บทที่ 17 ตอนที่ 17
“กว่าจะโต กว่าจะได้รักเธอ รู้ไหมมันนานแค่ไหน เป็นคนคุมสวรรค์ยังไงไม่มีจิตใจ แล้วเหมือนรูปปั้นเนี้ย สวรรค์เขาเล่นอะไรแบบนี้ด้วยหรอ ตลกสิ้นดี” ออสตินเริ่มจะอาละวาดก้าวเข้าไปปัดรูปปั้นชายหญิงจนตกลงใส่สาส์นอย่างตั้งใจยียวนก่อนหยุดนิ่งเมื่อเห็นรูปปั้นถูกกลืนหายเข้าไปในสาส์น ด้วยความสงสัยเขาจึงยื่นมือจุ่มลงในสาส์นก่อนคว้าแขนเอเรียจับไว้ถูกกลืนไปทั้งแขนไปจนถึงใบหน้าอย่างดึงออกไม่ได้ เง็กเซียนฮ่องเต้เบิกตาตกใจร่ายพลังรั้งตัวเอเรียไว้แต่ไม่ทันถูกสาส์นดูดกลืนหายไปทั้งคู่
“แย่ละสิ” เง็กเซียนฮ่องเต้ขยับเข้ามาลูบสาส์นที่แปรเปลี่ยนตัวอักษรเองโดยไม่สามารถควบคุมได้ ก่อนกลับเป็นปกติเมื่อเรื่องราวถูกเรียบเรียงใหม่ทำให้เง็กเซียนฮ่องเต้ถึงกับอ้าปากค้างมองตัวอักษรปรากฏขึ้นเองทีละบท มือขวาแบออกเรียกพู่กันออกมาพร้อมหมึกดำยกมือเขียนสาส์นเพื่อแก้ไขบทความแต่หมึกกลับซึมจางหายมีเพียงตัวอักษรที่ปรากฏขึ้นเองทีละตัว
“ข้าต้องลงไปชดใช้สิ่งที่ผิดพลาดอีกแล้วหรือนี่ ฮ่องเต้ซีหยวนงั้นรึ เหตุใดชะตาชีวิตถึงลิขิตเอง” เง็กเซียนฮ่องเต้ก้มลงอ่านบทความในสาส์นก่อนเอามือลูบคางอย่างแปลกใจนั่งอ่านความเป็นมาชะตาที่แปรเปลี่ยนแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากตำหนักสวรรค์ด้วยความเร่งรีบ
เง็กเซียนฮ่องเต้เดินผ่านม่านสวรรค์เข้ามาในอุทยานท้อสวรรค์ที่มีเจ้าแม่ซีหวังหมู่นั่งปั้นรูปปั้นอยู่หน้าต้นท้อเหลือบมองผู้ปกครองที่ใหญ่ที่สุดก่อนยืนขึ้นย่อตัวคำนับช้าๆ
“ดูสิ่งนี้” เง็กเซียนฮ่องเต้วาดมือลงบนพื้นปรากฏภาพดวงจิตสองดวงแทรกซึมเข้ารูปปั้นที่ขยายใหญ่กลายเป็นชายหญิงดิ่งลงจากฟากฟ้า เจ้าแม่ซีหวังหมู่ยิ้มกริ่มวาดมือปิดภาพเบื้องล่าง
“ท่านทำผิดพลาดอีกแล้วใช่หรือไม่”
“ผิดสองต่อเสียด้วยซ้ำ”
“หุ่นเลือกจิตวิญญาณ ทั้งสองมีชะตาที่ต้องกันเนื่องด้วยหัวใจที่ไม่อาจพรากจาก สิ่งนั้นคือความผิดพลาดของท่าน ท่านจึงไม่มีสิทธิ์กำหนดชะตาของทั้งสอง เพราะตัวท่านจะต้องโทษเช่นกัน ปล่อยไปเถิด ให้ทั้งสองกำหนดชีวิตที่ควรจะมีของตนเอง ส่วนตัวท่านเชิญลงไปชดใช้สิ่งที่ท่านทำเสีย” เจ้าแม่ซีหวังหมู่หมุนตัวกลับไปนั่งปั้นหุ่นต่อด้วยรอยยิ้มมองนางฟ้าประทานพรลอยตัวโปรยดอกไม้วนรอบสวรรค์ระยิบระยับสวยงาม เง็กเซียนฮ่องเต้เอามือไพล่หลังถอนหายใจยาวส่ายหน้าไปมาให้กับตนเอง
“คำนับเง็กเซียนฮ่องเต้” นางฟ้าสวรรค์ผู้ที่ถูกสั่งให้นำดวงจิตไปให้เดินถือลูกท้อใส่ตะกร้ายืนอยู่ข้างเจ้าแม่ซีหวังหมู่ย่อตัวคำนับทันทีอย่างสุภาพ
“ดวงจิตที่เจ้านำมานั้น เดิมทีอยู่ที่เตาหลอมหรือไม่”
“ข้านำมาจากเตาหลอมไม่ผิดแน่นอน มีเพียงสองดวงเท่านั้น”
“แล้วเหตุใดเล่าถึงไม่ใช่มารปีศาจสวรรค์ เป็นสิ่งใดแน่” เง็กเซียนฮ่องเต้ขมวดคิ้วครุ่นคิดยกมือจับคาง
“ท่านควรลงไปชดใช้ อย่ามัวแต่กลัดกลุ้มกับสิ่งที่ผิดพลาดอยู่เลย สิ่งนั้นไม่ได้นำพาท่านหลุดจากบ่วงได้” เจ้าแม่ซีหวังหมู่หมุนรูปปั้นดูรอบๆ ก่อนโยนไปทางเง็กเซียนฮ่องเต้ที่เหลือบมองหุ่นปั้นกลายร่างเป็นเด็กหน้าตาจิ้มลิ้มไร้การกำหนดเพศยกมือคำนับเง็กเซียนฮ่องเต้
“หากไร้ดวงจิตเชื่อมโยงจะเป็นดั่งที่ท่านเห็น อย่าได้กังวลไปเลยท่านเง็กเซียน” เจ้าแม่ซีหวังหมู่ตวัดมือแบออกรับตัวเด็กหน้าตาจิ้มลิ้มลอยถอยกลับมานั่งอยู่บนฝ่ามือ
“รอการจุติ” เจ้าแม่ซีหวังหมู่ค่อยๆ กำมือลงช้าๆ ก่อนแบมือออกกลายเป็นไข่มุกสวรรค์ นำมาประดับที่ศีรษะช้าๆ ด้วยรอยยิ้ม เง็กเซียนฮ่องเต้ได้แต่ผ่อนลมหายใจซ้ำวนไปวนมาดีดลอยตัวกลับไปตำหนักสวรรค์ เดินเข้ามาก้มอ่านสาส์นที่วางอยู่ก่อนร่ายพลังด้วยสองนิ้วชี้กับนิ้วกลางคู่กัน สาส์นลอยขึ้นเหนือหัวม้วนเก็บเข้าแผ่นฟ้าที่เปิดกว้างเป็นเกลียวคลื่นดูดสาส์นร่างชะตาชีวิตเข้าไป เง็กเซียนฮ่องเต้ตวัดข้อมือใช้พลังราวกับเส้นด้ายดึงสาส์นอีกหนึ่งสาส์นลอยลงมาอยู่ในมือที่แบรอรับ
“ในเมื่อข้าทำอันใดชะตาเจ้าไม่ได้ แต่ข้าสร้างบทพิสูจน์เจ้าทั้งสองได้” เง็กเซียนฮ่องเต้ยิ้มกริ่มเดินไปนั่งที่โต๊ะวางสาส์นลงแบมือเรียกพู่กันออกมาจุ่มหมึกเขียนตัวอักษรเปลี่ยนชะตาชีวิตเจ้าของสาส์น
“ท่านเง็กเซียน” เสียงทะมึนเอ่ยทักขึ้นก่อนปรากฏหมอกควันสีดำลอยอยู่เบื้องบนเพดาน เง็กเซียนฮ่องเต้เงยหน้าถือพู่กันค้างไว้มองดวงตาสีแดงก่ำในหมอกควัน
“ข้าจับปีศาจสวรรค์มาคืนท่าน” เสียงหมอกควันกล่าวพร้อมดวงจิตสองดวงที่มีหางแมวสองหางกระดิกไปมาลอยมาอยู่บนมือของเง็กเซียนฮ่องเต้
“แผนเจ้าช่างแยบยลนัก ข้าจะลงทัณฑ์เจ้าให้สาสมกับที่เจ้าพรากชีวิตมนุษย์สองตน” เง็กเซียนฮ่องเต้ลุกขึ้นก่อนเดินออกมาดีดตัวลอยไปที่บ่อจุติไอขาวคละคลุ้งกระจายยื่นมือที่มีดวงจิตสองดวงของปีศาจแมวหย่อนลงสู่บ่อช้าๆ พลางก้มมอง
“เฮ้อ แล้วข้าก็ต้องลงไปปราบเจ้า กงเวียนกงกรรมแท้ๆ ”
“ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนย่อมผิดพลาดได้เสมอ” เสียงทะมึนดังลอยเข้ามาอยู่เหนือหัว
“ข้ากลับมายังไม่ทันได้ร่างกำหนดชะตาก็ต้องกลับลงไปจุติอีกครั้ง เกิดร้อยภพพบวิบากกรรมร้อยชาติ ช่างปั่นป่วนเสียจริง” เง็กเซียนฮ่องเต้ส่ายหน้าไปมาแล้วขยับขาดิ่งลงสู่บ่อ หมอกควันทะมึนค่อยๆ จางหายไปในก้อนเมฆ นางฟ้าประทานพรลอยตัวโปรยกลีบดอกไม้ส่งกลิ่นหอมโชยอบอวลทั่วทั้งสวรรค์
