บทที่ 2 บทที่ 1 ตุ๊กตาเสียกบาล

บทที่ 1 ตุ๊กตาเสียกบาล

ขุนเขายอมขับรถมาส่งธันวาที่คอนโดส่วนตัวทั้งที่มันอยู่คนละทางกับที่เขาจะไปด้วยซ้ำแล้วจะไม่ถามเพื่อนเลยว่าทำไมถึงหนีมาแบบนี้

"เด็กเชี่ยนั่นเหรอที่มึงว่าอะ" ทันทีที่ธันวาก้าวลงจากรถขุนเขาก็เอ่ยถามอย่างยิ้ม ๆ แต่กลับถูกเพื่อนรักแยกเขี้ยวใส่

"เออ! เจอกันที่ผับเดิม กูอยากดื่ม"

"อืม ๆ ขออนุญาตเมียก่อนแล้วเดี๋ยวชวนไอ้ปินด้วย" ว่าจบขุนเขาก็ขับรถออกไปโดยเร็ว ทั้งสองแยกย้ายกันไป และไปเจอกันที่ผับที่ประจำ

ธันวาขมวดคิ้วแน่นเหมือนมีเรื่องบางเรื่องมันติดอยู่ที่ปลายตาเขา

19:00 น.

"ทำหน้าอะไรของมึงอีกเนี่ย" ปรินเอ่ยถามเพื่อนเสียงเข้มพลางกระดกเหล้าเข้าปากอึกใหญ่

"กูรู้สึกคุ้นหน้าคนบางคน เหมือนเคยเจอกันที่นี่"

"เด็กมึงเหรอ หรือใคร"

"กูไม่ได้เด็กเยอะเหมือนมึง"

"เออดีแล้ว อย่าเหมือนกูเลยครับ… นี่กูอยู่ได้ไม่นานนะต้องกลับไปหาปลายฟ้า แล้วนี่ไอ้ขุนทำไมช้าแบบนี้วะ" ธันวาส่ายหน้าอย่างยิ้ม ๆ ก่อนจะเอ่ยออกไป

"มึงก็ให้พี่ปลาช่วยเลี้ยงดิ" ธันวาว่าออกไปอย่างยิ้ม ๆ

"เลี้ยงเชี่ยไร ขนาดตัวมันยังจะเอาไม่รอดเลย นี่ขืนให้มันมาเลี้ยงลูกกูนะมีหวังปลายฟ้าต้องเพี้ยนเหมือนมันแน่นอน" ปรินว่าพลางทำท่าขนลุก นี่เขามองอนาคตลูกไม่ออกเลยว่าถ้าหากให้ไอ้พี่ปลาเลี้ยงปลายฟ้า ทุกวันนี้มันก็แทบจะกลายเป็นพ่อคนที่สองของปลายฟ้าไปแล้ว ก็แหงเพราะปลายฟ้าเป็นหลานสาวคนเดียวของตระกูลหนิ ทุกคนต้องเห่อเป็นธรรมดา

ครืด~ ครืด~

โทรศัพท์ธันวาดังขึ้นในตอนที่เขาจะก้าวเดินไปข้างหน้า เขาหยุดชะงักพร้อมล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เมื่อรู้ว่าเป็นเบอร์ใครเขาก็เมินเฉยแล้วเดินต่อ

20:00 น.

ควันบุหรี่พวยพุ่งออกจากปากธันวาลอยสู่อากาศ เขายกยิ้มมุมปากเมื่อได้ปลดปล่อยหลังจากเครียดมานานหลายชั่วโมง เสียงเพลงที่ทางดีเจเป็นคนจัดคลอกับเสียงหัวใจเขาที่มันกระหน่ำเต้นอย่างฮึกเหิมตามจังหวะเพลงมัน ๆ

"เฮ้อ… ค่อยรู้สึกดีหน่อย"

"เออว่ะ ค่อยโอเคหน่อย" ขุนเขายกแก้วเหล้าขึ้นมาจ่อริมฝีปากพลางเลื่อนใบหน้าเข้าไปคลอเคลียซอกคอระหงของแฟนสาวด้วย

"อิจฉาคนมีเมียมาคุมวะ" ธันวายกยิ้มพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนที่เสียงหวานของเพียงเธอจะเอ่ยถามเขา

"พี่ธันมาเที่ยวที่นี่บ่อย ๆ พอ ๆ กับพี่ขุนใช่ไหมคะ"

