บทที่ 11 ตอนที่ 11

หลังกลับจากทะเลอยู่ได้เพียงวันเดียวก็ต้องมีเหตุให้กลับ เอเรียรีบนั่งรถประจำทางไปที่บริษัทใหญ่อยู่กลางเมืองพอถึงจุดหมายรีบวิ่งเข้าลิฟต์กดชั้นแปดอย่างใจเย็นรอจนกว่าลิฟต์จะเปิดเมื่อลิฟต์เปิดเธอก้าวขาออกแต่ยังไม่ทันพ้นประตูลิฟต์ต้องยกขาหลบทันทีเมื่อแฟ้มถูกเหวี่ยงมาทางเธอ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองคนเหวี่ยงที่ยืนเท้าเอวระเบิดโทสะ

“ออกไป๊ ออกไปให้หมด!” เสียงตวาดลั่นห้องเล็ดลอดออกมาหลังประตูปิดให้หลังโดยเลขาสาวที่วิ่งออกมาเก็บแฟ้มที่เอเรียก้มลงหยิบยื่นให้มองไปทางประตูห้องประธานใหญ่

“แย่แล้วค่ะคุณเอ คุณเคทอาละวาดใหญ่เลยหลังรู้ว่าท่านประธานจะขายหุ้น ช่วยทำให้สงบทีค่ะ”

“ค่ะ จะพยายามค่ะ” เอเรียพยักหน้ารับเดินไปเปิดประตูที่ปิดอยู่เพื่อเข้าไปด้านใน

“บอกว่าให้ออกไปไง หูแตกเหรอ” เคทนั่งหันหลังอยู่ที่โต๊ะสบถลั่นห้องก่อนหมุนเก้าอี้กลับมาคว้าแจกันเตรียมเหวี่ยง

“ทำลายข้าวของไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก” เอเรียเดินเข้ามาหาเคทที่ค่อยๆวางแจกันลงลุกขึ้นกอดอกเดินไปนั่งที่โซฟาแทน

“แกคิดว่าไง แม่ฉันรักบริษัทนี่มาก ก่อนตายสั่งเสียให้ฉันช่วยดูแล แต่พ่อ พ่อฉันหลงเมียน้อยจะเอาหุ้นไปขายด้วยสาเหตุที่ว่าไม่มีใครดูแล เขาเองก็ไม่มีเวลามาช่วยมัวแต่ยุ่งกับกรมทหารไม่ถนัดเรื่องนี้ ถามหน่อยไอ้ที่ได้มาเป็นพันล้านไม่ใช่เพราะฉันเป็นคนทำเหรอ” เคทสบถหัวเสียยกมือกุมขมับ

“แกเป็นประธานบริษัทนะไม่ใช่พ่อแก พ่อแกจะมาขายหุ้นไม่ได้หากแกไม่เซ็นมอบอำนาจ แกก็ต้องทำให้พ่อแกเห็นว่าบริษัทนี้แกจัดการดูแลได้” เอเรียเดินมานั่งลงข้างๆ พร้อมจับไหล่เคทอย่างให้กำลังใจ

“ฉันเหนื่อยกับปัญหาครอบครัวพวกนี้จริงๆ เลย” เคทหันมากอดเอเรียแล้วผ่อนลมหายใจยาวอย่างหนักใจ

“เอาน่าพิสูจน์ตัวเอง ชีวิตก็แบบนี้แหละ”

“ขอบใจนะ”

“ไม่เป็นไรยินดี”

ติ้ง ติ้ง ติ้ง

เสียงไลน์ของเอเรียดังถี่จนต้องละออกจากเคทมาหยิบมือถือเปิดดูภึงกับอ้าปากค้างชะงักตกใจจนเคทชะเง้อมองดูตามแล้วขมวดคิ้วแปลกใจเช่นกัน

“โห เรร่าคลั่งแรงน่ะนะ”

“ต้องกลับไปเคลียร์หน่อยละ ไปก่อนนะ”

“โอเค กลับดีๆ ละ”

“อืม” เอเรียตบไหล่เคทเบาๆ ก่อนยกมือโบกลาเดินออกไป

ติ้ง

คนบ้า : วันนี้ฉันจะรับเธอดินเนอร์ บอกพิกัดด้วยว่าอยู่ที่ไหน

เอเรียกดลิฟต์ก้มอ่านไลน์ที่มีคนส่งมาต่อจากเรร่า เธอลดมือถือลงไว้ข้างตัวรอลิฟต์เลื่อนลง

