บทที่ 14 Chapter 14
พราวฟ้าเดินลงมาชั้นล่างพร้อมรอยยิ้ม เธอทำตัวปกติ ไม่บอกเรื่องการตั้งครรภ์ให้ใครรู้ ความตั้งใจคือบอกปรินทร์เป็นคนแรก จากนั้นก็ไปฝากท้องที่โรงพยาบาลด้วยกัน เธอหวังว่าข่าวดีนี้จะทำให้ความเกลียดชัง ไม่ชอบหน้าที่อรุณมีต่อเธอลดน้อยลง ที่สำคัญที่สุด บุหงันต้องดีใจมากกว่าใคร เพราะเคยบ่นว่าอยากเห็นหน้าเหลนก่อนตาย
ในที่สุดทั้งปรินทร์และบุหงันก็สมความปรารถนา
มื้อเช้าวันนี้พราวฟ้าทำสุดฝีมือและมีความสุขกับการทำอาหาร เธอทำไปยิ้มไป บางครั้งก็เอามือลูบท้อง นุ่นที่เข้ามาเอาของในครัว เห็นพราวฟ้าก็ถึงกับงง ที่เห็นอีกฝ่ายอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว
“นุ่นจัดโต๊ะเลยนะ ฉันจะขึ้นไปดูคุณย่าก่อน” พราวฟ้าสั่งนุ่น
“ค่ะคุณทราย” คนสั่งเดินออกจากห้องครัว จุดหมายคือห้องนอนบุหงัน
เป็นประจำทุกวันหลังพราวฟ้าจัดเตรียมมื้อเช้าเสร็จ เธอจะขึ้นมาดูแลบุหงันในห้องนอน อรุณรู้กิจวัตรประจำวันลูกสะใภ้แสนชังดี นางจึงใช้เวลานี้ดำเนินแผนการ อรุณที่ยืนอยู่บนหัวบันไดชั้นบน ชะโงกหน้ามองพราวฟ้าที่กำลังเดินขึ้นมาก็รีบวิ่งไปยังห้องรับรองที่อยู่ใกล้กันทันที นางเปิดประตูห้องนั้นรอ และพยักหน้าอย่างรู้กันให้ทิวาทิพย์ เมื่อเห็นพราวฟ้าเดินถึงบันไดรองบนสุด อรุณเริ่มแผนทันที
“ตายแล้วโดม ลูกทำแบบนี้ได้ยังไง” เสียงอรุณดังลั่น ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี พราวฟ้ารีบเดินไปหาแม่สามี เมื่อได้ยินคำพูดอรุณ “แกทำแบบนี้ได้ยังไง เท่ากับหยามหน้าทรายเลยนะ”
ขณะเดินไปพราวฟ้าคิ้วขมวด นึกสงสัยคำพูดอรุณ เธอจึงรีบก้าวเดินไปยังห้องนั้น
และเมื่อรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น แล้วเห็นภาพบาดตาบาดใจเฉือนลึกความรู้สึก พราวฟ้าตะลึงงันสั่นเล็กน้อย ใบหน้าอาบไปด้วยความตกใจ น้ำตาร่วงลงมาทันใด สายตามองไปยังเตียงนอนที่มีร่างปรินทร์ที่เวลานี้ลุกขึ้นมานั่ง ท่าทางสลึมสลือ
ท่อนบนเขาเปล่าเปลือย...ท่อนล่างก็เช่นกัน
ส่วนอีกคนนั่งข้างปรินทร์ ทิวาทิพย์ใช้ผ้าห่มปิดบังร่างกายส่วนหน้าไว้ สภาพเนื้อตัวคงไม่ต่างกับเขา ความรู้สึกพราวฟ้าเวลานี้ ยิ่งกว่าความเจ็บปวดจากการถูกอรุณทำร้าย มันฝังแน่นในหัวใจชอกช้ำของหญิงสาวที่ถูกสามีนอกใจและนอกกาย
พราวฟ้าคิดผิดเรื่องเหตุผลที่ปรินทร์ไม่กลับบ้าน เขากลับแต่ไม่ได้ไปนอนในห้องนอน แต่มานอนห้องรับรองแทน ที่สำคัญเขาพาอีกคนมานอนด้วย ที่อื่นมีตั้งมากมายเป็นร้อยแห่งพันแห่ง ให้เลือกเสพรักเสพสม แต่ปรินทร์เลือกมีความสัมพันธ์กับทิวาทิพย์ที่นี่ ที่บ้านหลังนี้ บ้านที่มีพราวฟ้าอาศัยอยู่ด้วย
