองวัน

พอถึงวันออกอากาศ เธอก็ตื่นแต่เช้าเพื่อล้างหน้าล้างตา แล้วขึ้นเครื่องบินไปยังสถานที่ถ่ายทำรายการ

ทีมงานเลือกหมู่บ้านที่ทิวทัศน์สวยงามแห่งหนึ่ง ที่นี่ผู้คนมีน้ำใจและเรียบง่าย อยู่ห่างไกลจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ แขกรับเชิญจะต้องใช้ชีวิตร่วมกันที่นี่เป็นเวลาหนึ่ง และทำภารกิจต่างๆ ที่ทีมงานกำหนด

แขกรับเชิญที่ทำภารกิจได้เร็วและดีที่สุด จะได้รับรางวัลมากมายจากผู้สนับสนุน

เมื่อเขมจิราลงจากเครื่องบิน ก็มีคนรออยู่ที่สนามบินแล้ว และไลฟ์สดก็เริ่มขึ้นในตอนนั้นเอง

ทีมงานมารับเขมจิราเป็นคนแรก ทันทีที่เธอเดินออกมาจากอาคารผู้โดยสาร ก็ทำให้ทุกคนต้องตะลึง

เสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบๆ กับกางเกงยีนส์รัดรูป ทำให้ขาของเธอดูตรงและยาวขึ้นไปอีก ด้านนอกคลุมทับด้วยเสื้อโค้ทสีน้ำตาลอย่างสบายๆ ทำให้ทั้งตัวเธอดูเป็นอิสระและสง่างาม

เขมจิราไม่ได้แต่งหน้า ปรากฏตัวในกล้องด้วยหน้าสด ในห้องไลฟ์สด คอมเมนต์ก็เลื่อนขึ้นมารัวๆ

[ทำไมเขมจิราโผล่มาคนแรกเนี่ย ทนดูไม่ได้เลยจริงๆ]

[แต่พูดจริงๆ นะ หน้าตาของเขมจิรานี่คือสวยจริงอะไรจริง สไตล์การแต่งตัวก็ดูดี ถ้าตั้งใจฝึกฝนการแสดงอีกหน่อย อนาคตไกลแน่นอน]

[อ๊ายยย หน้าสดของเขมจิราสวยขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนไม่เคยสังเกตเลย แค่เห็นหน้าตาก็ขอเป็นแฟนคลับแล้ว]

[สวยแล้วไง นิสัยไม่ดี ต่อให้สวยเหมือนนางฟ้าก็ทำให้อยากอ้วกอยู่ดี]

จำนวนคนในห้องไลฟ์สดยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากแฟนคลับแล้ว แขกรับเชิญที่เข้าร่วมรายการเทปนี้ต่างก็คอยดูไลฟ์อยู่เช่นกัน โดยเฉพาะคนจากตระกูลทับทอง

บูรณ์วิรัชกับกวินท์เห็นเขมจิราในกล้อง ก็ถึงกับตะลึงไปเหมือนกัน

ก่อนหน้านี้พวกเขาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน เจอกันทุกวันจนชิน พวกเขาไม่เคยรู้สึกอะไรกับหน้าตาของเธอ และไม่เคยสนใจผลงานการแสดงของเธอเลย พอมาเห็นเธอในกล้องที่ดูเป็นอิสระแบบนี้ ก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง

เขมจิราขึ้นรถไปกับทีมงาน จากนั้นกล้องก็ตัดภาพไป ทีมงานทยอยไปรับแขกรับเชิญคนอื่นๆ และทุกคนก็มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านด้วยกัน

แขกรับเชิญทยอยออกมาจากอาคารผู้โดยสาร คนที่สองที่มาถึงคืออินทร์รดี นักร้องและนักเต้นจากเกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังดังมากในขณะนี้ ตามมาด้วยมิ้นท์ นางเอกดาวรุ่ง และแบงค์ นักแสดงแถวหน้า

อินทร์รดีสวมกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อตัวในสีขาว และคลุมทับด้วยแจ็คเก็ตหนัง เป็นสไตล์วินเทจ

ส่วนมิ้นท์มาในชุดเดรสยาวสีขาว คลุมทับด้วยเสื้อโค้ทเรียบๆ มาในลุคคนรักแรก

แบงค์มาในชุดสูท ดูภูมิฐาน หลังจากขึ้นรถ เขาก็ทักทายทั้งสามคนก่อน แล้วจึงหาที่นั่ง

