บทที่ 1 ซ่อนเงาสวาท บทที่ 1
ซ่อนเงาสวาท
คริสเตียน คาร์ล นายทหารหนุ่มแห่งกองทัพเยอรมันรับคำกับมารดาว่าจะมาตามหาน้องสาวบุญธรรมของเขากลับบ้านหลังจากบิดาเสียชีวิต
แต่เขากลับได้พบกับคุณหมอสาว มัทรี คาร์ล
ในคลีนิคแห่งหนึ่งกลางกรุงปารีส
เขาจำได้ว่าเธอคือ คารีน่า
เด็กผู้หญิงที่เขาเคยตั้งแง่ไม่ชอบตั้งแต่เล็ก ๆ
ทว่าวันนี้เธอกลายเป็นสาวสวยสะพรั่ง
และกว่าจะรู้ตัว
เขาก็ตกหลุมรักน้องสาวบุญธรรมของตัวเองเสียแล้ว
บทที่ 1
“คุณหมอคะ...มีคนไข้มาขอพบคุณหมอค่ะ”
เสียงของอลานา ผู้ช่วยแพทย์สาวรูปร่างสูงโปร่งและมีเรือนผมสีทองเงางามดังขึ้นพร้อมประตูที่ถูกผลักเข้ามาภายในห้องของคุณหมอสาวในชุดกระโปรงสีหวานซึ่งถอดชุดกาวน์ออกเพื่อเตรียมตัวที่จะกลับไปยังอพาร์ตเมนต์ของเธอซึ่งอยู่ริมแม่น้ำแซน ประเทศฝรั่งเศส
“ใครมาตอนนี้น่ะ อลานา?”
มัทรีย่นคิ้วขณะก้มลงมองหน้าปัดนาฬิกาฝังเพชรของเธอซึ่งบอกเวลาจวนทุ่ม วันนี้เธอต้องการปิดคลีนิคเร็วกกว่าปกติเพราะอยากพักผ่อนหลังจากกรำงานหนักทั้งตรวจคนไข้และรู้สึกไม่ค่อยสบายมาหลายวัน
“เขาบอกว่ามีธุระด่วนมาก ต้องการพบคุณหมอค่ะ ฉันบอกเขาไปแล้วว่าเรากำลังจะปิดคลินิกแต่เขาก็ยังไม่ยอมกลับค่ะ”
อลานามีท่าทีลังเลขณะหันกลับไปมองยังห้องด้านนอก มัทรีเห็นว่าผู้ช่วยของเธอก็คงอยากกลับบ้านเร็ว ๆ เหมือนกัน หญิงสาวจึงกล่าวอย่างเสียมิได้ว่า
“ให้เขาเข้ามาก็ได้อลานา...ส่วนเธอจะกลับบ้านก่อนก็ได้นะ...อ้อ!
อย่าลืมติดป้ายหน้าคลินิกด้วยล่ะว่าเปิดบริการพรุ่งนี้”
อลานาพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะถอยหลังกลับไปในขณะที่มัทรีถอนหายใจเบา ๆ และวางกระเป๋าสะพายที่เธอเตรียมไว้เพื่อจะกลับบ้านลงบนโต๊ะอีกครั้ง เข็มนาฬิกาบนโต๊ะบอกเวลาไม่ต่างจากนาฬิกาข้อมือของเธอ หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมและบีบคลึงต้นคอตัวเองพร้อมทั้งโคลงศีรษะไปมาก่อนจะรู้สึกว่าประตูห้องถูกผลักเข้ามาเบา ๆ พร้อมกับร่างของใครคนหนึ่งซึ่งหญิงสาวรู้สึกคุ้นมากทีเดียว
“สวัสดีครับ คุณหมอมัทรี คาร์ล”
เสียงทุ้มลึกแต่กังวานและฟังดูมีอำนาจนั้นสะกดความรู้สึกของคุณหมอสาวให้นิ่งชะงักไปชั่วครู่ มัทรีขยับนั่งหลังตรงและเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงใหญ่ที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องชัด ๆ
เธอคุ้นตากับเจ้าของร่างสูงในชุดลำลองซึ่งเป็นเสื้อยืดพอดีตัวขับเน้นให้เห็นโครงสร้างของร่างกายบึกบึนเต็มไปด้วยมัดกล้ามชัดเจน อีกทั้งโครงหน้าคมเข้มหล่อเหลา เหมือนเธอเคยเห็นเขาจากที่ไหนสักแห่ง
“สวัสดีค่ะ...ชะ...เชิญนั่งซีคะ”
เสียงหวานเหมือนแห้งหายไปในลำคอแห้งผาก หญิงสาวเกิดอาการเหมือนร่างกายขาดน้ำขึ้นมากะทันหัน ก็แค่ผู้ชายหน้าตาดีและรูปร่างสูงบึกบึนคนหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากเขาไม่ใช่คนที่เธอเคยรู้จักมาก่อน มัทรีนิ่งนึกในใจและแสร้งทำเหมือนว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่สบายจนต้องรีบเข้ามาในคลีนิคเพื่อให้เธอรักษาเขาด่วน
“เอ้อ...ผู้ช่วยของฉันคงบอกคุณแล้ว คือจริง ๆ แล้วเรากำลังจะปิดคลินิก”
“ผมทราบครับ” เขากล่าวสั้น ๆ และหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามเธอ
“แต่ผมรู้สึกไม่สบายมากจนไม่สามารถจะกลับไปได้ตอนนี้”
“โอเคค่ะ” มัทรีหยิบแบบฟอร์มบันทึกประวัติคนไข้และปากกามาเตรียมพร้อม มือของเธอเย็นเยียบ เธอเองที่ให้อลานา ผู้ช่วยกลับไปก่อน ฉะนั้นแล้วงานบันทึกประวัติผู้ป่วยและซักอาการเบื้องต้นจึงต้องตกเป็นของเธอโดยปริยาย คุณหมอสาวเหลือบแลผู้ป่วยของเธอซึ่งใบหน้าหล่อเหลาของเขาไม่ได้ซีดเซียวหรือแสดงให้เห็นอาการอ่อนเพลียอย่างคนไข้ทั่วไปแต่อย่างใด
“ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ?”
“คริสเตียน คาร์ล...ผมรู้ว่าคุณหมอคงทราบชื่อของผมดีอยู่แล้ว”
คำตอบนั้นทำให้คุณหมอสาวหยุดชะงัก มือที่กำลังจับปากกาและจรดลงบนแบบฟอร์มเย็นเฉียบยิ่งกว่าเดิม ความรู้สึกสับสนใจวิ่งเข้าจู่โจมเธอโดยไม่ทันตั้งตัวและดูเหมือนชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอจะสังเกตอาการนั้นได้อย่างชัดเจน
“และพี่ก็แน่ใจว่าเรามีนามสกุลเดียวกัน...ใช่มั้ย คารีน่า”
ประโยคต่อมาทำให้ปากการ่วงหล่นจากมือเรียวบาง มัทรีเงยหน้ามองเขาชัด ๆ อีกครั้ง ทำไมเธอจะจดจำเขาไม่ได้ ในเมื่อผู้ชายคนนี้คือ คริสเตียน คาร์ล บุตรชายคนเดียวของอดีตนายพลแห่งกองทัพเยอรมัน อัลเฟรด คาร์ล ผู้ซึ่งรับเลี้ยงเธอเป็นบุตรบุญธรรมและคริสเตียนก็มีศักดิ์เป็นพี่ชายของเธอตามกฎหมาย
“ขอโทษด้วยนะคะ...ฉันเกือบจำพี่ไม่ได้” มัทรีแตะขมับด้วยปลายนิ้วและแสร้งทำเหมือนเธอจำเขาไม่ได้จริง ๆ ทั้งที่เธอใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของเขา และเห็นเขาครั้งสุดท้ายที่งานศพของพ่อบุญธรรมโดยที่เธอพยายามออกห่าง ไม่ให้เขาเห็นว่าเธออยู่ที่นั้นด้วย
“พี่ก็เกือบจะจำเธอไม่ได้คารีน่า ถ้าพี่ไม่รู้มาก่อนว่าเธอยังใช้นามสกุลเดียวกับพี่”
มัทรีประสานมือเรียวบางบนโต๊ะ ท่าทีของเธอประหม่าและไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแต่อย่างใดแม้จะรู้ว่าพี่ชายของเธอซึ่งเป็นบุตรชายคนเดียวของพ่อแม่บุญธรรมจะนั่งอยู่ตรงหน้าในตอนนี้
อัลเฟรด คาร์ล รับมัทรีมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในกรุงเบอร์ลินตั้งแต่เธออายุได้สามขวบ เขาไม่มีลูกสาวและถูกชะตาเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบในสถานที่แห่งนั้น คนในบ้านของอัลเฟรดเรียกเธอว่า คารีน่า ทุกคนให้ความรักและเอ็นดูเธอในฐานะสมาชิกใหม่ของบ้านยกเว้นคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ค่อยพูดจาและมักแสดงท่าทางเหมือนไม่ชอบเธอเอาเสียเลย
