บทที่ 4 เด็กที่มารับ

“เป็นไงมั่งอ้อน ไหวมั้ย”

“อะ...อืม หัวหมุนติ้วๆ เลยค่ะพี่สาม”

“งั้นกลับบ้าน บอกแล้วอย่ากินเยอะแบบนั้น บอกให้ยืนรอ เผลอแป๊บเดียว เดินมาถึงนี่ได้ไง”

คนชื่อสามบ่น ประคองกันเดินโซซัดโซเซมุ่งหน้าออกจากซอยเล็กแห่งนี้เพื่อเข้าสู่ถนนหลัก จุดที่เขาจะไปเช่นกัน

ฟ้าครามมองแล้วส่ายหน้า ก้าวเท้าตามเนิบช้า เด็กสาวสมัยนี้แก่นกล้าเกินตัวจริง และเธอคงรู้สึกว่าถูกเดินตามจึงหันกลับมาหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่

“เดินตามมาทำไม น้องสาวฉันไม่ได้ทำงานอย่างที่คุณคิดหรอกนะ เข้าใจผิดแล้ว”

“ตามเติมอะไร ต่อให้พวกเธอทำงานนั้นจริง ฉันไม่มีอะไรอารมณ์จะซื้อหรอกนะ ที่เดินมาเพราะฉันจะไปทางนี้อยู่แล้ว”

“เอ๊ะ...บอกไม่ได้ทำ”

“หมีแก่ขี้บ่น คิคิ”

“ไม่ต้องหัวเราะ ดูซิเนี่ย เมาแบบนี้กลับไป โดนหยิกเนื้อเขียว นี่ฉันจะทำยังไงกับแกดียัยอ้อน เฮ้อ...”

ฟังแล้วชวนคิด สงสัยหนีผู้ปกครองมาเที่ยว หน้าตาที่แต่งเสียเข้มจัดแลดูอ่อนวัยอยู่ไม่น้อย อายุถึงยี่สิบกันหรือยังไม่รู้ ฟ้าครามคิด

เดินไม่กี่นาทีก็ถึงถนนเส้นหลัก ป้ายรถเมล์อยู่ทางซ้าย เขาเห็นทั้งสองประคับประคองกันโซเซทุลักทุเล หลายครั้งที่เกือบจะล้ม แม่เมรีขี้เมาก็หัวเราะอย่างกับสนุกนักหนา ขณะที่คนเป็นพี่บ่นกระปอดกระแปดทั้งยังชำเลืองมาทางเขาที่เดินตามเป็นระยะๆ สายตาระแวดระวัง

ฟ้าครามไม่รู้ตัวว่า ตนเองทอดฝีเท้าช้าลงมากแค่ไหน หน้าตาเรียบดุ มองผ่านคล้ายไม่สนใจ แต่ทุกการเคลื่อนไหวของสองสาวอยู่ในสายตา

เมื่อพวกเธอหยุดก่อนถึงป้ายรถเมล์เล็กน้อย เขาก็หยุดห่างออกมา คิดไพล่ไปว่าจุดนี้น่าจะทำให้คนที่นัดไว้ มองเห็นเขาได้ชัด และอดไม่ได้ปรายตาไปมองสองสาว

ถ้าพวกเธอไม่ใช่ไก่ก็คงเด็กใจแตกหนีที่บ้านมาเที่ยวล่ะว้า เมื่อครู่ยังบ่นอยู่ว่าจะโดนหยิกเนื้อเขียว

ปริ้นๆ

“เฮีย เฮียคราม”

เสียงแตรรถยนต์ดังพร้อมเสียงเรียกดึงความสนใจของฟ้าครามจากสองสาว กระจกด้านข้างคนขับลดลงจนหมดทำให้เขามองเห็นหน้าหนุ่มรุ่นน้องนามเพชรพญาได้ชัดเจนจากแสงไฟที่อยู่รายรอบบริเวณนั้น

“เพชร”

“ขึ้นมาเลยเฮีย”

เพชรพญารีบบอก มองซ้ายขวาจากกระจกข้างรถ ก่อนจะมองข้างหลังเมื่อหนุ่มรุ่นพี่เปิดประตูขึ้นมานั่งเรียบร้อย และกำลังจะพารถออกจากบริเวณนั้น หากภาพที่สะท้อนในกระจกทำให้ชะงัก

“เวร”

“มีอะไรวะ”

เพชรพญาไม่ได้ตอบเพราะรีบเปิดประตูลงรถไปในลักษณะฉุนเฉียว ฟ้าครามมองตามอย่างแปลกใจ ก็เห็นรุ่นน้องหนุ่มเดินตรงไปหาสองสาว เขานิ่วหน้า ไม่ได้ยินหรอกว่าเพชรพญาคุยอะไรกับผู้หญิงชื่อสาม เห็นแต่สีหน้าบึ้งตึงของหมอนั่น ก่อนที่คนชื่อสามจะสะบัดหน้าประคองน้องเธอตรงมาที่รถ เพชรพญาเดินตาม หน้าตึงสนิท

ขึ้นมาบนรถ สามหรือตรีนุชตวัดตาขวางๆ มามองคนขับและคนช่างเจ้ากี้เจ้าการ ก่อนจะมองเลยมาที่หนุ่มอีกคน คนที่เดินตามพวกเธอออกมาจากซอย

“เพื่อนคุณนี่เอง มิน่า...” พูดแล้วบิดปาก

“มิน่าอะไร ทำเสียงให้มันดีๆ หน่อยนะเรา ความผิดติดตัวยังไม่สำนึก”

“ผิดอะไรตรงไหน”

“ผิดตรงที่พาอ้อนมาเที่ยวกลางคืนไง แถมกินเหล้าเมาเละ หลักฐานเห็นๆ ยังจะเถียง นี่ถ้าพี่สาวเธอรู้จะว่าไงมั่งนะ”

“หึ คุณเปรมไม่รู้หรอก ถ้าไม่มีอีกาปากยาวคาบข่าวไปบอก”

“อ้อ พี่ไม่รู้เลยพาน้องออกมาเสียผู้เสียคน เธอนี่มันคิดน้อยจริงๆ แล้วปากนั่นก็ให้มันน้อยๆ หน่อย สักวันจะเอาน้ำยาล้างห้องน้ำขัดให้”

“เสียอะไร เสียตรงไหน พูดอยู่นั่น กำลังจะกลับแล้วนี่ไง บอกจะกลับเองๆ ถ้ารู้ว่าขึ้นรถแล้วจะเจอคนบ่นด่าแบบนี้ไม่ขึ้นมาหรอก อ้อ ไหนๆ ก็เสนอหน้าเสนอตัวบังคับพวกเรามาแล้วช่วยส่งที่บ้านเจ้ายะที่หน้าปากทางด้วยแล้วกัน ขืนเข้าบ้านไปสภาพนี้ ยัยอ้อนโดนเละอีกแน่”

“รู้เหมือนกันนี่ แล้วจะให้ไปส่งบ้านไอ้ยะนี่คิดแล้วใช่ไหม ไอ้หมอนั่นมันเป็นผู้ชาย”

“โอ๊ย เพื่อนๆ กัน บอกมันแล้ว ไม่คิดมากหรอก”

“ต้องคิด เริ่มคิดได้แล้ว แล้วคืนนี้ไปนอนบ้านฉัน อย่าคิดจะพาอ้อนไปเสียผู้เสียคนเหมือนเธอ”

ถ้อยคำที่กระแทกแดกดันเข้าใส่ทำให้ตรีนุชเม้มปากแน่น จ้องหน้าคนว่าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ขณะที่อ้อน หรือกรณิการ์หลับพับไปแล้ว

“รู้จักกัน” ฟ้าครามถามนิ่งๆ ไม่ได้มองไปทางเบาะหลัง

เพชรพญาทำเสียงในลำคอ หน้าตาไม่สบอารมณ์ ปรายตาปรามแม่สาวจอมเถียงผ่านกระจกมองหลัง

“เธอชื่อตรีนุชหรือสาม เป็นน้องสาวของพี่เปมิศา ส่วนนั่นลูกเลี้ยงของพี่เปรม ยัยอ้อน กรณิการ์”

เสียงบอกเล่าขรึมๆ ทำให้ฟ้าครามต้องปรายตาไปยังเด็กสาวที่ชื่อกรณิการ์ เพราะแต่งหน้าเข้มจัด เธอจึงไม่เหมือนในรูปที่เขาดู มองแล้วก็พาลหนักใจ นี่เหรอเด็กที่เขาต้องมารับ

ดูสภาพแล้ว หนักใจแทนพ่อเสียจริง!

กรณิการ์ตอบไม่ถูกว่า อะไรมันแย่กว่ากัน ระหว่างถูกจับแต่งงานกับคนแก่รุ่นพ่อกับการที่จะต้องเดินทางไปกับผู้ชายแปลกหน้าแถมหน้าดุรกหนวดคนนี้ สาวน้อยนั่งนิ่งพูดไม่ออก

ใช่แต่กรณิการ์ที่อึดอัดคับข้องใจ แม่เลี้ยงของเธอ เปมิศา นพรัตนา ถึงกลับใจรุ่มร้อน นั่นเพราะเงินก้อนโตที่เธอหวังจะได้จากค่าสินสอดทองหมั้นกำลังจะหายวับไป ไม่ว่าในอกเดือดดาลสักแค่ไหน หญิงสาววางหน้านิ่ง มองหน้าอดีตคนรักที่ไม่คิดว่าจะได้พบเจออีกครั้งพลางฝืนยิ้มและส่งเสียงหัวเราะ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป