บทที่ 11 EP 03 เยี่ยมไข้ [3]
“สั่งกระเช้าผลไม้เรียบร้อยแล้วรึยัง”
“เรียบร้อยครับ เดี๋ยวแวะรับที่ร้านได้เลย ว่าแต่ลูกความท่านไหนไม่สบายเหรอครับ ผมทำงานพลาดรึเปล่า” ลามินรีบถามและผมรู้ว่าเขาไม่ได้แกล้งถามเพื่อสอดรู้ แต่อย่างที่ลามินบอก โดยปกติถ้าผมจะไปเยี่ยมใครหรือมีนัดกับใคร คนที่รู้ก่อนจะเป็นเขาและเขานั่นแหละที่มีหน้าที่บอกผม ซึ่งคงยกเว้นกรณีนี้
“อาจารย์ที่ปรึกษาของเลโก้นั่นน่ะ”
“คราวนี้อาจารย์ที่ปรึกษาเลยเหรอครับ”
“อืม”
“ผมว่าคุณเลโก้คงมีเหตุผล”
“จะเหตุผลอะไรก็ไม่ควร เพราะนายถือหางเจ้านั่นแบบนี้ไงมันถึงไม่กลัวฉัน ก่อเรื่องได้ไม่เว้นแต่ล่ะวัน” ผมรีบว่า
“ขอโทษครับ แต่ผมว่าแค่นี้คุณเลโก้ก็กลัวคุณอาทิตย์มากแล้วนะครับ”
“นายลองมาเป็นฉันดูสักวันสิ แล้วจะรู้ว่าเวลาที่ต้องไปแก้ตัวแทนเจ้านั่นที่โรงเรียนเอย มหา’ ลัยเอย เดินเข้าโรงพยาบาลบ้างขึ้นโรงพักบ้างมันรู้สึกยังไง” ผมร่ายยาว ซึ่งนานๆ ครั้งผมถึงจะบ่น และคนที่ได้ฟังก็มักเป็นผู้โชคดีอย่างลามินนั่นแหละ
“ยิ้มอะไรลามิน”
“ผมก็แค่กำลังคิดว่าคุณเลโก้เองน่าสงสารน่ะครับ นี่ก็ดูโตขึ้นบ้างแล้ว ที่สำคัญคุณเลโก้เองก็คงไม่อยากทำให้คุณอาทิตย์เดือดร้อนหรอกครับ แต่เพราะคุณเลโก้เองก็ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากคุณอาทิตย์” ลามินพูดพลางมองผมผ่านกระจกมองหลังยิ้มๆ ผมเองก็ได้แต่จนปัญญาจะเถียงก็เลยต้องหันหน้าออกมาอีกทาง
“ฉันว่านายเริ่มทำตัวเหมือนพ่อฉันเข้าไปทุกวันแล้วนะลามิน” ผมว่าเสียงเข้ม
ลามินยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนจะจอดรถที่หน้าร้านขายดอกไม้ร้านประจำที่ลามินมักสั่งดอกไม้หรือพวกกระเช้าผลไม้ กระเช้าของฝากจากร้านนี้ให้ผมใช้เยี่ยมลูกความเสมอ
ผมนั่งรอลามินเดินเข้าไปเอาของไม่นาน เขาก็กลับมาพร้อมกับกระเช้าผลไม้ตะกร้าใหญ่ ที่มองและคิดๆ ดูแล้วผมก็แอบเสียดายเงินอยู่เหมือนกัน แต่เอาเถอะ จะคิดเสียว่าทำบุญ
“จริงสิลามิน ฉันฝากนายดูๆ บริษัทที่น่าไว้ใจได้ให้เลโก้เผื่อไว้สักสองสามที่สิ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าเทอมหน้าไอ้เด็กนั่นต้องฝึกงานแล้ว” ผมไหว้วานลามินอีกเรื่องจนได้ เคยแอบสงสัยเหมือนกันนะว่าถ้าลามินทนผมไม่ไหวแล้วลาออก ผมจะทำอย่างไร คงไม่รู้ว่าจะไปหาใครมาแทนที่เขาได้อีกแล้ว
“ได้ครับ แล้วจะให้ผมเอารายชื่อมาให้คุณอาทิตย์ก่อน หรือให้คุณเลโก้เลือกเลยครับ”