ติ้ง

คนบ้า : อ่านแล้วไม่ตอบ สรุปไปนอนบ้านเธอแล้วกันนะ

“อีตาบ้านี่! ” เอเรียก้มอ่านไลน์อย่างหงุดหงิดใจจนต้องจำใจกดพิมพ์ตอบ

ยาหยี : ฉันกำลังจะกลับบ้าน

คนบ้า : พอดีเลยงานฉันเสร็จพอดี เธออยู่ไหน ส่งโลเคชั่นมาสิ

ยาหยี : ไม่

คนบ้า : เอางั้นก็ได้นะ คืนนี้จัดที่นอนรอได้เลย

ยาหยี : แป๊บหนึ่ง

คนบ้า : พูดง่ายแบบนี้สิน่ารัก :^

ออสตินฉีกยิ้มก้มมองมือถือที่มีคนส่งกลับมาอย่างรื่นเริงจนคนในสตูจับสังเกต

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะติน ติน” หญิงวัยกลางคนเจ้าของงานโฆษณาที่จ้างออสตินเดินเข้ามาแซว

“ความรักมันบังตานะครับพี่ ขอนิดหนึ่ง”

ติ้ง

เสียงไลน์ดังขึ้น ออสตินรีบก้มอ่านทันทีด้วยรอยยิ้มก่อนเงยหน้ายิ้มให้หญิงตรงหน้าช้าๆ

“น้องเอเหรอ พี่อยากให้เอมาเล่นคู่เราเหมือนกัน แต่โดนปฏิเสธ เขาต้องพูดกันยังไงถึงให้น้องเอติดกับ”

“ติดต่องานโดยไม่ต้องบอกว่ามีออสตินร่วมด้วยอะครับ” ช่างภาพเดินเสยผมเข้ามาสมทบด้วยรอยยิ้ม

“ทำไมละ จิ้นกันน่ารักออก”

“เอเรียเป็นคนแบบนี้แหละครับ ใจแข็ง” ออสตินตอบกลับ

“แต่น่ารักใช่ไหมล่ะ” ช่างภาพตบอกออสตินเบาๆ ในเชิงแหย่

“ครับ น่ารักมาก”

“ว้าย ใจสั่นไปหมดเลย จิ้นจริงไรจริง เขินแทน” หญิงวัยกลางคนยกมือจับแก้มที่แดงระเรื่อ

“เสร็จงานแล้วผมลากลับเลยนะ เธอรอผมอยู่”

“โอ๊ยยย ใจป้าจะไม่ไหวแล้วจ้ะ กลับดีๆ ละ” หญิงวัยกลางคนกุมหน้าอกฉีกยิ้มโบกมือลาส่งออสตินที่ฉีกยิ้มโบกมือลาก่อนแกว่งกุญแจรถผิวปากอารมณ์ดีเดินออกไป

ออสตินจอดรถ BMW เทียบท่าตรงป้ายรถประจำทางริมถนนรับเอเรียขึ้นรถที่มองฉงน เขาเอื้อมมือคาดเข็มขัดให้เธอด้วยความไวฉีกยิ้มชอบใจก่อนหันกลับไปขับรถของพี่ชายออกสู่ท้องถนนสาเหตุที่เขามาอยู่ตรงนี้เพราะหนีกลับมาจากทะเลตามหลังเอเรียมาเช่นกัน

“ไปไหนกันดี”

“กลับบ้าน”

“กลัวบ้านหายหรือไง”

“ฉันต้องไปคุยกับหลานฉัน พรุ่งนี้มีงานมีตแอนด์กรี๊ดของเอสจี ฉันต้องกลับไปเคลียร์ให้รู้เรื่อง จ่ายเงินเกินตัว”

“เด็กมันชอบของมัน เธอนี่ทำตัวเป็นยัยป้าทึนทึกไปได้” ออสตินเอียงหน้ามองเอเรียที่มองเขม็งใส่เขา

“แหงละ เอสจีวงพี่นายนี่ ก็เข้าข้างกันนะสิ”

“เปล่า ฉันพูดแบบกลางๆ เลยนะ การเลี้ยงเด็กหรือดูแลวัยรุ่นหัวเลี้ยวหัวต่อ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เขาทำอะไรที่ตั้งใจจริงก็ควรสนับสนุน หรือคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่บังคับจี้จนน่าอึดอัด มันจะทำให้เขาเก็บกด เข้าใจไหม”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป