บทที่ 1 ข้อตกลงการหย่าร้าง

บรรยากาศภายในห้องนอนอันหรูหราดูเหมือนจะถูกสูบอากาศออกไปจนหมดสิ้น จินต์จุฑารู้สึกหายใจติดขัดไปชั่วขณะ ร่างกายแข็งทื่อขยับไม่ได้ ดวงตาแสบพร่าขณะมองชายหนุ่มที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้า... ไม่สิ ต้องบอกว่ามองเอกสารที่เขายื่นมาให้ และน้ำเสียงอันเย็นชาของเขาต่างหาก

"เซ็นใบหย่าซะ เราตกลงกันไว้แล้วนี่"

ใช่สินะ ตกลงกันไว้ตั้งแต่สามปีก่อนแล้ว... จินต์จุฑายิ้มเยาะตัวเองในใจ มือที่ไพล่หลังกำใบอัลตราซาวด์แน่น ตอนนี้คงหยิบออกมาไม่ได้อีกแล้ว

สองชั่วโมงก่อน เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองตั้งท้องได้หนึ่งเดือน ความรู้สึกแรกคือดีใจจนเนื้อเต้น แต่ตามมาด้วยความหวาดกลัวและทำตัวไม่ถูก เธอคิดว่าจะสารภาพกับผู้ชายตรงหน้าอย่างไรดี แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้... ทุกอย่างคงพูดไม่ออกแล้ว

ก็จริง การแต่งงานของเธอกับธนวัฒน์มันก็แค่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ สามปีก่อนเธอต้องการที่ซุกหัวนอนให้ตัวเองกับแม่ ส่วนเขาต้องการภรรยาที่ว่านอนสอนง่ายเพื่อรับมือกับการถูกครอบครัวเร่งรัดเรื่องแต่งงาน

เธอยังจำคำพูดของเขาในตอนนั้นได้แม่น

"ผมตกลงตามข้อเสนอของคุณ ผมจะให้ตำแหน่ง 'นายหญิง' กับคุณสามปี ครบสามปีเราหย่ากัน" เขาเว้นจังหวะนิดหนึ่งก่อนเสริมว่า "อ้อ แล้วทางที่ดีอย่ามารักผม เพราะผมไม่มีทางรักคุณ"

คำพูดของธนวัฒน์ยังก้องอยู่ในหู พอนึกถึงตอนนี้มันเหมือนฝ่ามือที่ตบหน้าเธอฉาดใหญ่

เธอข่มความขมขื่นและเจ็บปวดในใจ ไม่ได้รับใบหย่ามาถือไว้ เพียงแค่เงยหน้ามองธนวัฒน์ด้วยแววตาเรียบเฉย

"ตะ... แต่ว่ามันยังไม่ครบสามปีเลยนะคะ" ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกตั้งหนึ่งปีกับสามเดือนกว่าจะถึงกำหนดหย่า แต่เขากลับรีบร้อนเอาใบหย่าออกมาขนาดนี้ ทำให้เธอนึกถึงภาพที่เห็นในโรงพยาบาลเมื่อวาน

เขาอุ้มผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดและร้อนรน ชนเธอที่กำลังจะไปตรวจร่างกายจนเซ เขาเดินผ่านเธอไปโดยไม่เห็นเธอเลยสักนิด แต่เธอกลับเห็นชัดเจนว่าผู้หญิงในอ้อมกอดเขาคือ 'ญาณิดา' ที่ไปเมืองนอกเมื่อสองปีก่อน

ที่แท้เธอก็กลับมาแล้วนี่เอง

ดูเหมือนความอดทนของเขาจะหมดลง เขาปาใบหย่าใส่หน้าเธอด้วยความหงุดหงิดและหยาบคาย

"เซ็นซะ ค่าชดเชยที่ควรได้ผมให้ไม่ขาดแม้แต่สตางค์เดียว ในเมื่อญาณิดากลับมาแล้ว ละครฉากนี้ของเราก็ควรจบลงสักที" ธนวัฒน์พูดจบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปและกระแทกประตูเสียงดังปัง

ผ่านไปเป็นนาทีกว่าจินต์จุฑาจะได้สติจากคำพูดเมื่อครู่ น้ำตาที่กลั้นไว้ไม่อยู่ก็ไหลพราก ที่แท้การแต่งงานเกือบสองปีของพวกเขาก็กลายเป็นแค่เรื่องตลกทันทีที่ญาณิดากลับมา

เธอน่าจะรู้อยู่แล้ว คนที่ธนวัฒน์รักมาตลอดคือญาณิดา เพียงแต่เวลาสองปีทำให้เธอเกือบหลงลืมตัวตนของญาณิดาไป หลงคิดไปเองว่าจะรักกันได้หลังแต่งงาน

ที่แท้ทั้งหมดก็แค่เธอเพ้อฝันไปเอง

สองปีก่อนญาณิดาตัดสินใจบินไปต่างประเทศเพื่ออนาคตทางการเต้นอย่างเด็ดเดี่ยว เขาขับรถตามไปถึงสนามบินแต่ก็รั้งเธอไว้ไม่ได้ คืนนั้นเขาเมามายเพื่อย้อมใจ และดันมาเจอกับเธอที่ถูกไล่ออกจากบ้านพอดี

ตอนนั้นเธอตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ถึงขีดสุด แตกสลายไม่มีชิ้นดี ฟางเส้นสุดท้ายที่คว้าไว้ได้มีเพียงผู้ชายคนนี้ที่อยู่บนยอดพีระมิด เธอคิดว่าเขาคือผู้มาโปรด แต่เธอคิดผิด

เขาคือหุบเหวอีกแห่งต่างหาก

หนึ่งเดือนก่อน เขาไปงานเลี้ยงแล้วโดนวางยา นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่เรามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันตั้งแต่แต่งงานมา ปกติเขาไม่เคยแตะต้องเธอ ราวกับเธอเป็นสัตว์ร้ายที่น่ารังเกียจ และเธอก็รู้ดีว่าเขาครองตัวเพื่อใคร

แต่แค่ครั้งเดียวดันท้องซะได้

จินต์จุฑาทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงอย่างหมดแรง ก้มหน้าลูบหน้าท้องแบนราบเบาๆ พึมพำกับตัวเอง

"แม่จะทำยังไงกับหนูดีนะ?"

อีกด้านหนึ่ง ทันทีที่ธนวัฒน์ก้าวออกจากบ้านก็ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล เขาขมวดคิ้วทันทีแล้วตอบกลับไปว่า

"เดี๋ยวผมรีบไป"

ห้องผู้ป่วยวีไอพีแผนกศัลยกรรมกระดูกของโรงพยาบาลเมืองเอ็มเต็มไปด้วยผู้คน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้หญิงสาวบนเตียงที่หน้าซีดเผือดและนองไปด้วยน้ำตา เพราะข้าวของที่กระจัดกระจายเกลื่อนพื้น

ญาณิดาคว้าโคมไฟอันสุดท้ายใกล้มือทุ่มลงพื้นอย่างแรงเพื่อระบายความไม่พอใจ โคมไฟแตกกระจายแทบเท้าทุกคนทันที

"ออกไป! ออกไปให้พ้นหน้าฉันให้หมด!" เสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่งดังลั่นห้อง

หัวหน้าแผนกศัลยกรรมกระดูกเดินเข้าไปเกลี้ยกล่อมอย่างกล้าๆ กลัวๆ

"คุณญาณิดาครับ อาการบาดเจ็บที่เข่าเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น เดี๋ยวก็หายเป็นปกติครับ"

ญาณิดาตวัดสายตามองเขาด้วยความเคียดแค้น ตวาดกลับด้วยความโมโห

"อีกเดือนเดียวฉันต้องไปแข่งเต้น ฉันต้องการหายภายในหนึ่งอาทิตย์ ถ้าทำไม่ได้ก็ไสหัวไป!"

เสียงอาละวาดของญาณิดาทำให้ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทางโรงพยาบาลเบื่อคุณหนูประเภทนี้ที่สุด ล่วงเกินก็ไม่ได้ ไล่ก็ไม่ได้ ได้แต่ฝืนยิ้มรับหน้า ใครใช้ให้คุณหนูคนนี้เป็นคนที่ทายาท 'บริษัทธนาเศรษฐ์' อุ้มมาส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเองล่ะ

"โวยวายอะไรกัน?"

พอธนวัฒน์ก้าวเข้ามาก็เห็นสภาพห้องที่เละเทะ และหมอพยาบาลที่ทำหน้าไม่ถูก ความเย็นชาบนใบหน้าเริ่มเจือจางลงเมื่อสบตากับหญิงสาวหน้าซีดบนเตียง

"ผมถามหมอแล้ว เข่าของคุณไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ต้องกังวลนะ" เขาปลอบโยนญาณิดาเสียงนุ่ม พร้อมโบกมือไล่พวกหมอออกไป

พอเห็นธนวัฒน์ ญาณิดาก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นอ่อนแอและน่าสงสารทันที

"พี่วัฒน์คะ... ญาจะเต้นไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม"

