บทที่ 4 เอาปลาไปขาย

ลู่จื้อขึ้นจากน้ำได้ก็นั่งลงกับพื้นหมดสภาพทันที ร่างกายนี้เหนื่อยง่ายเกินไปแล้ว

ลู่เพ่ยเห็นน้องสาวทั้งเปียกทั้งเหนื่อยจึงรีบพากลับบ้านทันที

“เดี๋ยวท่านพี่ ข้าขอเก็บผักริมแม่น้ำสักครู่” นางที่เห็นต้นหอม ตะไคร้ตั้งแต่แรกก็ไม่ลืมที่จะเก็บกลับบ้านเพื่อช่วยลดกลิ่นคาวของปลา

ลู่จื้อถึงบ้านก็รีบเข้าครัวทำอาหาร เพราะนางหิวจนจะเป็นลมอยู่แล้ว ลู่เพ่ยก็เข้ามาช่วยน้องสาวติดไฟย่างปลา ข้าวสารที่เหลือเพียงน้อยนิด นางจึงนำมาทำเป็นข้าวต้มปลา

อาหารมื้อนี้ของบ้านจางนับว่าดีที่สุดตั้งแต่ที่บิดาล้มป่วยลง

"ลู่จื้อ เจ้าจับปลาได้อย่างไร ปลาพวกนี้ว่ายน้ำเร็วยิ่งนัก" จินหรูถามบุตรสาวด้วยความสงสัย

“ท่านแม่ ข้าใช้จอมปลวกล่อมันเข้ามาในตะกร้าเจ้าค่ะ ตอนแรกข้าจะขุดหนอนในดิน (ไส้เดือน) แต่ข้าไม่มีแรงจะขุด" ลู่จื้อบอกวิธีหาปลาเพื่อให้ทุกคนไม่สงสัยมาก เพราะมันเป็นวิธีธรรมดาและไม่ได้มีของวิเศษจะสงสัยสิ่งใดได้

"ท่านพี่ ปลาพวกนี้ขายได้หรือไม่เจ้าคะ" วันนี้จับได้ตั้งหลายตัวหากแบ่งไปขายน่าจะพอซื้อข้าวสารมาติดบ้านได้

"ขายได้ ขายให้เหลาอาหารหม่านอี้ (พอใจ) หากยังไม่ตายได้ราคาดี"

นี้ยามซื่อ (09.00-10.59น.) ถ้าเดินเท้าไปขายในเมือง สิบลี้ ใช้เวลาครึ่งชั่วยาม (1ชั่วยาม=2ชั่วโมง) สภาพร่างกายก็ เห้อออ แต่ถ้าไม่ไปเย็นนี้ก็ไม่มีข้าวสารเหลือแล้ว

“พี่ใหญ่ ไปขายปลากันเถิดเจ้าค่ะ หากเรารีบเข้าเมืองไปขายก็จะกลับถึงบ้านก่อนตะวันตกดิน จะได้ซื้อข้าว แป้งสาลีเจ้าค่ะ” สองพี่น้องรีบกินข้าวแล้วรีบออกเดินทางเข้าเมือง

กว่าลู่จื้อจะลากสังขารถึงประตูเมืองก็แวะพักไปถึงห้าครั้ง จากที่เดินครึ่งชั่วยามก็กลายเป็นเกือบชั่วยามกว่าจะถึง ยังดีที่เจ้าเมืองคนใหม่งดเก็บค่าเข้าเมืองหนึ่งปี เพราะทั้งคู่ไม่มีเงินมากันเลยสักแดงเดียว

ค่าเงิน

1 อิแปะ, เหวิน = 1 เหรียญทองแดง

1 ก้วน = 1,000 อิแปะ /เหวิน/เหรียญทองแดง

1 ตำลึงเงิน = 1ก้วน (พวง)

1 ตำลึงทอง = 10 ตำลึงเงิน

เสี่ยวเอ้อหน้าเหลาอาหารหม่านอี้ เห็นสองพี่น้องใส่เสื้อผ้าปะชุนทั้งตัวก็ไม่ได้ไล่หรือแสดงสีหน้ารังเกียจ

“พี่ชาย ไม่ทราบว่าที่นี่รับซื้อปลาหรือไม่ ปลาของข้ายังไม่ตายนะเจ้าคะ” ลู่จื้อเสนอขายสินค้า

“รับ รับ พวกเจ้ารอประเดี๋ยว ข้ารู้เพียงราคาปลาที่ตายแล้ว หากปลาที่ยังไม่ตายต้องให้หลงจู๊ตีราคาให้”

เสี่ยวเอ้อหน้าร้านหายไปหนึ่งเค่อ (15นาที) ก็พาชายร่างท้วมดูรู้เลยว่ากินดีอยู่ดีมาด้วย

“ไหนปลาเจ้าที่ยังไม่ตาย ข้าขอดูหน่อย เอ่อ ข้าหลงจู๊หาน”

