บทที่ 1 คนที่ไม่มีใครต้องการ (30%)

สุขุมวิท ซอย 29 กรุงเทพมหานคร

ภายในอาณาจักรของคฤหาสน์บวรเกียรติกัมปนาท

โรฮันนา บวรเกียรติกัมปนาท หญิงสาวร่างเล็ก บอบบาง น่าทะนุถนอม ใบหน้าเรียวสวยผุดผาดได้รูปรับกับจมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อน่าสนิทเสน่หา คางมนกลมกลึง ผิวขาวอมชมพูราวกลีบซากุระแรกแย้ม และผมซอยสั้นรับท้ายทอยสวย ทุกสิ่งอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเธอดูงดงามเฉกเช่นประติมากรรมชิ้นเอกที่เกิดจากศิลปินฝีมือชั้นยอดของโลก ถึงแม้ว่าเรือนร่างงดงามจะถูกปกคลุมด้วยเสื้อผ้าราคาถูก แต่ความงดงามเหล่านั้นก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง มีแต่จะเปล่งรัศมีออกมาจนทำให้อาภรณ์ที่เธอสวมใส่ดูมีค่ามีราคาขึ้นมา

สาวน้อยหน้าหวานปานมธุรสแต่นัยน์ตาแสนเศร้ากำลังนั่งแกว่งไกวชิงช้า ปล่อยให้สายลมเย็นฉ่ำในยามย่ำสนธยาพัดมาปะทะใบหน้าแฉล้ม จนผมสั้นแต่ทว่าสลวยดุจแพรไหมปลิวไสวไปตามแรงลม สมองหวนคิดย้อนวันเวลาไปถึงเรื่องราวเมื่อครั้งยังเยาว์ อยู่หน้าเรือนหลังเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ หนึ่งในปัจจัยสี่ที่สามารถการันตีถึงฐานะของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี

คฤหาสน์บวรเกียรติกัมปนาทตั้งอยู่ในเขตทำเลทองของแผ่นดินสยาม ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างขวางกินพื้นที่กว่าห้าไร่ ภายในบ้านหลังใหญ่แห่งนี้ เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตกแต่งอยู่ภายในจึงอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ มันทั้งดูโอ่อ่า หรูหรา วิจิตรตระการตา สวยงามและภูมิฐาน เหมาะสมกับฐานะและบารมีของผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง

ตระกูลบวรเกียรติกัมปนาทเป็นตระกูลผู้ดีเก่าที่มีพื้นเพดั้งเดิมอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย เดิมทีพ่อของเธอเป็นนายหัวสวนยางพารานับร้อยไร่ แต่เนื่องจากภาคใต้ประสบปัญหาทั้งภัยธรรมชาติ และการก่อการร้ายไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้ประมุขของบ้าน ซึ่งก็คือนายอนัน บวรเกียรติกัมปนาท ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานเข้ามาตั้งรกรากอยู่ในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว

นายอนันเริ่มจับธุรกิจส่งออกผ้าไหมของไทย ที่ทั้งคุณภาพดี งานฝีมือประณีต โดยการเฟ้นหาผ้าไหมดีๆ ของแต่ละภาคมาเป็นจุดขายของทางบริษัท ทำธุรกิจส่งออกผ้าไหมไปยังประเทศต่างๆ ในแถบยุโรปและอเมริกากว่ายี่สิบประเทศ และในเร็วๆ นี้ยังวางแผนว่าจะนำสินค้าเข้าไปบุกตลาดของประเทศในแถบตะวันออกกลาง

จากที่ตระกูลร่ำรวยและมีชื่อเสียงอยู่แล้ว เมื่อจับธุรกิจมาถูกทางยิ่งทำให้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลโด่งดังเป็นที่โจษจันไปทั่วในวงสังคม จนเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศและต่างประเทศ ผู้คนทั้งหลายต่างก็ให้ความนับหน้าถือตาและเกรงขามคนในตระกูลนี้กันทั้งนั้น ฉะนั้นจะเรียกว่าช่วงนั้นเป็นยุคความเจริญรุ่งเรืองหรือยุคทองของประมุขตระกูลบวรเกียรติกัมปนาทก็คงจะไม่ผิด เพราะเขาจับอะไรก็ดูเหมือนจะมีค่าและเป็นเงินเป็นทองไปซะหมด

แต่มีความลับอยู่สิ่งหนึ่งที่คนอื่นไม่ได้ล่วงรู้เกี่ยวกับตระกูลนี้ และประมุขของตระกูลไม่มีวันให้ผู้ใดได้รับรู้ นั่นก็คือเขาไม่ได้มีลูกสาวคนเดียวอย่างที่บอกใครต่อใคร คนทั่วไปต่างก็คิดว่าเขามีลูกสาวเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นทายาทของตระกูลบวรเกียรติกัมปนาท นั่นก็คือลัยลา บวรเกียรติกัมปนาท คุณหนูผู้เลอโฉม งดงามและมีความโดดเด่นในทุกๆ ด้าน เหนือกว่าคนอื่น

อันที่จริงแล้วนายอนันมีลูกสาวฝาแฝดอีกหนึ่งคน เธอชื่อโรฮันนา บวรเกียรติกัมปนาท เป็นแฝดผู้น้องของลัยลา ทั้งสองอายุยี่สิบเจ็ดปีเท่ากัน สองสาวเหมือนกันทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นเค้าโครงรูปหน้า คิ้ว จมูก ปากและตา แต่สิ่งที่สองสาวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงคือนิสัยใจคอ โรฮันนาจะเป็นสาวน้อยแสนหวาน เรียบร้อย น่ารักและเก็บเนื้อเก็บตัว ส่วนลัยลาจะเป็นสาวมั่นเปรี้ยวเข็ดฟัน ชอบเข้าสังคม ขี้วีน ขี้เหวี่ยงและเอาแต่ใจ ตามประสาคุณหนูคนเดียวของบ้าน

ที่นายอนันเกลียดลูกสาวคนเล็กก็เพราะว่ามารดาของทั้งสองตายตอนคลอด วันที่ทั้งสองลืมตาขึ้นมาดูโลกคือวันที่มารดาได้จากไป ซึ่งนายอนันโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของโรฮันนา เหตุก็เพราะว่าเมื่อตอนใกล้คลอดทารกทั้งสองมีภาวะ TT TS (Twin to Twin Transfusion Syndrome) คือมีเลือดวิ่งถ่ายเทระหว่างเด็กในครรภ์ด้วยกัน โดยคนหนึ่งให้อีกคนรับ เป็นภาวะที่เส้นเลือดมาต่อกันโดยบังเอิญ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือคนที่ให้ก็จะไม่โตสักที ส่วนคนที่รับก็จะอ้วนท้วนสมบูรณ์

ซึ่งในกรณีนี้คนที่ให้คือลัยลา แต่เนื่องจากภาวะนี้มาเกิดในช่วงที่อายุครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว จึงทำให้ลัยลาโตตามปกติของทารกทั่วไป ไม่มีปัญหาแคระแกรนเกิดขึ้น แต่โรฮันนากลับโตกว่าปกติมาก นั่นก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการได้รับเลือดที่พี่สาวถ่ายเทมาให้บวกกับการเจริญเติบโตตามอายุครรภ์ นี่จึงเป็นปัจจัยให้มารดาคลอดยาก หลังจากคลอดโรฮันนามารดาก็ตกเลือดขั้นรุนแรง เพราะมดลูกถูกยืดและขยายออกมากจนไม่สามารถหดรัดตัว ส่งผลให้ไม่สามารถห้ามเลือดที่ไหลออกมาได้ แม้ว่าหมอจะพยายามใช้ยาห้ามเลือดเข้าช่วยก็ไม่เป็นผล สุดท้ายผู้เป็นมารดาก็จากไปทั้งที่ยังไม่ได้มองหน้าลูกน้อยทั้งสองเลยด้วยซ้ำ

เมื่อนายอนันมองเห็นหน้าของโรฮันนาทีไร เขาก็จะระลึกถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้น เหมือนว่ามันเพิ่งจะเกิดขึ้น ทำให้เขาเกลียดขี้หน้าลูกสาวคนเล็กของตัวเอง ด้วยเหตุผลที่ไม่สมควรนั้นด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นโรฮันนาจึงอยู่อย่างไร้ตัวตน ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ เป็นสมาชิกของครอบครัวคนหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นความสำคัญของเธอเลย สิ่งที่เธอได้จากตระกูลนี้มีเพียงนามสกุลที่ห้อยท้ายชื่อเท่านั้น แต่นั่นก็ดีมากแล้วสำหรับคนอาภัพอย่างโรฮันนา

พ่อไม่เคยต้องการเธอ ไม่แม้แต่จะพูดดีๆ ด้วยซักครั้ง ไม่สิท่านไม่อยากจะมองหน้าเธอเลยต่างหากล่ะ อาสาวและป้าแสดงท่าทีรังเกียจในตัวเธออย่างออกนอกหน้า เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องพูดจากระแนะกระแหน ไม่ก็ขับไล่ไปให้ไกลหูไกลตาราวกับทนเห็นหน้าเธอแม้แต่เสี้ยววินาทีไม่ไหว ส่วนพี่สาวคนสวยก็เสแสร้งแกล้งทำดีต่อหน้าคนอื่น แต่ลับหลังกลับกลั่นแกล้งสารพัด

โรฮันนาจึงเหมือนคนที่เกิดมาโชคร้ายและอาภัพ กำพร้าแม่ตั้งแต่ยังแบเบาะ พ่อไม่รักและไม่เป็นที่ต้องการของคนในบ้าน หากไม่มีนมช้อยที่คอยเลี้ยงดูอุ้มชูเธอมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต เธอก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตเป็นเช่นไร จะรอดมาถึงทุกวันนี้หรือไม่ ดังนั้นนมช้อยจึงเปรียบเสมือนครอบครัวและที่พึ่งพิงทั้งทางกายและใจที่หญิงสาวยังคงหลงเหลืออยู่

คนที่คอยอยู่เคียงข้างโรฮันนามาตลอดก็มีแต่นมช้อยนี่แหละ นางไม่เคยรังเกียจในตัวนายสาวเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามนางกลับรู้สึกสงสารในโชคชะตาของโรฮันนา สิ่งที่นางมีให้สาวน้อยผู้น่าสงสารมีเพียงความรักความเอ็นดูประดุจดั่งลูกในไส้

บทถัดไป