บทที่ 9 เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย (75%)
ตุ้บ!!!
ร่างเล็กถูกผลักเข้าไปในห้องด้วยความแรง พอเงยหน้าใช้สายตามองสำรวจไปรอบๆ ห้องอันมืดมิดหญิงสาวก็ตกใจหน้าซีด อยากจะเอ่ยขอร้องอ้อนวอนเขา แต่ก็ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น เพราะรู้ดีว่าถึงจะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดเขาก็คงไม่สงสาร แล้วจะไปเสียน้ำลายขอร้องคนไร้หัวใจอย่างเขาทำไมกัน
“เป็นไง ชอบใจจนอึ้งเลยหรือไง ฉันว่ามันเหมาะกับเธอดีนะ” เบอนันเดสพูดเสียงเยาะหยัน แล้วใช้สายตาคมปลาบมองตั้งแต่หัวจรดเท้าเธอด้วยความสมเพช
“ห้องนี้…คุณจะให้ฉันอยู่ห้องนี้จริงๆ เหรอคะ” โรฮันนาถามเสียงสั่นเหมือนจะทวนให้ตัวเองตระหนัก เมื่อเห็นสภาพห้องที่เธอจะต้องใช้หลับนอนตลอดช่วงเวลาที่ต้องทนเป็นเชลยอยู่ที่นี่
“ใช่ ห้องนี้แหละคือที่ซุกหัวนอนของเธอ ทำไม…คิดเหรอว่าจะได้กินอยู่อย่างเจ้าหญิง ฝันไปเถอะแม่คุณ” เขายังคงกระแนะกระแหนไม่เลิก
“ฉันอยู่ได้ค่ะ” เธอกลั้นใจตอบเสียงแผ่ว ไม่ว่าเขาจะสั่งให้ทำอะไรเธอก็รับคำอย่างเดียว เพราะไม่อยากโดนเขาทำร้ายหรือด่าสาดเสียเทเสียอีก ในเมื่อเขาอยากให้เธอเป็นเชลยอสูรอย่างเขานัก เธอก็จะยอมเป็นให้เขาทรมานจนสาแก่ใจ ประชดชีวิตอันโหดร้ายมันซะเลย
“อ้อ…อีกอย่างนะ ถ้าฉันกลับมาฟาร์มรอบหน้า เธอต้องไม่พูดสำเนียงบ้านนอกแบบนี้ให้ฉันได้ยินอีก ฟังแล้วมันรำคาญหู” จอมเผด็จการหันมาสั่งเสียงเข้มอย่างน่าหมั่นไส้ เอ่ยพาดพิงไปถึงสำเนียงภาษาอังกฤษที่ไม่ได้เรื่องของเธอ ดูเหมือนเธอทำอะไรก็ดูจะผิดไปหมดในสายตาเขา
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง ฉันพูดได้ดีสุดก็แค่นี้แหละ” ด้วยความที่เธอเรียนมาน้อยพูดได้เท่านี้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว เมื่อเหลืออดโรฮันนาก็ตะโกนใส่หน้าอีกฝ่าย คนไม่มีเหตุผล เรื่องแค่นี้ยังเอามันมาระรานเธอ
“แต่นี่คือคำสั่ง ถ้าฉันกลับมาที่นี่อีกครั้งในอาทิตย์หน้า เธอยังพูดสำเนียงบ้านนอกน่ารำคาญอยู่ฉันจะเลาะฟันเธอออกให้หมดปากเลยคอยดู” เบอนันเดสกระชากผมเธอแทบหลุดขาดติดมือ โมโหที่เธอกล้าตะคอกใส่ตน แล้วกัดฟันสั่งหญิงสาวด้วยแววตาขวางขุ่น
“คุณมันคนไม่มีเหตุผล! ไอ้อสูรใจร้าย! ฉันเกลียดคุณ! นมจ๋าช่วยหยีด้วย หยีไม่อยากอยู่ที่นี่ ฮือๆๆ” หญิงสาวรู้สึกอดสูจนต้องพึมพำเรียกหาแม่นมทั้งน้ำตา
