บทที่ 9 กล่อมเด็ก
ใกล้ชิดกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง ใจไม่รักดีของเขา มันพานจะคิดถึงแต่หน้าใสๆ กับตาตื่นๆ คู่นั้น ขัดแย้งกับปณิธานที่ตั้งไว้มานานนมเรื่องไม่สนใจสาววัยใส จนตอนนี้เขาชักรำคาญตัวเองเหลือเกินแล้ว
ไม่กี่นาทีร่างบอบบางเดินออกมาจากห้องน้ำ กรณิการ์ไม่รู้ว่าคนเดินมาด้วยกลับไปหรือยัง หากพอพ้นประตู มองข้างผนังก็ต้องสะดุ้ง เนื่องจากไม่คิดว่าจะมีใครยืนอยู่ตรงนั้น
“ตกใจอะไร ฉันไม่ใช่ผี”
คนหน้าดุพูดเสียงขรึม ดึงตัวที่ยืนพิงกำแพงขึ้นตรง เดินนำออกไปก่อน
สาวน้อยนิ่วหน้าย่นจมูกใส่แผ่นหลังกว้าง ใครจะรู้ว่าเขายืนอยู่รอ หันไปเจอก็ตกใจสิ แต่... เขารอ... ความคิดนี้ทำให้เรียวปากระเรื่อมีรอยยิ้มแต้มบางๆ หัวใจอุ่นขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
ฟ้าครามเดินนำไปเรื่อย ไม่ได้หันมามอง แต่หูได้ยินเสียงเบาๆ ที่เคลื่อนตาม เขาไม่ได้เดินห่างหรือเธอเดินตามเขามาติดๆ ก็บอกไม่ได้ กระทั่งถึงล็อกที่นอน กายสูงใหญ่ก้มตัวมุดเข้าไปนั่งก่อน แล้วต้องนิ่วหน้าแปลกใจกับเสียงแผ่วเบาที่ถามขึ้น
“งะ...ง่วงแล้วเหรอคะ”
“ห้าทุ่ม จะให้ทำอะไร”
“กะ...ก็นั่งคุยก็ได้”
ทำไมต้องทำเสียงดุ สาวน้อยคิดแล้วหน้างอ รู้หรอกว่าตอนนี้กี่ทุ่มกี่ยาม แต่เธอไม่อยากปีนขึ้นไปนอนนี่นา
“คนอื่นนอน มาคุย ก็รบกวนคนอื่นสิ”
อันนั้นเธอก็รู้อยู่หรอก แต่จะให้ทำไงล่ะ เห็นทีต้องปีนขึ้นไปนั่งกอดเข่าเจ่าจุก รอเวลาเช้าอย่างเดียวแล้วล่ะแบบนี้
ฟ้าครามหรี่ตา สงสัยแม่สาวตรงหน้าจะกลัวนอนแล้วกลิ้งตกหรืออย่างไร เขาเห็นแววไหวหวั่นกับสีหน้าหงอยๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะก้มหน้าเมินหนีเขา เอื้อมมือไปจับบันไดเหล็ก มันดลใจให้เขาออกปากเรียกเอาไว้
“นั่งสิ”
กรณิการ์ใจกระตุก หันขวับมามองอย่างไม่เข้าใจอารมณ์อีกฝ่าย แต่เธอก็ดีใจ ยอมมุดเข้าไปนั่งบนเบาะกับเขาในลักษณะเสงี่ยมเจียมตัวอย่างที่สุด
ฟ้าครามนิ่วหน้า ร่างบางนั่งห่างออกไปทางปลายที่นอนอีกฝั่ง นั่งนิ่งก้มหน้านิดๆ ไม่ได้พูดอะไร
“ไหน มีอะไรคุยมา”
เอาแล้วไง กรณิการ์เบิกตาหันมามองหน้าคมดุ เธอจะคุยอะไร แค่ไม่อยากนอน... ไม่อยากขึ้นไปนอนข้างบน พอปิดม่านมันเหมือนเธอถูกขังไว้ในกล่องแคบๆ โดดเดี่ยวไม่มีเพื่อน
“เอ่อ...คือ...”
