บทที่ 4 บ่อเกิดแห่งความแค้น (30%)

คฤหาสน์มิโลสลาฟ เมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ร่างผึ่งผายของเบอนันเดส มิโลสลาฟ มหาเศรษฐีหนุ่มใหญ่ วัยสามสิบเจ็ดปี เจ้าของฟาร์มปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์และแอฟริกา ผู้กุมบังเหียนบริษัทจำหน่ายและส่งออกอาหารสัตว์รายใหญ่ที่สุดในโลก มือหนากำลังสาละวนเปิดเอกสาร ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมากว่าห้าทุ่มครึ่งแล้ว ชายหนุ่มก็ยังนั่งทำงานที่ค้างคาอยู่ภายในห้องนอนอย่างขะมักเขม้น และขณะนี้เขาก็กำลังปวดหัวกับตัวเลขในบัญชีของแผนกการตลาดอยู่ สงสัยว่าทำไมทางแผนกถึงใช้เงินเยอะนักในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา

ช่วงนี้เบอนันเดสงานยุ่งมากจนแทบไม่มีเวลาปลีกตัวไปไหน เพราะใกล้ปลายปีจะมีการเช็กยอดขายและเช็กคุณภาพผลิตภัณฑ์ แล้วไหนยังจะต้องบินไปตรวจการดำเนินการขยายฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในแอฟริกาอีก ภาระอันหนักอึ้งเหล่านี้จะถูกแบ่งเบาไปบ้างไม่มากก็น้อย เมื่อน้องชายเพียงคนเดียวจบการศึกษาในไม่ช้านี้ น้องชายคือความภาคภูมิใจสูงสุดของเขา

เฟรดเดอริค มิโลสลาฟ หรือเฟรด หนุ่มหน้าใสวัยยี่สิบเจ็ดปี ผู้เงียบขรึม ชอบเก็บเนื้อเก็บตัว ขี้อายและพูดน้อย นิสัยต่างกับพี่ชายราวฟ้ากับเหว แต่เขาก็เป็นที่รักของคนที่ได้รู้จัก เพราะชายหนุ่มเป็นคนง่ายๆ ไม่ค่อยชอบขัดใจใคร

น้องชายเขากำลังจะเรียนจบ ซึ่งฝ่ายนั้นก็แจ้งความจำนงมาแล้วว่าจะเข้ามาบริหารงานช่วยเขาหลังจากสำเร็จการศึกษาทันที ขณะนี้เฟรดเดอริคกำลังเรียนปริญญาเอกด้านการเกษตร เป็นจอมอัฉริยะ เรียนเก่ง สมองดี และจะได้รับเกียรตินิยมเหรียญทองในงานรับปริญญาบัตรครั้งนี้ แค่คิดว่าอีกไม่นานน้องชายก็จะมาอยู่ใกล้ๆ เบอนันเดสก็ยิ้มออกมาอย่างสุขใจ

ผลัวะ!!!

ขณะที่กำลังนั่งตรวจเช็กบัญชีอย่างเคร่งเครียด เดรค แมนเดอลัส เลขาหนุ่มและมือขวาคนสำคัญก็เปิดประตูเข้ามาเสียงดัง โดยไม่เคาะขออนุญาตเช่นคนมีมารยาท

“นายครับ! แย่แล้วครับ!” น้ำเสียงของผู้มาใหม่ดูแตกตื่นและร้อนรน เหงื่อโชกใบหน้า

เจ้าของห้องยังคงก้มหน้าก้มตาสนใจงานที่ค้างคา สักพักถึงได้เงยหน้าขึ้นมาถามคนมาขัดจังหวะและสมาธิในการทำงานด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง แสนจะหงุดหงิดไม่พอใจที่ลูกน้องทำเอะอะเสียงดัง

“ไอ้เดรค แกมีเรื่องอะไร ถึงได้บุกเข้าห้องฉันในเวลานี้”

“ขอโทษครับนาย แต่ผมมีเรื่องด่วนจะแจ้งนายครับ” เลขาหนุ่มรีบละล่ำละลักขอโทษเจ้านายจอมโหด เพราะเขารู้ดีว่าสิ่งที่ตนทำลงไปมันเป็นการเสียมารยาทมากแค่ไหน แต่เดรคก็ไม่อาจทำใจเย็นกับข่าวที่เพิ่งได้รับรู้มา

“มีอะไรก็รีบว่ามา” เสียงแข็งเอ่ยเป็นเชิงเปิดทาง

“ทางมหาวิทยาลัยของนายน้อยโทรมาแจ้งว่า นายน้อย เอ่อ…” เดรคทำเสียงตะกุกตะกัก จนเบอนันเดสชักรำคาญ จะพูดอะไรก็ไม่พูดเอาแต่อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ได้

ปัง!...

พ่อหนุ่มเลือดร้อนทุบโต๊ะดังปังจนคนที่เอาข่าวมาบอกนายถึงกับสะดุ้งสุดตัว

“เฟรดเดอริคเป็นอะไร มัวแต่เอ่ออ่าอยู่ได้ พูดมาซะทีสิโว้ยไอ้เดรค!” เขาตวาดลั่นใส่หน้าเลขาหนุ่มด้วยความร้อนใจ เพียงแค่เห็นสีหน้าและท่าทางของผู้มาแจ้งข่าวเกี่ยวกับน้องชาย คนฉลาดอย่างเบอนันเดสก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเฟรดเดอริคอย่างแน่นอน

“นายน้อยกินยาฆ่าตัวตาย ตอนนี้อยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาล…” เดรคบอกเจ้านายด้วยความยากลำบากเพราะเขาโดนเบอนันเดสกระชากคอเสื้อแน่น

“ไปบอกคนเอารถออก เดี๋ยวนี้!” ได้ยินดังนั้นเบอนันเดสถึงกับเบิกตากว้าง ตัวแข็งทื่อ หายใจไม่ทั่วท้องไปชั่วขณะ รีบสั่งงานลูกน้องอย่างเร่งด่วน ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับชีวิตของน้องชายอันเป็นที่รักแล้ว เขาต้องการไปให้ถึงโรงพยาบาลแห่งนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ร่างสูงใหญ่รีบวิ่งกระหืดกระหอบไปหาน้องชายยังห้องไอซียูทันที หมอไม่ให้เข้าไปเขาก็ไม่ยอม ตวาดลั่นไปทั้งโรงพยาบาล จนหมอและพยาบาลไม่อาจจะทัดทานได้อีกต่อไป

ร่างใหญ่แทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น หัวใจของผู้เป็นพี่ชายแทบขาดรอนๆ เมื่อเห็นร่างน้องชายนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงคนไข้

“เฟรด…พี่มาแล้วเฟรด นายต้องไม่เป็นอะไรนะ” เบอนันเดสจับมือน้องชายไว้แน่น น้ำตาไหลพรากโดยไม่อายสายตาใคร เห็นสภาพของน้องชายในตอนนี้แล้วเขาแทบจะทนดูไม่ได้ อะไรหรือใครกันหนอที่ทำให้เฟรดเดอริคผู้แสนดีคิดจะจบชีวิตลงเช่นนี้ ทั้งที่น้องชายของเขาก็ไม่ใช่คนเก็บกด จะว่าเรียนหนักไปก็คงไม่ใช่

“ทำไมนายต้องทำอย่างนี้ด้วยเฟรด บอกพี่ซิว่าทำไมนายถึงกินยาฆ่าตัวตาย” ปากสั่นเอ่ยถามเหตุผลจากน้องชาย น้ำตาเม็ดโตไหลอาบลงมาตามร่องแก้มคร้ามคมไม่ขาดหาย

“พะ…พี่เบิร์น ผะ…ผมขอโทษ” เฟรดเดอริคปรือตาขึ้นมามองหน้าพี่ชาย เมื่อหูแว่วได้ยินเสียงอันคุ้นเคยเรียกชื่อของตน ละล่ำละลักพร่ำขอโทษด้วยเสียงสั่นจนแทบไม่เป็นภาษา ปากสะท้านไหว ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความเสียใจเมื่อเห็นสายตาเจ็บปวดที่เบอนันเดสส่งมาให้ เขาคงทำให้พี่ชายเสียใจมากมายมหาศาล ไม่งั้นคนเข้มแข็งอย่างเบอนันเดสคงไม่ร้องไห้ออกมาให้เห็นแบบนี้

“ทำไมนายต้องทำร้ายตัวเองอย่างนี้ ทำไม ทำไม บอกพี่ซิว่าทำไม” เขาก้มลงกอดร่างน้องชายไว้แน่น แล้วตะโกนถามด้วยความอัดอั้นตันใจ

“ผะ…ผมอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเธอ” เจ้าของเสียงแผ่วบอกทั้งน้ำตา

เมื่อคิดถึงลัยลาเฟรดเดอริคก็รู้สึกทั้งรักทั้งแค้นเธอพอกัน เขามันโง่ที่โดนเธอหลอกอย่างกับควาย เธอทำให้เขาทั้งรักและหลงจนโงหัวไม่ขึ้น เพียงเพราะต้องการใช้เขาเป็นสะพานทอดผ่านไปสู่ความสำเร็จ พอได้สมใจแล้วเธอก็เฉดหัวเขาทิ้งอย่างกับหมูกับหมา

“ใคร! เธอเป็นใคร! บอกพี่มาเดี๋ยวนี้! ผู้หญิงคนนั้นมันเป็นใคร! พี่จะไปฆ่ามัน!” เบอนันเดสเขย่าร่างที่ใกล้จะไร้สติแล้วถามด้วยความเดือดดาลว่าหญิงสาวที่น้องชายกล่าวถึงคือใคร เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าเธอเป็นใคร ทำไมถึงทำกับน้องชายเขาได้เลือดเย็นเพียงนี้ และที่สำคัญไปกว่าอะไร ผู้หญิงคนนั้นจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำไว้กับน้องชายของเขาอย่างสาสม

“ยะ…อย่านะครับพี่ อย่าทำอะไรลัยลา ผมรักเธอมาก”

เฟรดเดอริคแข็งใจห้ามปรามเสียงแผ่ว ทั้งที่ตัวเองจะตายเพราะน้ำมือของเธอ แต่เฟรดเดอริคก็ยังเป็นห่วงลัยลาอยู่ดี ยังคงปกป้องและเอ่ยห้ามไม่ให้พี่ชายทำร้ายเธอ เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารักสุดหัวใจและคงจะรักอย่างนี้ตลอดไป

บทก่อนหน้า
บทถัดไป