"ครับ ที่นี่เป็นที่ประจำของพวกพี่ ก็ที่ที่พาไอ้ขุนมาเจอกับรักแท้นั่นแหละ" เพียงเธอหันไปมองหน้าแฟนหนุ่มแล้วอมยิ้ม

"ต้องขอบคุณพวกพี่นะคะที่พาเขามาหาเพียง…"

"ครับผม…" ธันวายกยิ้มแล้วมองเหล่านักท่องราตรีที่กำลังโยกย้ายร่างกายกับจังหวะดนตรีจนสะดุดตากับร่างเล็กที่เพิ่งกระโดดขึ้นบนเวทีแล้วคว้าไมค์ไปจ่อปาก เธอดึงดูดเขากระทั่งธันวาลุกขึ้นไปดู มือหนาจับราวบันไดแน่น มุมปากหนาประดับด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นเช่นเดียวกับสายตาเขาที่กำลังจดจ้องเธออยู่ แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวเขา

'น้องนับดาวเป็นเด็กเรียบร้อยน่ารัก'

คำพูดของแม่และภาพเด็กผู้หญิงผมยาวดำขลับพูดจาน่ารำคาญและแต่งตัวเรียบร้อยเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ฉายเข้ามาในหัวเขาซ้ำ ๆ จนธันวาเผลอขบกรามแน่น

"ตุ๊กตาเสียกบาล…" มือหนากำเข้าหากันจนเส้นเลือดปูดนูน

"ใครโสดขอเสียงหน่อยค่า!!!" นับดาวตะโกนใส่ไมค์พลางโยกย้ายร่างกายไปตามเสียงเพลง เสียงของเธอและท่าทางยั่วยวนเรียกเสียงโห่แซวจากบรรดาชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี ด้วยวันนี้เธอสวมใส่ชุดเดรสเกาะอกสีแดงปล่อยผมยาวสยายพลิ้วไหวไปตามจังหวะการโยกย้ายร่างกาย ใบหน้ารูปไข่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางขับให้เธอดูโตกว่าวัยมาก

"ดูอะไรวะ" ขุนเขาถามเพื่อนเสียงเรียบพลางมองลงไปด้านล่างตรงเวที "คุ้น ๆ ว่ะ" ก่อนที่เขาจะยกยิ้มมุมปาก

"อืม…" ธันวาหมุนตัวกลับมาแล้วกอดอกพิงราวระเบียงเป็นจังหวะที่คนด้านล่างเงยหน้าขึ้นมามองชั้นบนพอดี "เรากลับกันเลยดีไหม กูเบื่อ ๆ แล้ว"

"แน่ใจนะว่าจะกลับตอนนี้?" ขุนเขาเลิกคิ้วถาม

"อืม ตอนนี้แหละ… กูเพิ่งรู้ว่ามีงานที่ทำค้างไว้ เอาไว้กูจะไปหาที่ร้านสักแล้วกันนะ"

"เออดี" ว่าจบทุกคนก็ลุกขึ้นพร้อมกัน ธันวาเดินนำเพื่อนลงไปชั้นล่าง เขาเหลือบตามองนับดาวที่กำลังสนุกอยู่กับการเต้น

'ฮึ! คิดจะมาตบตาคนอย่างฉันงั้นเหรอ มันไม่ง่ายขนาดนั้นนะน้องตุ๊กตาเสียกบาล'

เขาขบกรามแน่นอย่างหงุดหงิด นี่ยัยเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกำลังเล่นละครตบตาพ่อแม่เขาแถมยังตบตาพ่อแม่เธองั้นเหรอ ฮึ! น่าขำเสียจริง

ชายหนุ่มแยกตัวออกมานั่งในรถพร้อมกับกดโทรศัพท์มือถือโทรหาคนคนหนึ่ง

(ครับคุณธัน)

"มีคนหนึ่งให้นายช่วยติดตามหน่อย"

(ได้ครับ)

"พรุ่งนี้เข้ามาเอาข้อมูลกับฉันที่บริษัทแล้วกัน อยากคุยอะไรด้วยอีกนิดหน่อย"

(ได้ครับ)

"ไว้เจอกัน"

(ครับนาย)

"ฮึ… คิดจะมาหลอกกันมันไม่ง่ายขนาดนั้น"

บทก่อนหน้า
บทถัดไป