“รึที่จริง กลัวจะนอนแล้วกลิ้งตก งั้นก็นอนเบาะข้างล่างนี่”
กรณิการ์มองคนขอเปลี่ยนที่นอนกับเธอแล้วกวาดตาช้าๆ ไปทั่วเรือนกายสูงใหญ่ ล่ำสัน เขาตัวใหญ่แบบนั้น จะขึ้นไปซุกตัวอยู่บนซอกแคบๆ ชั้นบนได้หรือมันแคบกว่าชั้นล่างด้วย
“หรือหิว” เมื่ออีกฝ่ายเงียบ ฟ้าครามถามต่ออีก เอื้อมไปหยิบถุงไข่ที่ยังเหลือสองใบมาส่งให้ พอจะอ่านความคิดของสาวน้อยออก
“ไม่หิวค่ะ” มื้อเย็นเธอไม่ค่อยทานอะไรมากนัก กรณิการ์คิดว่าเธอโชคดี ชอบกินชอบทำอาหารทำขนมแต่ไม่อ้วน คงเพราะเธอออกกำลังกายสม่ำเสมอก็เป็นได้
เมื่อสาวน้อยปฏิเสธ เขาเอาถุงไข่ไปห้อยไว้เหมือนเดิม ดึงโทรศัพท์ออกมากดดู มีข้อความจากเพชรพญาเข้ามา พ่อของเขาและไอ้พวกเพื่อนๆ ด้วย เขาจึงตอบไปว่าตอนนี้เดินทางถึงไหนแล้ว ก่อนจะออกจากโปรแกรมแชตไลน์ เข้าไปดูเหตุการณ์บ้านเมือง เข้าไปดูราคายางพาราและสถานการณ์ราคาผักผลไม้
กรณิการ์ลอบมองร่างหนาใหญ่หากสมส่วนสวยงาม เท่าที่มองจากภายนอกร่มผ้า ฟ้าครามคงออกกำลังกายเป็นประจำ เรือนกายเขาแม้สูงใหญ่แต่ก็ดูสมาร์ตกำยำสมชาย ไม่ผอมบางและไม่อ้วนเจ้าเนื้อ ใบหน้าครึ้มหนวดและเครานั้นแม้จะทำให้เขาดูดุดัน หากก็น่ามอง หนวดของเขาไม่ได้ยาวเฟื้อย มันสั้นแต่หนา กินบริเวณแนวคางและแก้มไปบางส่วน เหนือริมฝีปากกับใต้คางอีก จะว่าน่ากลัวก็ได้ น่ามองก็ได้ตามสมัยนี้ที่สาวๆ นิยมหนุ่มครึ้มเครา
สาวน้อยไม่กล้ามองนานนัก แค่ลอบมองผ่านๆ แล้วกลับมาครุ่นคิดเรื่องระหว่างเธอกับเขา ซึ่งไม่รู้ว่านับจากนี้ต่อไปจะเป็นไปในทิศทางไหน เธออยากถามแต่ไม่กล้า ความกลัวความหวั่นอัดแน่นเต็มหัวใจอยู่แล้ว ได้แต่หวังว่า เขาและพ่อของเขาจะเป็นคนดีให้ที่พักพิงลูกนกลูกกาอย่างเธอได้พึ่งพาอาศัยด้วยความบริสุทธิ์ใจ เธอไม่ได้คิดจะอยู่ฟรี หากมีงานอะไรที่เธอช่วยได้ เธอก็พร้อมจะช่วยทำ โดยเฉพาะงานบ้านงานครัวที่เธอถนัด
ไม่ให้เรียนต่อก็ได้...
ให้ทำงานอย่างเดียวก็ได้...
ขอแค่... ไม่บังคับให้เธอทำสิ่งที่ฝืนใจ ไม่เอาเธอไปขายหรือไปทำร้าย กรณิการ์ก็รู้สึกเป็นบุญของชีวิตเธอแล้ว
ผ่านไปพักใหญ่ คนไม่ง่วงเริ่มสัปหงก นั่งกอดเข่า โอนเอนซ้ายทีขวาที ฟ้าครามละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์เครื่องเล็ก มองสภาพคนไม่ง่วงแล้วส่ายหน้าอย่างระอา เขาเก็บโทรศัพท์ ก่อนเอื้อมไปดึงร่างอรชรให้ล้มตัวลงนอน
สาวน้อยสะดุ้ง ลืมตาโพลงขึ้น พยายามจะดีดเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง เมื่อพบว่า เขารูดม่านปิดบังที่นอนแล้ว ภายใต้บริเวณคับแคบนี้สลัวแต่ยังพอมองเห็นกันได้
“นอน” เสียงห้าวสั่งเบาๆ แววตานิ่งแต่ดุ
“เอ่อ...อ้อนว่า...อ้อน” กรณิการ์กระซิบกลับเสียงตะกุกตะกัก แววตาฉายประกายหวั่น
ฟ้าครามไม่คิดจะปีนขึ้นไปนอนชั้นสอง ให้ทิ้งสาวน้อยที่หน้าตาสะสวยไว้คนเดียวเขาคงทำไม่ได้ จึงเอนตัวลงนอน ยึดพื้นที่เบาะนอนด้านนอกติดม่าน เป็นผลให้เจ้าของร่างบางเขยิบถอย หลังชิดหน้าต่างกระจก เธอทำท่าจะลุก แต่ลำแขนแกร่งพาดลงมาตรงเอว
“นอนที่นี่”
