นาดีน 001

ฉันรินเครื่องดื่มใส่แก้ว ชูขึ้นสูง “แด่การตามหาคุณเพอร์เฟกต์จนเจอ!” น้ำเสียงของฉันเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น รอยยิ้มบนใบหน้าสดใสเสียจนซิดนีย์ต้องกลอกตา

เธอไม่เห็นด้วยกับงานแต่งงานของฉันกับเจคที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้

“เธอไม่คิดว่าเธอกำลังรีบร้อนไปหน่อยเหรอ เขาขอเธอแต่งงานทั้งที่เพิ่งเจอกันไม่ถึงหกเดือนเองนะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล

ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วง แต่เธอมองไม่เห็นในสิ่งที่ฉันเห็น “ซิดนีย์ ฉันรักเขานะ เธอไม่เข้าใจเหรอ เวลาที่เจคมองฉัน มันเหมือนกับว่าทุกอณูในตัวฉันเปล่งประกายขึ้นมา ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตฝันถึงเทพนิยาย และกับเขา ในที่สุดฉันก็ได้เจอมันแล้ว เขาคือเจ้าชายของฉัน”

เธอส่ายหน้า “ก็ตามใจเธอแล้วกัน ฉันแค่หวังว่าเธอจะไม่ได้กำลังทำพลาดครั้งใหญ่นะ เขามีอะไรบางอย่างแปลกๆ ฉันบอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคืออะไร”

“โอ๊ย ซิด” ฉันถอนหายใจ พยายามปัดเป่าความตึงเครียด “เธอก็เป็นคนยึดหลักความเป็นจริงตามเคยนั่นแหละ”

“นาดีน ฉันจริงจังนะ มีบางอย่าง... ผิดปกติ แล้วเธอก็กำลังไปเร็วเกินไปมาก”

คำพูดของเธอทำให้บางอย่างในอกฉันบิดเกลียวจนรู้สึกไม่สบายใจ ฉันคว้ามือเธอมากุมไว้แน่น “แค่... ยินดีกับฉันก็พอ ได้ไหม”

เธอยักไหล่แล้วยกแก้วขึ้น “แด่ชีวิตแต่งงานที่แสนสุขนะ เพื่อนรัก”

“อื้อๆ แด่ชีวิตแต่งงานที่แสนสุขที่สุด” ฉันพูดทวน แก้วของเราชนกัน เราจิบเครื่องดื่ม ตามด้วยเสียงหัวเราะพร้อมกัน แต่คำเตือนของเธอยังคงติดอยู่ในห้วงความคิดของฉัน

“ฉันขอไปสูดอากาศหน่อยนะ” ฉันพูดพลางลุกขึ้นจากเตียง

“ให้ฉันไปด้วยไหม”

“ไม่เป็นไร ฉันขอเวลาแป๊บเดียว เดี๋ยวกลับมา”

เธอพยักหน้า มองตามฉันที่ก้าวออกไปข้างนอก ในขณะที่มือยังคงแกว่งแก้วไวน์ในมือ

ขณะที่ฉันเดินไปตามโถงทางเดิน จมอยู่ในความคิดเกี่ยวกับวันสำคัญที่กำลังจะมาถึง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาดึงความสนใจของฉันไป

ฉันหยุดเดิน ตั้งใจฟังเพื่อหาว่าเสียงนั้นมาจากไหน มันนำฉันมาที่ห้องของนาตาลี และจากเสียงครางที่ดังออกมาอย่างชัดเจน ก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่

น้องสาวของฉันไม่เคยอายเรื่องความต้องการของตัวเอง พอเป็นเรื่องเซ็กซ์ เธอก็หาคนที่พร้อมจะมีอะไรด้วยได้ง่ายๆ ปล่อยให้เราต้องทนฟังเสียงครางของเธอ

แต่ครั้งนี้เธออยู่กับใครกันนะ ฉันสงสัยขณะค่อยๆ แง้มประตูออก ระวังไม่ให้เข้าไปขัดจังหวะพวกเขา

“อ๊า... เอาอีกสิคะ เจ” เสียงแหบพร่าและออดอ้อนของนาตาลีดังไปทั่วห้อง ฉันแอบมองผ่านรอยแยกของประตู ดวงตาของฉันเบิกกว้างด้วยความตกใจ

เจค

เขาอยู่กับเธอ กำลังกระแทกกระทั้นเธอจากด้านหลัง มือของเขาลูบไล้ไปทั่วตัวเธอ หัวใจของฉันหยุดเต้น โลกทั้งใบหมุนคว้าง ฉันยกมือขึ้นปิดปาก พยายามกลั้นเสียงร้องไห้ที่จวนเจียนจะหลุดออกมา

ร่างกายของฉันสั่นเทา หน้าอกบีบรัด และมือสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ มันเหมือนกับอากาศถูกสูบออกจากปอดขณะที่ฉันมองดูพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน เสียงครางของพวกเขาดังไปทั่วห้อง โดยไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่พวกเขากำลังสร้างให้ฉันเลย

แต่แล้วความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว... ฉันต้องมีหลักฐาน ฉันเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ หัวใจเต้นรัวขณะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ฉันเริ่มบันทึกวิดีโอ ทุกวินาทีที่ต้องมองดูเจคกับนาตาลีมันเหมือนกับการทรมาน

คำพูดหวานๆ ที่เจคพูดกับน้องสาวของฉันทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจ กรีดลึกลงไปและบีบคั้นชีวิตออกจากมัน ถึงกระนั้น ฉันก็แข็งใจถ่ายต่อไป

เมื่อพอใจกับสิ่งที่ถ่ายไว้ได้ ฉันก็ซ่อนโทรศัพท์แล้วย่องออกจากห้องอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงใดๆ

พอกลับออกมาที่โถงทางเดิน ฉันก็ทรุดตัวลง ร่างกายสั่นสะท้านขณะที่สะอื้นไห้อย่างเงียบงัน ความเจ็บปวด การหักหลัง... มันมากเกินไปแล้ว

ฉันกับนาตาลีมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกันมาตลอด เธออิจฉาทุกอย่างที่ฉันมี และพยายามจะแย่งมันไปเป็นของตัวเองเสมอ ส่วนพ่อน่ะเหรอ เขาก็เข้าข้างเธอตลอด ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ตาม

แต่ตอนนี้... ตอนนี้ฉันมีบางอย่างแล้ว บางอย่างที่จะเปลี่ยนกระดานเกมนี้ได้ในที่สุด ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ บังคับตัวเองให้ลุกขึ้นยืนและรวบรวมสติ

ฉันรีบกลับไปที่ห้อง หน้าอกบีบรัดแน่นจากภาพที่เพิ่งได้เห็น ฉันหอบหายใจถี่กระชั้นขณะพยายามตั้งสติ ข่มความรู้สึกที่ปั่นป่วนอยู่ภายใน

ซิดนีย์ยังอยู่ที่นั่น เธอรีบปรี่เข้ามาหาฉันด้วยความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด

“เฮ้ เป็นอะไรไป”

ฉันตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรออกไปดีไหม ความคิดที่ว่าเธอจะรู้เรื่องกัดกินใจฉัน แต่ความกลัวว่าจะได้ยินคำพูดที่เดาได้ไม่ยากอย่าง “ฉันบอกแล้วใช่ไหม” ทำให้ฉันต้องข่มใจเงียบไว้ “มะ-ไม่มีอะไร ฉันไม่เป็นไร” ฉันพยายามกระซิบตอบ แต่เสียงที่สั่นเทากลับทรยศฉัน

ดวงตาของซิดนีย์หรี่ลงเล็กน้อยด้วยความกังวล “แน่ใจนะ เธอดูไม่โอเคเลย”

เธอขยับตัว เปิดที่ว่างข้าง ๆ ฉันเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียง รู้สึกเหมือนน้ำหนักของทุกสิ่งทุกอย่างกดทับลงมาหนักขึ้น

“มันเจ็บนะที่เธอไม่อยากบอกฉัน แต่ฉันจะไม่คาดคั้น” เธอพูดเบา ๆ “เมื่อไหร่ที่เธอพร้อม ฉันอยู่ตรงนี้นะ”

คำพูดของเธอทลายทำนบอารมณ์ที่เปราะบางของฉันจนพังทลายลง น้ำตาทะลักออกมา และระหว่างเสียงสะอื้นไห้แผ่วเบา ฉันก็พูดออกมาได้ว่า “ขอบคุณนะ ซิด”

“ชู่ว ไม่เป็นไรนะ นาดีน” เธอกระซิบพร้อมกับดึงฉันเข้าไปกอดปลอบโยน

ฉันนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทันทีที่ฉันกำลังจะข่มตาหลับ หน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างวาบขึ้นพร้อมกับข้อความใหม่

“ขอบคุณที่รักผมในทุกความไม่สมบูรณ์แบบของผมนะ อดใจรอที่จะพูดคำว่า ‘รับครับ’ ไม่ไหวแล้ว”

ฉันจ้องหน้าจอโทรศัพท์ น้ำตาหยดใหม่ไหลรินลงมาบนใบหน้า ภาพของเจคบนเตียงกับน้องสาวของฉันแวบเข้ามาในหัว

ความจริงกระแทกเข้าหน้าฉันอย่างจัง—ฉันถูกแทนที่แล้ว ฉันไม่สามารถแต่งงานครั้งนี้ได้ ไม่ใช่กับเจค


วันต่อมา ทุกอย่างสำหรับงานแต่งงานถูกจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว ฉันสวมชุดแต่งงานสีขาวสวยสง่าราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย แต่ขณะที่จ้องมองตัวเองในกระจก หัวใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง

“เธอโอเคไหม” ซิดนีย์ถาม ภาพสะท้อนของเธอในกระจกฉายแววเป็นห่วง

ฉันสูดหายใจลึก ๆ เค้นยิ้มออกมาแล้วพยักหน้า “อืม ฉันสบายดี”

“ได้เวลาเตรียมตัวแล้ว วันสำคัญของฉันทั้งที” ฉันพูด พยายามทำเสียงให้ตื่นเต้น แต่ซิดนีย์ไม่หลงกล เธอเหลือบตามองบนแล้วพูดว่า “ไปบอกลมเถอะย่ะ”

ใบหน้าของฉันถูกแต่งแต้มอย่างงดงามไร้ที่ติ เผยให้เห็นความเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ และผมของฉันก็ถูกประดับด้วยไข่มุกอย่างประณีต

แล้วพ่อก็เดินเข้ามา ในดวงตาของท่านเปล่งประกายความภาคภูมิใจ การแต่งงานกับเจคคงเป็นเหมือนความสำเร็จครั้งใหญ่สำหรับพ่อ “พร้อมสำหรับวันสำคัญของลูกแล้วหรือยัง” ท่านถาม

ฉันยิ้มและพยักหน้า จากนั้นพ่อก็ควงแขนฉันอย่างภาคภูมิใจและเดินนำไปตามทางเดินสู่แท่นพิธี

นักจัดงานได้เนรมิตสถานที่จัดงานให้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล ประดับประดาด้วยของตกแต่งในธีมกะลาสีและเปลือกหอยที่จัดเรียงอย่างมีเสน่ห์ในสไตล์ชาวเรือ

บรรยากาศอบอวลไปด้วยความตื่นเต้นขณะที่ท่วงทำนองอันนุ่มนวลของเพลง "นี่มาแล้วเจ้าสาว" บรรเลงขึ้น ฉันฝืนยิ้มทั้งที่หัวใจยังคงเจ็บแปลบ

ที่แท่นพิธี เจคยืนรออยู่ เขาดูหล่อเหลาเหมือนเช่นเคย แต่ประกายไฟที่ฉันเคยรู้สึกกับเขาได้มอดดับไปแล้ว ถูกแทนที่ด้วยภาพของเขากับน้องสาวที่คอยตามหลอกหลอน

ฉันได้ยินเสียงเขากระซิบจากระยะไกล “ผมรักคุณ” ถ้าเพียงแต่เขารู้ว่าฉันรับรู้ถึงการทรยศของเขาอย่างเต็มอก ฉันฝืนยิ้มเล็กน้อยอย่างสุภาพเพื่อปิดบังพายุอารมณ์ที่กำลังก่อตัวอยู่ภายใน

แต่ฉันมีแผนอยู่แล้ว—แผนการที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้ แค่คิดถึงมันรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ตัดผ่านความเจ็บปวดเข้ามา

ขณะที่เดินไปยังแท่นพิธี ฉันนึกภาพสีหน้าตกตะลึงของเจคออกเลยเมื่อแผนเซอร์ไพรส์ของฉันถูกเปิดเผย

ก่อนที่เราจะแลกเปลี่ยนคำสาบาน จะมีการฉายวิดีโอเรื่องราวความรักของเรา แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอกลับสร้างความตื่นตะลึงไปทั่วทั้งงาน ทิ้งให้แขกเหรื่อตกอยู่ในความงุนงงและไม่อยากจะเชื่อสายตา

บทถัดไป