บทที่ 2 บทที่ 2

บทที่ 2

เสียงเรียกที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้นิ้วเรียวยาวที่กำลังจะเปิดประตูรถจากกุญแจรีโมตชะงักและหันไปทางต้นเสียง

“สวัสดีค่ะพี่เพชร จำผิงได้มั้ยคะ ผิงเพื่อนแพรไงคะ” พลอยพิมลยกมือขึ้นไหว้พี่ชายของเพื่อนและแนะนำชื่อเล่นตัวเอง ไม่ได้เจอกันหลายปี เผื่อว่าเขาจะจำเธอไม่ได้

“จำได้สิ ว่าแต่เรามาทำอะไรที่นี่” เขาจำได้แม่นว่าอีกฝ่ายคือเพื่อนสนิทของน้องสาว ซึ่งตอนที่เรียนอยู่มักแวะมาบ้านเขาพร้อมกับแพรมุก เด็กๆ กลุ่มนี้ยังดูกะโปโลและแสบซนมาก แต่ตอนนี้เหมือนจะสวยสง่าและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นตามวัย

“ผิงมาสอบสัมภาษณ์เรียนปริญญาโทค่ะ ผิงเลือกเรียนต่อที่นี่เพราะรู้ว่าพี่เพชรเป็นอาจารย์อยู่ที่นี่ ถึงจะคนละคณะก็เถอะ แต่มันก็อยู่ติดกัน ใช้ลานจอดรถร่วมกัน เผื่อวันไหนผิงอยากจีบพี่เพชร ผิงก็มาดักเจอแบบนี้ไง” พลอยพิมลร่ายคำพูดอย่างคล่องแคล่ว ไม่นึกเขินกระดากแต่อย่างใด กฤชเพชรจึงรู้ว่าตัวเองคิดผิดถนัด แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเพื่อนน้องสาวจะเปลี่ยนไป แต่นิสัยเดิมๆ ก็ยังไม่ถูกทิ้ง

“นี่เรากำลังล้อพี่เล่นใช่มั้ย”

เรียวปากหยักคลี่ยิ้มออกมาให้เห็นเป็นครั้งแรก ทำเอาคนมองมองตาปรอยไปเลยทีเดียว นี่ล่ะเสน่ห์อันล้นเหลือของกฤชเพชรพี่ชายของยัยแพรที่เธอแอบกรี๊ดมาหลายปี หล่อ เคร่งขรึม เย็นชา มีอารมณ์ที่ลึกซึ้งลุ่มลึกชวนให้ค้นหา แค่เขายืนและยิ้มบางๆ เช่นนี้ก็ทำเอาคนมองแทบจะละลาย

“ล้อเล่นก็ได้ค่ะ แต่พี่เพชรอย่าเผลอนะคะ เพราะผิงพร้อมจะเอาจริง” พลอยพิมลพูดติดตลก และฉีกยิ้มหวานให้พี่ชายเพื่อนอย่างเป็นธรรมชาติ แม้การได้ยืนใกล้ๆ เขาเช่นนี้จะทำให้เธอหวั่นไหวไม่น้อยก็ตาม

“เรานี่สมกับที่เป็นเพื่อนยัยแพรจริงๆ”

“แน่สิคะ กลุ่มผิงนี่แสบที่สุดในรุ่นแล้ว พูดถึงยัยแพร เมื่อไหร่ยัยแพรจะกลับมาเยี่ยมบ้านคะพี่เพชร ได้ข่าวว่าตอนนี้มีน้องแล้ว” น้ำเสียงของพลอยพิมลฟังดูเป็นงานเป็นการขึ้นเมื่อถามถึงแพรมุก คิดแล้วก็เหมือนพรหมลิขิต ไม่น่าเชื่อว่าแผนการ ‘หลอกให้ออกเดต’ เพื่อทดสอบเสน่ห์ จะทำให้แพรมุกและชีคชาฟากีย์มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อที่มาเที่ยวเมืองไทยในคราบนักท่องเที่ยวธรรมดาได้แต่งงานกันในที่สุด แม้ก่อนแต่งแพรมุกจะถูกจับตัวไปและต้องเผชิญกับความโกรธกรุ่นของชีคชาฟากีย์ไม่น้อยก็ตาม

“ใกล้จะคลอดแล้วล่ะ คงจะหลังคลอดถึงได้มา”

“แล้วนี่พี่เพชรจะไปไหนต่อคะ มีธุระที่ไหนหรือเปล่า”

“เปล่า...พี่กำลังจะกลับบ้าน”

“ถ้าอย่างนั้นไปกินขนมกับผิงก่อนนะคะ เดี๋ยวผิงเลี้ยงเอง จะได้ฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์พี่เพชรด้วย” พลอยพิมลเอ่ยชวนก่อนและมองอย่างอ้อนๆ เพราะกลัวเขาจะปฏิเสธ