“คารวะหลงจู๊หานขอรับ/เจ้าค่ะ “

"ดี ดี ดี ปลาพวกเจ้าสมบูรณ์มาก ตัวใหญ่อีกด้วย ข้ารับซื้อชั่งละยี่สิบอิแปะ พวกเจ้าพอใจหรือไม่"

ชั่งละ 20 อีแปะ ปลา1ตัวหนักเกือบ 2 ชั่ง (1ชั่ง=1.2กิโลกรัม)

“พวกข้าพอใจเจ้าค่ะ” สองพี่น้องสบตากันไม่นึกว่าปลาเป็นจะขายได้ราคาดีเพียงนี้ แล้วทั้งคู่นำปลามาเกือบสิบตัว ไม่เสียแรงที่แบกมาขาย (พี่ชายเป็นคนแบกมา)

หลงจู๊ให้เสี่ยวเอ้อนำไปชั่งปลาหนักทั้งหมดยี่สิบสองชั่ง ได้เงินสี่ร้อยสี่สิบอิแปะ หลงจู๊หานให้มาสี่ร้อยห้าสิบอิแปะ แล้วยังย้ำว่าหากมีอีกให้ทั้งสองนำมาขายได้ตลอด

อย่าดูถูกเงิน 450 อิแปะเชียว ค่าแรงในเมืองวันละ 30อิแปะ ข้าวสารชั้นเลวจินละ 25 อิแปะ (1จิน=500กรัม) ข้าวสารชั้นดีจินละ 40 อิแปะ น้ำตาลสารจินละ 40 อิแปะ เกลือจินละ 50 อิแปะ แป้งสาลีจินละ 20 อิแปะ

สองพี่น้องรับเงินมาก็รีบไปซื้อข้าวสาร แป้ง ทันที เพราะกลัวจะกลับถึงบ้านมืด ลู่จื้อซื้อข้าวชั้นเลวสามจิน ชั้นดีสองจิน น้ำตาล เกลือ อย่างละจิน แป้งสาลีห้าจิน จ่ายไปทั้งสิ้นสามร้อยสี่สิบห้าอิแปะ ลู่เพ่ยถึงกับปาดเหงื่อ น้องสาวใช้เงินเก่งจริงๆ

ลู่จื้อเหลือเงินหนึ่งร้อยห้าอิแปะ จึงซื้อเนื้อหมูกลับบ้าน

“เถ้าแก่ เนื้อหมูขายอย่างไรเจ้าคะ”

“เนื้อหมูจินละยี่สิบอิแปะ มันหมูจินละสิบห้าอิแปะ เจ้าอยากได้แบบใดเล่า”

“ข้าขอเนื้อหมูสองจิน มันหมูสามจิน กระดูกขายเท่าใดเจ้าคะ”

“กระดูกสองท่อนนี้ ข้าไม่คิดเจ้าซื้อเยอะค่ายกให้แล้วกัน” กระดูกหมูส่วนมากเถ้าแก่จะเก็บไว้ให้สุนัข หากมีคนขอซื้อก็จะขายถูกๆ เพียงห้าอิแปะเท่านั้น

หากลู่จื้อนางรู้ว่านางได้แย่งกระดูกสุนัขกิน ไม่รู้จะทำหน้าออกมาเช่นไร

กว่าจะกลับได้ เงินก็เหลือเพียงยี่สิบอิแปะ ลู่เพ่ยกลัวลู่จื้อจะใช้จนหมดเลยลากน้องสาวกลับบ้าน เขาคิดตลอดทางกลับบ้านว่าพรุ่งนี้จะจับปลามาขายใหม่จะได้หาเงินมารักษาบิดา

สองพี่น้องถึงบ้านก็เป็นยามเซิน (15.00-16.59น.) ลู่จื้อหมดแรงไปเสียแล้ว ลู่เพ่ยเลยให้น้องสาวไปพักก่อน ตนเองนำของไปเก็บแล้วช่วยท่านแม่ทำอาหารเย็น

“พวกเจ้าซื้ออะไรมาเยอะแยะเพียงนี้” จินหรูเห็นของที่ลู่เพ่ยยกมาเก็บในครัวก็ตกใจ

“พวกข้าขายปลามาได้สี่ร้อยห้าสิบอิแปะ น้องสาวเลยซื้อของพวกนี้ ท่านแม่นี่เงินที่เหลือขอรับ ท่านเก็บไว้ พรุ่งนี้พวกข้าจะจับปลาไปขายอีก ท่านพ่อจะได้หาหมอเสียที” ลู่เพ่ยแจกแจงที่มาของเงินและน้องสาวคนดีที่ใช้เงินจนเหลือเพียงยี่สิบอิแปะเท่านั้น

“ขายได้มากถึงเพียงนี้ ดีๆ พ่อของเจ้าจะได้หายเร็วๆ” นางจินหรูยิ้มกว้างอย่างดีใจ เมื่อรู้ว่าบุตรชายบุตรสาวสามารถหาเงินมาได้ไม่น้อยเลย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป