บทที่ 3 เชื่อคุณหรือเชื่อฉัน

ญาณิดารีบตั้งสติได้ในทันที เธอหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะรีบแก้ตัว

"เอ่อ... คือหนูหมายถึง พี่จินต์เคยบอกหนูมาก่อนหน้านี้ค่ะ ว่าพี่ยังไม่อยากมีลูกตอนนี้"

นี่ต่างหากคือสิ่งที่ญาณิดาหวาดกลัวอย่างแท้จริง เธอกลัวว่าจินต์จุฑาจะตั้งท้องลูกของธนวัฒน์ขึ้นมาจริงๆ

เธอก้มหน้าลงซ่อนแววตาอันเยือกเย็นและร้ายกาจที่วูบผ่าน เพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็น

ภายในห้องน้ำ จินต์จุฑาอั้นไม่ไหวจนต้องทรุดตัวลงนั่งข้างชักโครกแล้วโก่งคออาเจียน แต่ทว่ากลับไม่มีอะไรออกมาเลย มีเพียงน้ำตาที่เล็ดออกมาเพราะแรงขย้อน

ธนวัฒน์ที่เดินตามมาติดๆ จู่ๆ ก็รู้สึกพะอืดพะอมและคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างรุนแรง เขาเห็นหญิงสาวที่นั่งกอดชักโครกอาเจียนอยู่บนพื้น ทันใดนั้นเขาก็พุ่งไปที่อ่างล้างหน้าแล้วโก่งคออาเจียนลมออกมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรออกมาเช่นกัน

เขาหันกลับไปมองจินต์จุฑา พบว่าเธอหยุดอาเจียนแล้ว เขายกมือขึ้นกดที่หน้าท้อง หรือว่าช่วงนี้เขาจะดื่มหนักเกินไป?

เขาจ้องมองแผ่นหลังของจินต์จุฑาด้วยสีหน้าย่ำแย่ ความรู้สึกประหลาดนั้นกลับมาอีกแล้ว ทำไมเวลาเธออาเจียน เขาถึงต้องรู้สึกอยากอาเจียนตามไปด้วย?

หรือว่าเขาจะคิดมากไปเอง?

หลังจากจินต์จุฑาเริ่มตั้งสติได้ เธอก็ยันตัวลุกขึ้นจากชักโครก เดินผ่านธนวัฒน์ไปที่อ่างล้างหน้าโดยไม่แม้แต่จะปรายตามองเขา

"จินต์จุฑา คุณเป็นบ้าอะไร? ถ้าไม่สบายทำไมไม่ไปโรงพยาบาล?" เขาตำหนิด้วยความหงุดหงิด

จินต์จุฑาล้างมือพลางมองเขาผ่านกระจกเงา ใบหน้าของเธอซีดเผือด ดวงตายังคงมีหยาดน้ำตาคลอหน่วย ราวกับตุ๊กตาแก้วที่แตกร้าว ดูน่าทะนุถนอมจนใจหาย

"คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ? ไม่สบายเหรอ?" จินต์จุฑาเมินเฉยต่อคำตำหนิของเขา เธอเห็นว่าเมื่อกี้เขาก็อาเจียนเหมือนกัน หรือว่าเขาจะป่วย? เธอถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

ธนวัฒน์สบตาเธอ หัวใจกระตุกวูบราวกับถูกบางอย่างกระแทกเข้าอย่างจัง ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วอก

"คำถามนั้นผมควรจะเป็นคนถามคุณมากกว่า คุณเป็นอะไรกันแน่? ทำไมถึงอาเจียน?" ธนวัฒน์จ้องมองเธอเขม็งด้วยสายตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยว

จินต์จุฑาใจหายวาบไปชั่วขณะ จะให้เขารู้เรื่องที่เธอตั้งท้องไม่ได้เด็ดขาด

เธอทำได้เพียงแสร้งทำเป็นเก่งกลบเกลื่อนความพิรุธ

"คุณธนวัฒน์ คุณบอกว่าฉันลืมฐานะนายหญิงของบ้าน แล้วคุณล่ะคะ? คุณเองก็ลืมฐานะความเป็นสามีไปแล้วหรือยัง?"

คำพูดนี้ทำให้ธนวัฒน์ลืมความรู้สึกผิดปกติในใจไปจนหมดสิ้น เขาเอ่ยปากด้วยความรำคาญและเย็นชา

"จินต์จุฑา ผมเป็นห่วงสุขภาพของคุณ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง"

"ขอบคุณค่ะ แต่ฉันไม่ต้องการ" เธอไม่ต้องการความห่วงใยจอมปลอมของเขา และยิ่งไม่ต้องการความเวทนาจากเขาในเวลานี้

จินต์จุฑายังคงรักษาใบหน้าอันเย็นชา เธอหันหลังเปิดประตูห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวออกไป ก็รู้สึกถึงแรงบีบที่ข้อมือ ธนวัฒน์คว้ามือเธอไว้จากด้านหลัง

สัมผัสอุ่นๆ ที่ข้อมือทำให้หัวใจของเธอสั่นไหว แต่ประโยคถัดมาที่แสนเย็นชาของธนวัฒน์กลับเหมือนมีดดาบที่แทงทะลุหัวใจเธออย่างแม่นยำ

"ใบหย่าจะเซ็นเมื่อไหร่?"

จินต์จุฑาสลัดมือออกจากการเกาะกุมของเขาอย่างแรง เงยหน้าสบสายตาอันเย็นชาของเขา

"ฉันจะเซ็นค่ะ แต่คุณธนวัฒน์คะ คุณแน่ใจเหรอว่าจะคุยเรื่องหย่ากันในบ้านของคนอื่น?" เสียงของเธอเบาหวิวและราบเรียบ แต่น้ำเสียงนั้นเหมือนกำลังพยายามเกลี้ยกล่อมตัวเอง

ธนวัฒน์ชะงักไปครู่หนึ่ง เหมือนเพิ่งตระหนักได้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ควรคุยเรื่องหย่าจริงๆ แต่พอได้ยินจินต์จุฑายอมรับเรื่องหย่าด้วยตัวเอง ความรู้สึกอึดอัดหนักอึ้งในใจก็หวนกลับมาอีกครั้ง

"ก็ดี... อีกอย่าง กินข้าวเสร็จแล้วไปตรวจที่โรงพยาบาลซะ" ธนวัฒน์พูดจบก็เดินนำออกไปก่อน

จินต์จุฑากำชายเสื้อแน่น เขาให้เธอไปตรวจที่โรงพยาบาล หรือว่าเขาสงสัยอะไร? ไม่ได้การ เรื่องที่เธอท้องจะให้ธนวัฒน์รู้ไม่ได้เด็ดขาด

ขณะที่เธอกำลังคิดหาข้ออ้างที่จะไม่ไปโรงพยาบาล ญาณิดาก็โผล่มาขวางหน้าเธอไว้เสียก่อน

"พี่คะ หน้าซีดจังเลย คงไม่ได้ท้องหรอกใช่มั้ย?" ญาณิดานั่งกอดอกอยู่บนรถเข็น จ้องมองจินต์จุฑาด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

จินต์จุฑาหนังตากระตุก แต่ก็ปรับสีหน้าให้กลับมานิ่งสงบได้อย่างรวดเร็ว

"ฉันแต่งงานแล้ว ถ้าจะท้องก็ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายอะไร หรือว่าเธอ... กลัวฉันท้องเหรอ?" เธอแค่นหัวเราะ ก่อนจะตอกกลับอย่างเจ็บแสบ

ก่อนหน้านี้ญาณิดายังระแวงว่าจินต์จุฑาอาจจะท้อง แต่พอเห็นท่าทางข่มขวัญแบบนี้ เธอก็วางใจทันที จินต์จุฑาต้องไม่ท้องแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคนนิสัยอ่อนแอจนใครก็รังแกได้อย่างเธอ คงไม่กล้าพูดจาแบบนี้

"พี่คะ ไม่เจอกันสองปี พี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ" น้ำเสียงที่ดูผ่อนคลายลงของญาณิดาทำให้จินต์จุฑาเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น

"เธอนั่นแหละที่ไม่เปลี่ยนเลย ยังเหมือนแม่ของเธอไม่มีผิด ชอบวิ่งแจ้นไปเป็นมือที่สามของคนอื่น" จินต์จุฑารู้อยู่แก่ใจว่าคำพูดนี้ทำอะไรญาณิดาไม่ได้ เพราะทั้งแม่ทั้งลูกคู่นี้ต่างยึดถือคติที่ว่า 'คนที่ไม่ได้ถูกรักต่างหากคือมือที่สาม' แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะสวนกลับไป

และก็เป็นไปตามคาด ญาณิดายิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน จ้องมองจินต์จุฑาด้วยแววตาอำมหิต

"แย่งพี่วัฒน์ของฉันไปตั้งสองปี ตอนนี้ก็น่าจะได้เวลาคืนเจ้าของแล้วมั้ง?"

มือของจินต์จุฑาที่แนบอยู่ข้างลำตัวกำแน่น แต่ใบหน้ากลับยิ้มอย่างไม่ยี่หระ

"ญาณิดา ถ้าว่างนักก็ไปหาอ่านกฎหมายสมรสบ้างนะ อย่าว่าแต่ตอนนี้เขายังเป็นสามีของฉันเลย ต่อให้วันหน้าไม่ใช่แล้ว เขาก็เป็นแค่ผู้ชายมือสองที่ฉันใช้แล้ว เธอไม่นึกรังเกียจของเหลือเดนบ้างหรือไง"

ญาณิดาชะงักไป ดูเหมือนจะคาดไม่ถึงว่านังคนอ่อนแอขี้ขลาดในอดีต เดี๋ยวนี้จะกล้าพูดจาแบบนี้กับเธอ แววตาของเธอพลันมืดมนลง

"เหรอคะ? ในเมื่อพี่มองไม่เห็นค่าพี่วัฒน์ขนาดนั้น งั้นฉันจะช่วยสงเคราะห์ให้ พี่ลองทายดูสิว่า... เดี๋ยวพี่วัฒน์เขาจะเชื่อฉัน หรือเชื่อพี่?"

จินต์จุฑายังฟังไม่ทันจบประโยค ก็รู้สึกว่าข้อมือถูกคว้าไว้อย่างแรง ญาณิดาอาศัยแรงของเธอยันตัวลุกขึ้นยืน แล้วจู่ๆ ก็วางมือทั้งสองข้างลงบนไหล่ของจินต์จุฑา

"พี่คะ! ฟังหนูอธิบายก่อน หนูไม่ได้อ่อยพี่วัฒน์จริงๆ นะคะ!"

ญาณิดาตะโกนเสียงดังลั่น แสร้งทำท่าทางเหมือนได้รับความอยุติธรรม จินต์จุฑายังไม่ทันเข้าใจว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร

เพียงแค่เธอขมวดคิ้วและถอยหลังไปก้าวหนึ่งตามสัญชาตญาณ ญาณิดาก็ปล่อยมือจากไหล่ของเธอ แล้วทิ้งตัวลงไปกองกับพื้นทันที

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก จนจินต์จุฑาไม่มีเวลาได้ไตร่ตรอง

"พี่คะ หนูผิดไปแล้ว หนูไม่กล้าแล้วค่ะ พี่อย่าตบหนูเลย" ญาณิดามองจินต์จุฑาด้วยความหวาดกลัวสุดขีด บรรดาคนที่วิ่งตามเสียงมาดู ภาพที่เห็นคือจินต์จุฑายืนมองอย่างเย็นชา ในขณะที่ญาณิดานอนร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่บนพื้น

ชัดเจนว่าตัวต้นเหตุคือจินต์จุฑา

"จินต์จุฑา! คุณทำบ้าอะไรลงไป?" ธนวัฒน์เป็นคนแรกที่พุ่งเข้ามา ตวาดถามเสียงดังด้วยความโกรธจัด

มาถึงขั้นนี้แล้วถ้าจินต์จุฑายังดูไม่ออกว่าญาณิดาเล่นละครตบตา เธอก็คงโง่เต็มที เธอยืนมองการแสดงของญาณิดาด้วยสายตาเย็นชา นึกอยากจะวิจารณ์สักหน่อยว่าการแสดงนี้มันดูปลอมเปลือกเกินไป

"จินต์! ยัยญาณิดาไปทำอะไรให้เธอ? ขาลูกฉันเจ็บอยู่ระหว่างพักฟื้น เธอทำร้ายลูกฉันลงคอได้ยังไง?" อัญมณีที่รักษาภาพพจน์คุณนายผู้ดีมาตลอดทั้งคืน ตอนนี้น้ำเสียงแทบอยากจะกินเลือดกินเนื้อเธอ

"คุณแม่... พี่วัฒน์... เป็นความผิดของหนูเองค่ะ หนูไม่ควรทำให้พี่จินต์โกรธ หนูแค่ถามไถ่พี่เขาด้วยความเป็นห่วง ไม่คิดว่าพี่จินต์จะกระชากหนูลงจากรถเข็น แล้วยัง... ยังหาว่าหนูอ่อยพี่วัฒน์อีก" ญาณิดาในตอนนี้ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของธนวัฒน์ ฟ้องร้องกล่าวหาจินต์จุฑาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

"จินต์จุฑา ดูสิ่งที่คุณทำสิ ถ้าญาณิดาเป็นอะไรไป ผมไม่เอาคุณไว้แน่" สีหน้าเจ็บปวดใจที่ธนวัฒน์มีต่อญาณิดา ทำให้เธอรู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจ

เขาไม่แม้แต่จะถามไถ่สักคำ แต่กลับเลือกที่จะเชื่อคำพูดของญาณิดาทันที เมื่อนึกถึงคำพูดที่เพิ่งพูดใส่หน้าญาณิดาไปเมื่อกี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นตัวตลกที่น่าสมเพชเสียจริง

"ขอโทษญาณิดาเดี๋ยวนี้" ธนวัฒน์มองเธอด้วยความรำคาญใจอย่างที่สุด

จินต์จุฑาแค่นยิ้มออกมาบางๆ บางทีความเสียใจที่มากที่สุดคือความตายด้านของหัวใจ มันคงรู้สึกแบบนี้นี่เอง

"อยากให้ฉันขอโทษ ได้สิคะ" จินต์จุฑาก้าวเข้าไปหาญาณิดาทีละก้าว

ญาณิดาถูกพยุงให้ลุกขึ้นแล้ว แต่ยังคงอิงแอบอยู่ในอ้อมกอดของธนวัฒน์

บทก่อนหน้า
บทถัดไป