“แค่ให้นายดูเผื่อไว้ก่อนน่ะ แต่คิดว่ายังไงทางมหา’ ลัยก็คงมีตัวเลือกให้เด็กก่อนอยู่แล้ว”
“ได้ครับ” ลามินรับคำสั้นๆ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาส่งผมที่หน้าโรงพยาบาล
ผมก้าวลงจากรถแล้วตรงไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์พร้อมกับกระเช้าผลไม้ในมือ ส่วนลามินคงขับรถเพื่อวนไปหาที่จอดรถ แล้วรอผมอยู่ที่รถหรือไม่ก็หากาแฟดื่มอยู่แถวนี้นั่นแหละ โดยปกติแล้วถ้าเป็นลูกค้าหรือลูกความคนสำคัญ ลามินจะมากับผมแต่ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัว
ผมเดินไปสอบถามห้องพักของอาจารย์คนนั้นโดยแจ้งชื่อและนามสกุลของเขาที่ผมทราบจากประวัติกับพยาบาลหน้าสวยที่ยืนต้อนรับอยู่ที่เคาน์เตอร์ สายตาที่มองมาที่ผมสื่อความหมายบางอย่างที่ผมเห็นจนชินตา แต่หลังจากที่เธอแจ้งหมายเลขห้องพักของคนที่ผมต้องการมาแล้ว ผมก็แค่ยิ้มขอบคุณเธอ แล้วเดินตรงต่อไปยังห้องพักทันที
Rrrr~~~
“มีอะไรเลโก้” ผมกดรับสายตามปกติ สองเท้ายังคงเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น สาเหตุที่ผมตัดสินใจไม่รอลิฟต์ก็เพราะผมไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตาที่สาวๆ มักมองผมเหมือนเห็นเหยื่อ นี่ถ้าลามินเดินมากับผมก็คงไม่แคล้วยิ้มเยาะผมตลอดทาง เขามักพูดเสมอว่าบางที่ความหน้าตาดีก็เป็นเวรกรรม
[ผมจะโทรมาบอกพี่ว่าวันนี้พี่ไม่ต้องมาก็ได้นะครับ อาจารย์แดนสรวงไม่ได้มาสอน] เลโก้รายงานมาตามสาย
“ฉันกำลังมาเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล”
[อ้าว แล้วพี่รู้ได้ไงว่าเขาอยู่โรงพยาบาล]
“เอาเป็นว่าฉันจัดการเองก็แล้วกัน นายมีหน้าที่เรียนก็เรียนไปเถอะ”
[ครับ อ้อ ผมยังอีกเรื่องนึงจะบอก]
“ว่ามาสิ”
[วันนี้อาจารย์แจ้งว่าเทอมหน้าผมต้องฝึกงาน]
ไอ้เด็กนี่มันช้ากว่าผมตลอดนั่นแหละ
“แล้วไง”
[พี่ว่าผมควรจะ...]
“อยากฝึกที่ไหนก็ตามใจเถอะ ไม่ก็เอารายชื่อบริษัทที่มหา’ ลัยรับรองมาปรึกษาลามินดู” ผมตัดบทสั้นๆ
[ครับ...ไอ้เลโก้ มึงแอบคุยกับใคร น้องลีย่าใช่มั้ย ไหนมึงบอกจะยกให้กู! ...ลีย่าพ่อง!]
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้นะ ตั้งใจเรียนล่ะ”
[ครับๆ แต่พี่...]
แล้วผมก็ตัดสินใจตัดสายทิ้งทั้งที่รู้ว่าปลายสายยังพูดไม่จบนั่นแหละ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เพราะผมมีเรื่องที่สำคัญกว่าให้ต้องจัดการ
