บทที่ 14 หวังว่าจะจำในสิ่งที่เขียนไว้ได้
เมื่อมองสำรวจพี่สะใภ้ดีๆ จึงได้เห็นว่าชีวิตบ้านใหญ่ที่ไม่มีครอบครัวของนางให้คอยรับใช้ คงจะลำบากไม่น้อย เพราะจางเยว่คงไม่ยอมไปซักผ้าริมแม่น้ำหรือจะเข้าครัวทำอาหารอย่างแน่นอน
"โอวโยว อย่างเจ้ากับน้องรองนะหรือจะมีปัญญามาช่วยเยว่เออร์ของข้าเพิ่มสินเดิม แค่ไม่ขนกันมากินในงานก็ถือว่าช่วยข้าได้มากแล้ว" นางเอ่ยถากถางออกมาอย่างไม่ไว้หน้า
ชาวบ้านเริ่มจะหยุดมองอย่างสนุก เพราะข่าวที่บ้านกู้ส่งแม่สื่อมาขอหมั้นหมายเปลี่ยนตัวเจ้าสาวถือเป็นเรื่องสนุกปากของชาวบ้านอยู่แล้ว
"หากท่านพูดถึงเพียงนี้ ครอบครัวข้าคงไม่มีวาสนาได้ไปร่วมยินดีกับหลานสาวแล้ว" นางจินหรูแสร้งก้มหน้าอย่างเสียใจ
นางเกาหงเห็นชาวบ้านเริ่มกระซิบกระซาบต่อว่านางก็นึกโมโห
"หึ เจ้าจะเสแสร้งให้ใครดู อาซานกับเยว่เออร์รักใคร่กันมานานก่อนน้องรองจะทำทีเป็นช่วยพี่เหลี่ยงเสียอีก นังเด็กนั้นจะมาแย่งวาสนาของเยว่เออร์ของข้า แต่แล้วยังไงละ สวรรค์ก็เป็นใจ มิอาจพรากคู่ยวนยางได้" นางเกาหงเชิดหน้ากล่าวหาจางหมินที่วางแผนเข้าช่วยกู้เหลี่ยงเพียงเพื่อต้องการให้บุตรีของตนได้แต่งกับกู้ซาน
"พี่สะใภ้กล่าวเช่นนี้ก็มิถูก สามีข้ามิเคยเอ่ยปากขอให้อาซานต้องตบแต่งกลับจื้อเออร์ แต่เป็นพี่เหลี่ยงเอ่ยปากขอหมั้นหมายกับจื้อเออร์เอง แต่ท่านมิต้องห่วงจื้อเออร์ของข้าไม่แย่งวาสนานี้กับบุตรีท่านอย่างแน่นอน"
นางจินหรูตอกหน้านางเกาหง แถมยังลากครอบครัวกู้ออกมาตบ เรื่องลืมบุญคุณต่อหน้าชาวบ้านอีกด้วย นางเกาหงทำอะไรไม่ได้จึงสะบัดหน้ากลับบ้านไปทันที
เมื่อนางจินหรูกลับถึงบ้านทั้งสี่คนก็นั่งคุยกันถึงเรื่องที่ขอซื้อที่ดินเป็นไปด้วยดี หัวหน้าหมู่บ้านยังให้บุตรชายมาสร้างบ้านให้ด้วย โดยเขาจะหาแรงงานมาเพิ่มอีกหลายคนให้บ้านเสร็จทันหน้าหนาว
นางยังเล่าเรื่องที่เจอนางเกาหงระหว่างทางอีกด้วย
“หึหึ ปล่อยให้พวกเขาจัดการเรื่องนั้นเองเถิด หากพวกเจ้าเจอป้าสะใภ้ใหญ่อีก นางอยากกล่าวเช่นใดก็ปล่อยนางไป”
จางหมินมิได้สนใจคำพูดของพี่สะใภ้ตนนัก เพราะเขารู้ดีว่าพี่สะใภ้ไม่ได้ฉลาดสักเท่าใด หากนางอยากพูดสิ่งใดก็ให้นางพูด สิ่งที่นางพูดล้วนแล้วแต่ไม่เป็นผลดีกับชื่อเสียงของจางหวงและกู้ซานที่เป็นบัณฑิต
“ท่านพ่อ ตอนที่แยกบ้านท่านได้ทำเรื่องตัดขาดหรือไม่เจ้าคะ” ลู่จื้อกลัวว่าท่านลุงใหญ่จะให้ท่านย่ามาหาผลประโยชน์กับบ้านของนาง
“ท่านปู่ของเจ้าทำใจตัดขาดมิได้ เพียงแต่ให้ส่งเงินสองตำลึงกับธัญพืชยี่สิบจินทุกปี เพื่อแสดงความกตัญญู”
เมื่อลู่จื้อเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมานางจินหรูเลยแสดงสีหน้าเป็นกังวล จางหมินก็คิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน เพราะเขารู้ว่าพี่ชายของตนหูเบา และเห็นแก่ตัวเพียงใด
จางหมินจึงให้นางจินหรูหยิบสัญญาแยกบ้านออกมา ครั้งนั้นที่ทำหนังสือแยกบ้านเขาที่กำลังเสียใจจึงไม่ได้สนใจรายละเอียดในหนังสือให้ดี
นางจินหรูส่งสัญญาให้จางหมินอ่านความกังวลที่ทุกคนมีจึงเหมือนได้รับการปลดปล่อย เพราะหนังสือสัญญาจางเสียนระบุอย่างชัดเจนว่าทั้งสองบ้านเมื่อแยกบ้านกันแล้วจะไม่สามารถพึ่งพากันได้อีก ไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวยทั้งสองบ้านไม่อาจยุ่งเกี่ยวกันอีก
“หึหึ ดียิ่ง ข้าหวังว่าท่านลุงใหญ่จะจำสิ่งที่ตนเขียนลงไปเองได้” ลู่จื้อไม่ได้มีความกังวลกับคนพวกนี้นักหากวุ่นวายกันมากนางก็แค่จัดการสักเล็กน้อย
เมื่อไม่มีเรื่องใดแล้วลู่จื้อจึงชวนลู่เพ่ยไปที่ห้องของนางเพื่อมอบตำราฝึกการหายใจให้ แต่ลู่เพ่ยยังไม่สามารถเปิดจุดตันเถียนของตนได้ ลู่จื้อใคร่ครวญแล้วจึงพาลู่เพ่ยเข้าไปในมิติจิต
“จะ จะ จื้อเออร์ ที่นี่ คะ คือ ที่ใด” ลู่เพ่ยแทบพูดไม่ออก เขามองไปรอบๆ อย่างตื่นตกใจ เมื่อสงบสติได้ก็เริ่มวิ่งสำเร็จไปทั่ว ลู่จื้อส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันแน่
ลู่เพ่ยวิ่งไปสำรวจกระท่อมแล้วจึงได้เห็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ เขาใช้มือรองน้ำขึ้นมาดื่มเพราะวิ่งมาจนเหนื่อยจึงหิวน้ำ เมื่อดื่มเข้าไป ร่างกายก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง แถมร่างกายยังเบา เขาลองดื่มอีกครั้งก็พบว่าน้ำมีรสชาติอร่อยกว่าน้ำที่เขาเคยกิน
ลู่จื้อที่เดินมาถึงเห็นพี่ชายกำลังดื่มน้ำเข้าไปเยอะจึงเอ่ยถาม
“ท่านพี่ ท่านกำลังทำสิ่งใดน้ำมีสิ่งใดผิดปกติหรือ” เพราะตอนนี้พี่ชายของนางยังไม่เลิกรองน้ำขึ้นมาดื่มเลย
“น้ำในบ่อรสชาติดีมากจื้อเออร์” ลู่จื้อจึงเดินเข้าไปใกล้พี่ชาย
“หืออ ตัวท่านเหม็นมาก ไปตกบ่ออาจมมาหรือท่านพี่” ลู่จื้อถอยห่างอย่างรังเกียจ
“ข้าจะไปตกบ่ออาจมที่ใดได้ ข้าเพียงดื่มน้ำจากบ่อนี้” ลู่จื้อเลยเดินเข้าไปรองน้ำดื่มบ้าง
หรือน้ำบ่อนี้เป็นน้ำจิตวิญญาณอย่างที่มีอยู่ในนิยายที่นางเคยอ่าน แต่นางไม่คิดว่าในมิติของนางจะมีของวิเศษแบบนี้ หาจะเป็นที่นางเปิดจุดตันเถียนได้แล้ว สิ่งของในมิติจิตจึงค่อยๆ เริ่มปรากฏออกมา
“ท่านพี่ไปอาบน้ำก่อน คืนนี้พวกเราค่อยเข้ามาฝึก หากสิ่งที่ข้าคิดถูก น้ำบ่อนี้อาจจะช่วยให้ท่านพ่อเดินได้อีกครั้ง”
“เจ้าพูดจริงรึ” ลู่เพ่ยร้องถามออกมาด้วยความยินดี
“ไม่ลองก็ไม่รู้เจ้าค่ะ”
สองพี่น้องจึงออกไปด้านนอกก่อน ลู่เพ่ยไปอาบน้ำ ลู่จื้อนำน้ำออกไปให้บิดาได้ลองใช้ แต่นางยังไม่รู้ว่าจะให้บิดาใช้ยังไง นางเลยรอปรึกษาพี่ชายของนางก่อน