ทั้งสามคนก็ยิ้มตอบและทักทายกัน อินทร์รดียังคุยเล่นกับเขมจิราอย่างเป็นกันเอง แบงค์ก็มองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม

มีเพียงมิ้นท์ที่ตอบกลับสั้นๆ แล้วก็หันหน้าไปทางอื่น ทำท่าทีเย็นชา ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบเขมจิรา แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจน

ไม่นานก็มีแขกรับเชิญออกมาจากอาคารผู้โดยสารอีก และถูกทีมงานพามาที่รถ

เขมจิราเงยหน้าขึ้นก็เห็นกวินท์ยืนอยู่ที่ประตูรถ เขายื่นมือออกไปนอกรถด้วยสีหน้าเอ็นดู จากนั้นญาดาวีก็จูงมือเขาขึ้นรถมา

ทั้งสองคนเห็นเธอพร้อมกัน ทั้งสามสบตากัน แต่สายตาของเขมจิราจับจ้องอยู่เพียงวินาทีเดียวก็ละไป

ตอนนี้คอมเมนต์ก็เลื่อนขึ้นมารัวๆ อีกครั้ง

[ว้าว 77 ดูแลน้องสาวดีมาก มีแค่ฉันคนเดียวเหรอที่สังเกตเห็นสายตาของเขา]

[ญาดาวีกับ 77 สมแล้วที่เป็นพี่น้องกัน พอปรากฏตัวก็ฆ่าแขกรับเชิญคนอื่นตายเรียบเลย ภาพนี้มันสุดยอดมาก]

[เดี๋ยวก่อนนะ สายตาของเขมจิรานั่นมันอะไร? อิจฉาเหรอ?]

[ฉันว่าใช่เลย รอบนี้ 77 พาน้องสาวมาด้วย เขมจิราเลยเข้าหาไม่ได้ง่ายๆ แล้ว 55555]

[เคมีของญาดาวีกับ 77 เวลาอยู่ด้วยกันมันเข้ากันมาก ถ้าพวกเขาไม่ใช่พี่น้องกันนะ ฉันจะชิปคู่นี้แล้ว]

วันนี้ญาดาวีกับกวินท์แต่งตัวมาอย่างจัดเต็ม ไม่เข้ากับสไตล์สบายๆ เลยสักนิด ขาดก็แค่พรมแดงให้ทั้งคู่เดิน

เขมจิราไม่รู้สถานการณ์ในคอมเมนต์ แค่แอบหัวเราะในใจ มีแต่คนไม่มีสมองอย่างญาดาวีเท่านั้นแหละที่จะใส่ส้นสูงมา เดี๋ยวตอนปีนเขา มีหวังได้ร้องไห้แน่

มิ้นท์เห็นทั้งสองคนขึ้นรถมา ก็รีบเรียกให้ญาดาวีมานั่งข้างๆ แต่สายตากลับจับจ้องไปที่กวินท์ไม่วางตา

เขมจิราถึงได้เข้าใจ ที่แท้ที่ยัยดอกบัวขาวใสซื่อคนนี้ดูเป็นมิตรกับญาดาวี ก็เพราะมาแนวเดียวกันนี่เอง

อินทร์รดีกับแบงค์ก็ทักทายทั้งสองคนเช่นกัน แต่ก็เป็นเพียงการทักทายตามมารยาท ดูแล้วก็ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่

เขมจิราขี้เกียจจะสนใจทั้งสองคน แต่ด้วยมารยาท เธอก็ยังฝืนยิ้มมุมปากให้ทั้งคู่ ถือว่าเป็นการทักทายแล้ว

ผู้ชมตาไวรีบจับภาพสีหน้าของเธอได้ทันที แล้วแคปไปวิเคราะห์กัน

[นี่มันสีหน้าอะไรของเขมจิราเนี่ย เก็บอาการไม่อยู่หรือว่าหน้าเป็นอัมพาต]

[อาการของเขมจิรานี่ เป็นผลข้างเคียงจากการทำศัลยกรรมหรือเปล่า?]

[ฉันว่านางกำลังคิดจะสร้างเรื่องอีกแล้วแน่ๆ 77 อย่าไปสนใจนางนะ ยัยผู้หญิงขี้อิจฉาแบบนี้น่ารำคาญที่สุด]

[มีมนี้เด็ด ขอเก็บไว้ใช้หน่อย]