"เหลวไหล ผมจะให้หมอรักษาคุณให้หายดีเอง" ธนวัฒน์ลูบหัวเธอเบาๆ ญาณิดาดูร่าเริงขึ้นทันตาเห็น ต่างจากผู้หญิงขี้โมโหเมื่อครู่ราวกับคนละคน

"พี่วัฒน์ ญาเชื่อใจพี่ค่ะ" ญาณิดาฉวยโอกาสกอดเอวธนวัฒน์แล้วซุกหน้าลงกับอกเขา ร่างกายของธนวัฒน์แข็งเกร็งไปชั่วขณะ เขาไม่ได้กอดตอบ แต่ก็ไม่ได้ผลักไส เพราะยังไงญาณิดาเจ็บเข่าก็เพราะเขา

เมื่อเห็นเขาไม่ผลักไส ญาณิดาก็เงยหน้าขึ้นหมายจะจูบธนวัฒน์ เธอรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว แต่แล้วไงล่ะ เธอเชื่อว่าคนที่ธนวัฒน์รักยังไงก็คือเธอ ส่วนนังผู้หญิงที่ชื่อจินต์จุฑานั่น เมื่อก่อนเธอไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา ต่อไปก็ยิ่งไม่มีทาง

ในเมื่อเธอกลับมาแล้ว จินต์จุฑาเคยมีชีวิตยังไงก็จงกลับไปมีชีวิตแบบนั้นซะ คิดจะฉวยโอกาสตอนเธอไม่อยู่มาเกาะแกะพี่วัฒน์ของเธอ หวังจะเสวยสุขเป็นคุณนายงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ

แต่ครั้งนี้ธนวัฒน์กลับเบี่ยงหน้าหลบจูบของเธอ

ญาณิดาแสร้งทำเป็นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

"พี่วัฒน์คะ พี่..."

จู่ๆ ธนวัฒน์ก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาจึงรีบเบี่ยงตัวหลบ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงพยาบาล หรือกลิ่นน้ำหอมของญาณิดาที่ฉุนเกินไปกันแน่

"ขอโทษที คุณพักผ่อนเถอะ ผมยังมีงานต้องทำ พรุ่งนี้จะมาเยี่ยมใหม่" พูดจบธนวัฒน์ก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามอง ญาณิดามองแผ่นหลังของเขาแล้วกำผ้าปูที่นอนแน่นด้วยความเจ็บใจ

ไม่เป็นไรหรอก... ยังไงพี่วัฒน์ก็ต้องเป็นของเธอวันยังค่ำ

สักพักเธอหยิบมือถือขึ้นมาดู ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ กดบันทึกรูปภาพ แล้วเปิดไลน์ของจินต์จุฑาขึ้นมา ก่อนจะกดส่งรูปภาพไปให้

เป็นรูปที่เธอเพิ่งกอดธนวัฒน์เมื่อกี้ มุมกล้องทำให้ดูเหมือนธนวัฒน์กำลังโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน

จินต์จุฑา... นี่คือของขวัญต้อนรับการกลับมาของฉัน

ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าตอนที่เธอได้ข่าวว่าธนวัฒน์แต่งงาน แล้วเจ้าสาวคือจินต์จุฑา เธอเจ็บแค้นใจมากแค่ไหน

จินต์จุฑารีดใบอัลตราซาวด์ที่ยับยู่ยี่ให้เรียบ เหม่อมองมันอยู่หลายนาที ทางซ้ายมือคือใบหย่า ทางขวามือคือใบอัลตราซาวด์ เธอนึกย้อนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสองวันนี้แล้วแค่นหัวเราะออกมา

ถ้าเธอไม่ได้รักธนวัฒน์ ทุกอย่างคงง่ายกว่านี้เยอะ

เธอคงเซ็นใบหย่าได้ทันที รับเงินก้อนโตแล้วเดินจากไปอย่างสวยๆ หรืออาจจะตัดสินใจเอาเด็กออกโดยไม่ลังเล แล้วตัดขาดจากธนวัฒน์ไปตลอดชีวิต ต่างคนต่างอยู่ไม่ต้องมาเจอกันอีก

แต่เธอดันรักเขาเข้าเต็มเปา ตั้งแต่อายุสิบแปดจนถึงยี่สิบห้า เธอแอบรักเขามาตลอดช่วงวัยสาว

เสียงแจ้งเตือน "ติ๊ง" จากมือถือดึงสติเธอกลับมาสู่โลกความเป็นจริง

วินาทีที่เปิดดูมือถือ ใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด มือที่กำโทรศัพท์สั่นระริก

บทถัดไป