โอ้...ไม่อยากเชื่อเลยว่า ปรินทร์จะใจร้าย ใจดำเช่นนี้
คำพูดที่ว่า เขาไม่คิดกับทิวาทิพย์เกินเพื่อน ไม่ใช่เรื่องจริง เป็นคำเท็จที่หลอกล่อให้พราวฟ้าตายใจ เชื่อใจและไว้ใจเท่านั้นเอง
เขาเหยียบหัวใจเธอจนแหลกลาน จมพสุธา
เขาทรยศหักหลังเธออย่างเจ็บปวดที่สุด
หัวใจพราวฟ้าเหมือนถูกบีบ เธอเจ็บร้าวไปทั้งทรวง เลือดทะลักนองหัวใจบอบช้ำ พราวฟ้าส่งสายตาตัดพ้อ เสียใจ ผิดหวังไปยังปรินทร์ที่อยู่ในอาการตกใจระคนงง เมื่อเห็นสภาพตัวเองและทิวาทิพย์
“แกทำอย่างนี้ได้ยังไงโดม ทำได้ยังไง” เสียงอรุณแผดก้อง ใบหน้าเสแสร้งทำเป็นโกรธจัด เสียงของนางดังมากพอจะเรียกให้ปุริมกับบุหงันออกมาดู ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินมายังห้องรับรอง “ไหนตอบแม่มาสิว่า แกทำอย่างนี้ได้ยังไง ทำอย่างนี้ไม่ไว้หน้าทรายเลยนะ พาเปิ้ลมานอนกกนอนกอดที่บ้าน แถมยังเป็นห้องที่อยู่ติดกันอีก”
เหมือนเป็นคำพูดดี เหมือนเห็นใจพราวฟ้า ทว่าแฝงไว้ซึ่งประสงค์ร้าย อรุณปรายตามองหน้าพราวฟ้าที่อาบไปด้วยน้ำตาแล้วสะใจ
“ผม...ผม” ปรินทร์พูดไม่ออก ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
“เธอจะแผดเสียงดังทำไมอรุณ เกิดอะ...” บุหงันเดินมาถึงห้องรับรอง ยิงคำถามใส่ลูกสะใภ้ แต่ก็ต้องระงับเสียงแทบไม่ทันเมื่อเห็นหลานรักกับทิวาทิพย์อยู่บนเตียง “โดม...แกทำบ้าอะไร”
“เมื่อวานนี้เราสองคนไปกินข้าว ดูหนังแล้วไปนั่งดื่มกันต่อที่ผับค่ะ โดมเมา เปิ้ลเลยพามาส่งบ้าน จะพาไปนอนที่ห้องของโดม โดมก็ไม่ยอม ดันตัวเปิ้ลเข้ามาในห้องนี้ แล้วก็...เรามีอะไรกันค่ะ” ทิวาทิพย์พูดตามแผน “เปิ้ลพยายามห้ามโดมแล้วนะคะ แต่โดมไม่ฟังค่ะ และเปิ้ลก็ต้านแรงโดมไม่ได้ค่ะ”
เปรี้ยง...ราวกับมีสายฟ้าฟาดกลางใจพราวฟ้า พร้อมกับแส้ที่มีไฟลุกโชนฟาดซ้ำลงมานับสิบครั้ง พราวฟ้าไม่กลั้นความเสียใจ ไม่สะกัดอารมณ์ผิดหวัง เธอมองสามีที่ตื่นตะลึงกับคำบอกเล่าของทิวาทิพย์ หันมองคนพูดสลับกับมองหน้าภรรยา
“ฮือ...” พราวฟ้าไม่อาจทนอยู่ตรงนี้ได้ เธอวิ่งไปทันที ราวกับหนีความจริงอันแสนรวดร้าวใจ
“ทราย...ทรายเดี๋ยวก่อนทราย”
ปรินทร์เห็นพราวฟ้าวิ่ง เขาก็ทำท่าจะลงจากเตียง แต่ก็ทำไม่ได้เนื่องจากร่างกายไม่มีอะไรติดตัวสักชิ้น อีกทั้งทิวาทิพย์เกาะแขนเขาแจ เกาะแน่นมากไม่ต่างกับตีนตุ๊กแก