“พี่ไม่ใช่อาจารย์คณะเรานะ”

“ก็เผื่อพี่เพชรรู้จักกับอาจารย์ของคณะผิง ผิงจะได้ใช้เส้นบ้างไงคะ ผิงยิ่งเรียนไม่ค่อยเก่งอยู่ด้วย เรียนปริญญาโทไม่ใช่ง่ายๆ นะคะ”

“มันง่ายกว่าเรียนปริญญาตรีซะอีกถ้าเราตั้งใจ เพราะเรียนไม่กี่วิชา”

“พี่เพชรเก่งมันก็ดูง่ายสิคะ ผิงสมองทื่อมันก็คงจะยากไปหมดนั่นล่ะ”

“เรานี่จริงๆ เลยนะ เอาเป็นว่าพี่จะไปด้วยก็แล้วกัน” กฤชเพชรยอมตกลงในที่สุด เขาเองคิดถึงน้องสาวอยู่ไม่น้อย การได้ใกล้ชิดกับเพื่อนน้องสาวน่าจะทำให้ความคิดถึงที่มีต่อแพรมุกคลายลงไปได้บ้าง

“งั้นไปรถผิงนะคะ ถ้ากินเสร็จแล้วผิงจะกลับมาส่งค่ะ”

“ตามใจ แต่เอากุญแจรถมา พี่จะขับเอง”

“ได้เลยค่ะ แบบนี้ใช่มั้ยคะที่เขาเรียกกันว่า ‘แฟนขับ’ ” พลอยพิมลยิ้มแป้น ก่อนจะส่งกุญแจรถให้เขา พร้อมกับเอ่ยสัพยอกอีกคำที่ทำให้กฤชเพชรถึงกับต้องส่ายหัวอย่างขำๆ ในความเซี้ยวของเพื่อนน้องสาว ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองได้อยู่กับแพรมุก เพราะนิสัยของพลอยพิมลก็ดูไม่ต่างกันเท่าไหร่

กฤชเพชรทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถไปตามทางที่พลอยพิมลบอก ตลอดทางหญิงสาวคุยจ้ออยู่ไม่ได้ขาด บางทีก็มีมุกตลกขบขันทำให้เขานึกเอ็นดูและคุยด้วยอย่างสนิทสนมอย่างรวดเร็ว

“เลี้ยวเข้าไปในโรงแรมเอ็นแอนด์ทีการ์เดนเลยนะคะพี่เพชร ข้างหน้านั่นล่ะค่ะ”

“ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ พี่นึกว่าจะไปร้านเล็กๆ ซะอีก” สถานที่ที่พลอยพิมลบอกนั้น เป็นสถานที่ที่เขาพยายามจะหลีกเลี่ยงไม่มาย่างกราย

“ผิงอยากจะมารำลึกความหลังสมัยฝึกงานน่ะค่ะ อีกอย่างที่นี่ก็เป็นสถานที่พบรักของยัยแพรกับชีคสุดหล่อน้องเขยพี่เพชรด้วย แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นขนมอร่อยมากค่ะ”

สารถีหนุ่มจำต้องหักพวงมาลัยเข้าไปตามคำบอกของพลอยพิมลอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แม้จะหวั่นอยู่ลึกๆ ว่าจะเจอกับใครบางคน แต่เขาก็ไม่ใช่คนขี้ขลาดที่ไม่กล้าเผชิญหน้า

ร่างอ้อนแอ้นในชุดเดรสคอวีสีเทาเข้ารูปกำลังเดินตรวจงานอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรม แม้ชุดที่ใส่จะเป็นสีโทนเรียบ แต่รูปร่างที่สมส่วนและท่าทีอันแสนสง่างามสมกับมีเลือดราชนิกุลอยู่ในตัวก็ทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร ทั้งแขกของโรงแรมและแม้กระทั่งพนักงานของโรงแรมเองก็ตาม

อนามิกาเข้ามารับงานบริหารของโรงแรมเต็มตัวตั้งแต่กลับจากอังกฤษได้ไม่กี่วัน สถานการณ์ของโรงแรมช่วงนี้ไม่สู้ดีนัก เพราะต้องแบกรับรายจ่ายที่มากกว่ารายรับมาหลายเดือน เศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวมีผลกระทบโดยตรงต่อโรงแรมและธุรกิจอย่างอื่นของครอบครัว ผู้คนที่เคยมาใช้บริการของโรงแรมอย่างคึกคักก็บางตาลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้อนามิกาหนักใจไม่น้อย และเป็นเหตุผลที่เธอต้องกลับมาประเทศไทย ทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบต่อหน้าที่อันหนักอึ้งนี้เท่าใดนัก

บทก่อนหน้า
บทถัดไป