“ไม่ต้องมาทำสำออย มานี่ฉันจะพาไปรู้จักกับผู้คุมของเธอ” ชายหนุ่มตะคอกใส่เสียงดังอีกตามเคย ฉุดกระชากลากดึงร่างบางออกมาจากห้องเก็บของด้วยท่าทางกระแทกกระทั้น ครั้นถึงที่หมายตรงลานโล่งก็ผลักหญิงสาวออกจากตัวด้วยท่าทางรังเกียจ
“อาเทอร์! อาเทอร์! มานี่หน่อยซิ!” สิงโตหนุ่มผู้ภักดีเมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นนายตะโกนเรียกก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาหาอย่างรู้ความ เมื่อนัยน์ตาเศร้าของหญิงสาวเหลือบเห็นสิงโตร่างยักษ์ตรงหน้าก็หวีดร้องออกมาสุดเสียง
“กรี๊ด!” สีหน้าแตกตื่นหวาดกลัวจนแทบช็อก ก่อนที่เธอจะวิ่งเข้าไปเกาะแขนแกร่งของเขาไว้แน่นอย่างลืมตัว จนชายหนุ่มต้องรีบผลักเธอออกเหมือนรังเกียจนักหนา มองหน้าหญิงสาวอย่างไม่พอใจ เธอจึงเดินไปแอบอยู่ข้างหลังเขาแทน
“มันชื่ออาเทอร์ ต่อแต่นี้ไปมันคือผู้คุมของเธอ” เบอนันเดสบุ้ยปากไปที่อาเทอร์ และแนะนำมันกับเธออย่างง่ายๆ โดยไม่สนใจปฏิกิริยาของคนกลัวหงอเลยสักนิด
“อาเทอร์นี่ลัยลา ฉันจะให้แกคอยดูเธออย่างใกล้ชิดเวลาทำงาน ห้ามให้หนีไปได้ เข้าใจไหม” เขาบอกอาเทอร์พร้อมทั้งออกคำสั่งในหน้าที่ที่มันจะต้องรับผิดชอบต่อเชลยของเขา อาเทอร์เอาคางบึกบึนไปถูไถแถวต้นขาของผู้เป็นนายราวกับจะบอกว่า
‘ได้เลยครับนาย คุมสาวสวยแบบนี้อาเทอร์ชอบ’
“ฉันไม่เอาผู้คุมได้ไหม ฉันกลัว” โรฮันนาส่ายหน้าคัดค้านคำสั่งของชายหนุ่ม เสียงสั่นระริกเอ่ยวิงวอนเขาด้วยความกลัวสุดขีด ใบหน้างามซีดเผือด เหงื่อเม็ดโตเริ่มผุดขึ้นตามหน้าผากมน
“ไม่ต้องกลัวไปหรอก มันไม่ทำอะไรเธอแน่ถ้าเธอไม่คิดหนี” เบอนันเดสไม่ได้ปลอบแต่แค่บอกกล่าวให้หญิงสาวได้รับรู้แกมขมขู่ เพราะอาเทอร์ไม่คิดทำร้ายใครหากมันผู้นั้นไม่แหกกฎที่เขาตั้งไว้
“อาเทอร์ไปทำความรู้จักกับเธอซะสิ”
เมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้านายสัตว์คู่ใจของเบอนันเดสก็เดินเยื้องย่างร่างองอาจเข้าหาโรฮันนาด้วยดวงตาแวววาว แล้วยื่นอุ้งเท้าออกไปหวังจะทักทายหญิงสาวตามที่นายสั่ง ขณะนัยน์ตากร้าวแกร่งจ้องมองโรฮันนาไม่ลดละ หากมันพูดได้คงจะบอกนายว่า
‘เธอทั้งสวยและน่ารัก นายยังกล้าทำกับเธอได้ลงคอ’
“ว้าย!” เมื่อได้ยินเสียงคำรามทักทายจากสิงโตร่างยักษ์โรฮันนาก็ผวาเฮือกตัวสั่นงันงก แล้วพยายามกระถดตัวหนีจากผู้คุมจำยอมของเธอ
“อะ…อาเทอร์จ๋า ฉันชื่อหยีนะ อย่ากินฉันนะ ฉันสัญญาว่าจะไม่คิดหนี” หญิงสาวยื่นมือออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ค่อยๆ ก่อนจะเข้าไปกอดรอบลำคอที่เต็มไปด้วยขนยาวสลวยของพ่อสิงโตหนุ่มผู้องอาจและน่าเกรงขาม แล้วพูดจาหวานหูประจบเอาใจ ด้วยหวาดกลัวสุดหัวใจว่ามันจะทำร้าย
ครั้นอาเทอร์ได้รับสัมผัสอบอุ่นและจริงใจ จากเพื่อนใหม่เช่นโรฮันนาก็เกิดอาการชอบพอทันที ยื่นลิ้นยาวที่เต็มไปด้วยน้ำลายมาเลียแก้มหญิงสาวเบาๆ อย่างเป็นมิตร ชายหนุ่มเห็นแล้วถึงกับส่ายหัว
สิงโตหนุ่มยื่นอุ้งเท้าให้หญิงสาว โรฮันนาได้แต่ทำท่าเลิกลั่กไม่เข้าใจในการกระทำของมัน จนชายหนุ่มต้องไขข้อสงสัยให้แต่ยังไม่วายเหน็บแนม
“มันอยากจับมือกับเธอ ทักทายมันหน่อยสิ มันไม่งาบเธอหรอก อาเทอร์ฉลาดพอ รู้ว่าอันไหนของดีอันไหนของเสีย”
คำสั่งของเขาทำให้หญิงสาวต้องจำใจส่งมือน้อยไปแตะอุ้งเท้าใหญ่ของอาเทอร์อย่างหวาดๆ
“ไอ้นี่ เห็นสาวหน่อยเป็นไม่ได้นะแก ไอ้สิงโตกะล่อน ทีหาสิงโตสาวๆ สวยๆ มาให้ผสมพันธุ์ดันไม่เอา” ผู้เป็นเจ้านายพูดจากระแนะกระแหนอาเทอร์ด้วยความหมั่นไส้ อยู่ๆ ก็เกิดอาการงอนสิงโตที่ตนลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออกซะอย่างนั้น จะไม่ให้เขาเคืองมันได้ยังไงกัน ตั้งแต่เห็นหน้ายัยปีศาจมันแทบจะไม่มองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ ทำตาวาวมองสาวเจ้ายกใหญ่ หนำซ้ำยังทำท่าคลอเคลียอย่างถูกอกถูกใจไม่ห่างกาย เห็นแล้วมันน่าเตะให้ซักป้าบสองป้าบนัก
“หากเธอคิดหนี ฉันอนุญาตให้แกขย้ำเนื้อหวานๆ ของเธอได้” เขาบอกอาเทอร์ให้ได้รับรู้ด้วยท่าทางจริงจังจนร่างบางสะดุ้งเฮือกไปกับคำขู่อันแสนน่ากลัว
“ฉะ…ฉันกลัวแล้ว ไม่หนีแน่นอน” คนขี้ตื่นถึงกับส่ายหน้าหวือ สีหน้าบอกว่ากลัวมันมากจริงๆ เบอนันเดสยิ้มที่มุมปาก ทีนี้แหละเธอได้ตายอยู่ที่นี่สมใจเขาแน่
“แต่หากแกพาเธอหนี แกจะถูกลงโทษอย่างสาสม เข้าใจไหม” ชายหนุ่มออกปากอนุญาตอาเทอร์อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่ก็ใช้สายตาดุปรามมันเป็นนัยว่า หากมันคิดจะช่วยเธอและพาเธอหนีมันจะถูกลงโทษไม่ใช่น้อย สิงโตแสนรู้คำรามขานรับคำสั่งของนายมันเสียงกังวาน
เสียงคำรามของอาเทอร์ประกอบกับเสียงเฉียบขาดของเจ้านาย ทำให้เชสที่กำลังเดินสำรวจคอกม้าอดไม่ได้ที่จะเดินมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
