กลิ่น
เอวาเริ่มเหงื่อออก แต่ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับอุณหภูมิเลยแม้แต่น้อย กล้ามแขนแข็งแกร่งราวเหล็กกักตัวเธอไว้ กดเธอชิดกับแผงอกที่แข็งเหมือนหิน จมูกของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นกานพลูและกลิ่นกายธรรมชาติของบุรุษเพศ มันเข้มข้นเสียจนเธอไม่จำเป็นต้องใช้ประสาทสัมผัสที่เฉียบคมของมีอาก็รับรู้ได้
มันมากเกินไปแล้ว เอวาไม่เคยใกล้ชิดใคร ไม่เคย แตะต้อง ใครเลยนับตั้งแต่เลย์ลาตายไป และเธอก็ไม่รู้สึกสบายใจที่จะทำเช่นนั้นมาเป็นเวลานานแสนนานก่อนหน้านั้นเสียอีก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชายคนสุดท้ายที่แตะต้องเธอทำลายชีวิตเธอจนพังพินาศ และการสัมผัสทางกายส่วนใหญ่หลังจากนั้นก็มีจุดประสงค์เพื่อให้เธอเลือดตกยางออก เพื่อให้เธอรู้สำนึกในสถานะของตัวเอง ดังนั้น ปฏิสัมพันธ์ที่ตึงเครียด นี้…ความใกล้ชิดกับคนแปลกหน้าคนไหนก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนแปลกหน้า คนนี้ ทำให้เอวารู้สึกอึดอัดคันยุบยิบไปทั้งตัว ราวกับพร้อมจะกระโจนหนีออกจากร่างตัวเองได้ทุกเมื่อ
เมื่อชายคนนั้นเอียงคอ และความกังวลเล็กน้อยที่สุดเริ่มคืบคลานเข้ามาในสีหน้าอวดดีเหลือเชื่อของเขา เอวาก็ตระหนักได้ว่าอาการสั่นสะท้านไปทั้งตัวไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในจิตใจที่บอบช้ำของเธอเท่านั้น เธอกำลังตัวสั่นจริงๆ และหอบหายใจด้วย ถ้าเธอตีความอาการเจ็บแปลบในอกของตัวเองได้ถูกต้อง
“เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ แม่คนสวย?” คำถามของเขาไม่ได้เหนือความคาดหมายนัก แต่มันก็ทำให้เธอสะดุ้งอยู่ดี “หน้าซีดๆ นะ”
“ปล่อยฉันนะ” ความสุภาพใดๆ หายไปสิ้น เอวาสะบัดตัวออกจากอุ้งมือเขาแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทางอย่างรวดเร็ว อยากจะหนีจากผู้ชายคนนี้และให้วันนี้มันจบๆ ไปเสียที เอวายังคงตัวสั่น เธอใช้มือลูบแขนตัวเองราวกับพยายามปัดเป่าร่องรอยสัมผัสของเขา
แน่ล่ะสิ เอวาแค่นเสียงในใจ สัมผัสของเขาน่ะเหรอ
แม้เธอจะพยายามอย่างที่สุดที่จะปัดเป่าเศษเสี้ยวอดีตที่สูญหายไปและแปดเปื้อนด้วยความขมขื่นและการทรยศนานหลายปี กำแพงในใจที่เอวาใช้เป็นเกราะป้องกันเพื่อให้ก้าวผ่านความเจ็บปวดไปได้กำลังพังทลายลง วันนี้มันมากเกินไป มีเรื่องกระทบกระทั่งมากเกินไป เธอรับเอาคำพูดและการกระทำจากคนอื่นที่จ้องจะกดเธอให้ต่ำตมมามากพอแล้ว และตอนนี้ ความต้องการที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ความรู้สึกปรารถนาที่ไม่คุ้นเคย ทำให้กลไกในใจเธอสับเปลี่ยนเร็วเกินไป
ทันใดนั้น ความทรงจำเมื่อครั้งที่การแสดงความปรารถนาของตัวเองเป็นเรื่องง่าย และการได้รับความรักจากคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดา สบายๆ และถูกมองข้ามก็ถาโถมเข้าใส่เธอ มีช่วงเวลาและอารมณ์มากมายที่เธอไม่เคยรู้ค่าที่จะดื่มด่ำ มีช่วงเวลาอีกมากมายที่สูญหายไปกับกาลเวลาและไม่มีวันได้กลับคืน และที่เลวร้ายที่สุดคือช่วงเวลาอ่อนโยนเหล่านั้นที่เธอรู้ว่าจะไม่มีวันได้มีโอกาสสัมผัส ความใกล้ชิดสนิทสนมได้สูญสิ้นไปจากเธอแล้ว การตระหนักรู้ครั้งนี้บดขยี้หัวใจเธอ เธอจินตนาการไม่ออกเลยว่าชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างใหญ่หลวงในทางที่จะแก้ไขสิ่งนั้น แก้ไขตัวเธอได้อย่างไร สำหรับเธอแล้ว การสัมผัสทางกายจะมีรสชาติเหมือนความกลัวเจือด้วยความเสียใจไปตลอดกาล และทั้งหมดนี้ไม่ใช่ ความผิด ของเธอเลย
บ้าเอ๊ย เธอไม่ได้กำลังลบรอยสัมผัสของผู้ชายเย็นชาคนนั้น แต่กำลังพยายามขจัดสัมผัสของซาเวียร์ต่างหาก แม้ว่าพวกเขาไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกัน แต่ทุกสัมผัสเพียงแผ่วเบา ราวกับเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเธอจดจำได้ ทุกครั้งที่เขาดึงปลายผมหางม้าของเธอเบาๆ หรือใช้มือที่อ่อนโยนแต่แข็งแรงแตะหลังนำเธอออกจากเหตุชุลมุน การเชื่อมโยงที่ไม่ใส่ใจเหล่านี้กลับส่งผลกระทบต่อเธอราวกับการลูบไล้
ทุกช่วงเวลานับตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอปีนต้นไม้ตามลูกโป่งที่ลอยหลุดไปเพียงเพื่อให้กิ่งไม้ใต้เท้าหักครึ่ง แทนที่จะร่วงลงพื้น เธอกลับร่วงลงบนตัวซาเวียร์ เขารับมือกับจมูกที่หักของตัวเองอย่างยอดเยี่ยมและบอกว่ามันคุ้มค่าที่จะทำให้เธอปลอดภัย นั่นคือตอนที่เอวาตัดสินใจว่าเขาคือคนที่เธอต้องการ และที่สำคัญกว่านั้นคือตั้งใจที่จะเป็นคนที่ เขา อยากจะอยู่ด้วย
ไม่ว่าเธอจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม การรับรู้ทั้งหมดของเอวาเกี่ยวกับความรักและความใกล้ชิดสนิทสนมล้วนตั้งอยู่บนความสัมพันธ์ของเธอกับซาเวียร์ ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา และความหมายที่เขามีต่อเธอ...สิ่งที่เขา เคย มีความหมายต่อเธอ
หลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนานและความสูญเสียมากมาย เอวาก็ตกใจที่หนทางอีกสายหนึ่งของเธออาจถูกปิดกั้น ประตูอีกบานถูกปิดใส่หน้าเธอ เพื่อนๆ ครอบครัว บ้านเพียงหลังเดียวที่เธอเคยรู้จัก แม้กระทั่งเศษเสี้ยว จิตวิญญาณ ของเธอก็ถูกฉีกกระชากไปจากเธอ จนกระทั่งบัดนี้ เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองมีอะไรจะเสียอีกแล้ว กระทั่งทำใจยอมรับความจริงนั้นได้และเริ่มก้าวต่อไปด้วยสิ่งใดก็ตามที่เธอพอจะปะติดปะต่อขึ้นมาจากชีวิตได้
บัดนี้เอวาตระหนักได้ว่าไม่ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเธอจะตกต่ำเพียงใด บอบช้ำหรือพ่ายแพ้แค่ไหน เธอก็ไม่เคยสูญสิ้นความหวังอย่างแท้จริง ไม่ใช่หลังจากที่เธอทำใจยอมรับความจริงได้ในที่สุดว่าไม่มีใครจะออกมาทักท้วงความไม่เป็นธรรมเพื่อปกป้องเธอ และซาเวียร์กับพ่อแม่ของเธอก็จะไม่กลับมาแก้ไขความผิดพลาดและปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ไม่ใช่เมื่อเธอสูญเสียคนสุดท้ายที่มองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอแทนที่จะเป็นบาปจากสถานะของเธอ หรือเมื่อเธอต้องแลกสถานการณ์เลวร้ายหนึ่งไปสู่อีกสถานการณ์หนึ่ง
ไม่เลย ความสิ้นหวังคือการตระหนักว่าเธอแตกสลายจากภายในโดยพื้นฐานแล้ว ว่าเธอจะไม่มีวันหนีพ้นจากมลทินแห่งการทรยศของซาเวียร์ได้จริงๆ
ถังใบหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ
เอวาสะดุ้งเมื่อวังวนความอับอายของเธอถูกขัดจังหวะกะทันหัน เธอมองขึ้นไปเห็นชายแปลกหน้าผู้เย็นชาคนนั้นเดินตามเธอมาทัน ในมือของเขาถือชุดทำความสะอาดที่ถูกลืมซึ่งเขาคงเก็บมาจากชั้นล่าง บัดนี้ เธอสังเกตเห็นว่าแววตาของเขาไม่ได้เย็นเยียบนัก ความสนใจในดวงตาของเขายังคงอยู่แม้ว่าความรู้สึกอยากครอบครองอันหนักอึ้งนั้นจะหายไปแล้วก็ตาม ราวกับว่าเขาสัมผัสได้ถึงวิกฤตตัวตนที่การกอดอันไม่คาดคิดของเขาก่อขึ้น และเวลาเล่นสนุกได้จบลงแล้ว ตลกดี เธอกไม่รู้จักเขาเลยแม้แต่น้อย แต่เธอกลับรู้สึกว่าสำหรับเขาแล้ว แทบไม่เคยมีครั้งไหนที่คุ้มค่าพอจะเลิกเล่นเกม
เธอหยุดเมื่อเขาหยุด และตระหนักว่าพวกเขามาถึงห้อง 803 แล้ว เขาพยักพเยิดไปที่ถังอีกครั้งและยิ้มมุมปากขณะที่เธอคว้ามันไป พึมพำขอบคุณอย่างรวดเร็ว เขาเปิดประตูให้เธอแต่ไม่ได้ตามเข้าไปข้างใน เขาขยิบตาให้เธอ แต่ไม่ได้พูดอะไรอีกก่อนจะปิดประตู แม้ว่าเธอจะสงสัยว่าเธอคงไม่ได้ยินถ้าเขาพูดอะไรออกมา
เอวาสันนิษฐานว่าห้องนี้คงต้องทำความสะอาดเหมือนห้องที่แล้ว แต่ทว่า ห้องสวีทขนาดใหญ่นั้นกลับเต็มไปด้วยร่างที่บิดเร้า เสียงเบสกระหึ่ม เสียงหัวเราะ และเสียงครางด้วยความสุขลอยอวลอยู่ในอากาศ เธอแทบมองไม่เห็นห้องผ่านม่านควันซิการ์ แต่สิ่งที่เธอเห็นก็ทำให้เธอทึ่ง
ชั้นแปดสงวนไว้สำหรับแขกคนสำคัญระดับวีไอพีท่ามกลางกลุ่มลูกค้าเฉพาะอยู่แล้ว
เอวาจำเหล่าโอเมก้าของคลับหลายคนได้ในสภาพเปลือยเปล่าแตกต่างกันไปกำลังเอนกายอยู่บนตักของชายที่ดูทรงอิทธิพล มันมืดเกินกว่าจะแน่ใจ แต่ก็รู้สึกได้ว่าทุกคนกำลังมองมาที่เอวาขณะที่เธอเดินลึกเข้าไปในห้อง
เธอไม่รู้ว่าควรจะบอกให้รู้ว่ามาแล้วหรือแค่จากไปดี เพราะรู้สึกเหมือนเป็นครูฝ่ายปกครองในปาร์ตี้สุดเหวี่ยง ก่อนที่เธอจะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง สาวบริการคนหนึ่งก็พยักหน้าไปทางมุมด้านหลังก่อนจะกลับไปหาลูกค้าของเธอ
เอวาเดินไปยังจุดที่โอเมก้าคนนั้นชี้แล้วก็ถอนหายใจ มีใครบางคนสนุกสุดเหวี่ยงจนอ้วกใส่ตู้เคลือบเงาจนเละเทะ นี่ไม่ใช่ความเละเทะครั้งแรกที่เอวาถูกเรียกมาทำความสะอาด และพูดตามตรง มันยังไม่ติด 1 ใน 10 อันดับความเละเทะของเธอด้วยซ้ำ
ส่วนที่น่ากังวลคือพวกโอเมก้าไม่ควรจะเมาเละเทะแบบนี้ และจากประสบการณ์ของเอวา ถ้าผู้ชายอ้วกในงานปาร์ตี้ เขาควรจะใกล้ตายเต็มที กรีนไลท์คลับสมชื่อของมัน ไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรมากมาย แต่กลุ่มคนตรงนี้ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎเหล่านั้น
ความเละเทะเกือบจะถูกจัดการหมดแล้วเมื่อเสียงดังโครมสนั่นแทรกผ่านเสียงอึกทึกของงานปาร์ตี้
"เอามือออกไปจากตัวฉันนะ!" เสียงตบดังเพียะ ตามด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด
"อีตัว มานี่!" เอวามองขึ้นไปเห็นชายร่างยักษ์ยืนค้ำหัวพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ตัวเล็กกว่าเขาเกินครึ่ง ขณะที่เอวามองดู เขางอนิ้วที่กำข้อมือเธอแล้วบีบ เด็กสาวร้องออกมา ทรุดลงคุกเข่าทันที
"ไม่...ได้โปรด..." อกของเอวาสั่นระรัวด้วยความโกรธ
เธอคิดถูกแล้ว ปาร์ตี้นี้ไม่ได้ทำตามกฎของคลับ เอวาไม่ได้หลอกตัวเอง ผู้ค้าบริการทางเพศส่วนใหญ่ที่นี่มาอยู่ที่นี่เพราะพวกเขา ‘ถูกปรับเปลี่ยน’ มาจากคุกของฝูง ดังนั้นความยินยอมจึงไม่จำเป็นนักที่นี่ แต่ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญ พนักงานที่บาดเจ็บหรือตายหมายถึงปัญหาที่เบลล่าต้องมาจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นพนักงานที่จ้างมา พนักงานเสิร์ฟหญิงอยู่ในบัญชีเงินเดือนของเบลล่า ดังนั้นจึงมีกฎเหล็ก ‘ห้ามแตะต้องโดยไม่ได้รับอนุญาต’ สำหรับพวกเธอ เห็นได้ชัดว่าไอ้เวรนี่ไม่รู้เรื่อง
"ฉันเป็นพนักงานเสิร์ฟค็อกเทล ค-คุณ ท-ทำแบบนี้ไม่ได้-" เด็กสาวผู้น่าสงสารพูดตะกุกตะกักทั้งน้ำตา
เอวาโยนผ้าขี้ริ้วลงถังอย่างหัวเสีย ผู้ชายทั้งหมดในห้องนี้ไม่มีใครสักคนลุกขึ้นมาปกป้องผู้หญิงคนนี้เลย เอวาได้แต่จินตนาการว่าพวกเขาเสพอะไรกันเข้าไป แต่พฤติกรรมนี้น่าละอาย มันขัดกับทุกสิ่งที่เหล่าคนหมาป่ายึดถือ ผู้แข็งแกร่งปกป้องผู้อ่อนแอ ไม่ใช่แค่คนที่พวกเขาเห็นว่าน่านับถือเท่านั้น
ชายคนนั้นคว้าเป้าตัวเอง "ใช่ ฉันมีไอ้นั่น เธอก็มีหาง ฉันไม่เห็นว่ามันต่างกันตรงไหน" แขกหลายคนหัวเราะขณะที่พนักงานเสิร์ฟผู้เคราะห์ร้ายหันหน้าหนีจากเขา แต่เขากลับคว้ากรามเธอด้วยหมัดอวบอ้วนแล้วบิดหน้าเธอกลับมาหาเขา "ทีนี้ ทำหน้าที่ของแก แล้วก็ บริการ พวกเราซะ!" แขกหัวเราะอีกครั้งเหมือนกำลังดูละครซิตคอมแทนที่จะเป็นการทำร้ายร่างกาย
อาการสั่นระรัวในอกของเอวารุนแรงขึ้นตามความกระวนกระวายใจของเธอ เป็นสิ่งที่แสดงออกทางร่างกายถึงความขัดแย้งภายในใจของเธอ เธอ คือผู้แข็งแกร่ง อย่างน้อยเธอก็ถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นเช่นนั้น แม้แต่ในคุก เธอก็ไม่เคยทนพวกอันธพาลได้ แต่ตอนนี้ ในห้องที่เต็มไปด้วยผู้ชายเมายา เอวารู้สึกละอายใจที่มันเป็นมากกว่าสามัญสำนึกที่ทำให้เธอก้มหน้าเอาไว้
อันธพาลร่างยักษ์บดปากลงบนปากของพนักงานเสิร์ฟก่อนจะผลักเธอทิ้งไป เขายืนตัวตรง หมุนตัวเป็นวงกลม กางแขนออก ดวงตาเป็นประกายจากฤทธิ์ของสารอะไรก็ตามที่เขาเสพเข้าไป "ทุกคนในคลับเหี้ยนี่ต้องบริการพวกเรา" เขาหยุดหัวเราะกับคำพูดสองแง่สองง่ามของตัวเองก่อนจะเห็นเอวาที่หมอบอยู่บนพื้น "แม้แต่แม่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม่บ้าน!"
เขาเริ่มย่างสามขุมเข้ามาหาเธอ
"ว่าไงล่ะ แม่บ้าน? ให้ฉันเลื่อนตำแหน่งให้เอามั้ย"


















































































































































