บทที่ 2 สูญเสียและเริ่มต้น
“ฉันบอกแล้วว่าจะอธิบายให้เธอฟังทีหลัง เวลานี้เธอควรจะไปพักที่บ้านฉันเสียก่อน อยู่คนเดียวมันอันตราย เธอเองหน้าตาสะสวย คงมีพวกวัยรุ่นขี้ยาแถวนี้จ้องไม่น้อย ฉันเองไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับเธอเลย แค่อยากทำตามคำสั่งเสียของยายอิ่มก็เท่านั้นเอง” เขาพยายามอธิบาย
“คุณแน่ใจนะคะว่าไม่ได้เข้าใจผิดไป พวกคุณรู้จักยายจริงๆใช่ไหม?” หล่อนถามย้ำอีกครั้ง เพราะคำพูดเขามีเหตุผลมากทีเดียว หล่อนเองหวาดกลัววัยรุ่นแถวนี้ไม่น้อย พวกมันคอยแซวเวลากลับจากเรียนเสมอ ถ้าพวกมันรู้ว่าหล่อนอยู่คนเดียว อาจจะบุกมาเมื่อไหร่ก็ได้
“ใช่แล้ว ฉันรู้จักยายเธอดีแล้วก็รู้จักเธอด้วยศศิรญา”
ศศิรญามองคนพวกนั้นด้วยสีหน้าลังเล ก่อนตัดสินใจเดินตามพวกเขาไปเงียบๆ หล่อนมาถึงรถตู้สีขาว แล้วขึ้นนั่ง มันเคลื่อนไปตามเส้นทาง เวลาผ่านไปไม่นาน รถตู้คันใหญ่เลี้ยวเข้ามาภายในรั้วบ้าน รถจอดเทียบ หล่อนลงจากรถ แล้วกวาดสายตามอง ไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ ว่ายายรู้จักเศรษฐีร่ำรวยขนาดนี้ เริ่มหวั่นใจเสียแล้ว
“เชิญด้านในครับ” บอดี้การ์ดเขาบอกแล้วผายมือ หล่อนพยักหน้าแล้วก้าวตาม
หญิงสาวเดินไปตามทางหินอ่อน ที่ถูกขัดทำความสะอาดอย่างดีจนเป็นมัน สองเท้าก้าวเดินตาม และหยุดที่ห้องรับแขก ยืนหน้าห้องไม่กล้าก้าวเข้าไป มองเห็นชายชรา รออยู่ก่อนแล้ว
“เข้ามาสิ”
หล่อนก้าวเข้ามา แล้วทรุดลงพับเพียงกับพื้น ไม่อยากนั่งโซฟาราคาแพงให้เลอะ เกรงถูกตำหนิ
“นั่งบนโซฟาเสียสิ จะนั่งกับพื้นทำไม” ชายพิการบอก
“ค่ะ” หล่อนรับคำแล้วทำตาม
เขาช้อนสายตามอง แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ มันเป็นความรู้สึกสงสาร รู้สึกผิด และเสียใจ ทุกอย่างเป็นเพราะเขา ทำให้ศศิรญา พบชีวิตอันแสนอาภัพเช่นนี้
“ฉันชื่อธานุภาพ” ชายพิการยิ้มบางๆ ไม่อยากให้อีกฝ่ายเกร็ง “เธอคงสงสัยใช่ไหมว่าฉันพาเธอมาที่นี่ทำไม”
คนถูกถามพยักหน้าช้าๆ
“ยายอิ่มเป็นผู้มีพระคุณของฉัน ยายอิ่มเป็นคนช่วยชีวิตฉันไว้จากอุบัติเหตุ ฉันอยากจะตอบแทนยายอิ่ม แต่ยายอิ่มไม่ต้องการ จนกระทั่งยายอิ่มโทรมาหาฉัน และอย่างที่เธอเห็นยายอิ่มต้องการให้ฉันดูแลหลานสาวให้” ธานุภาพบอกความจริง ให้หญิงสาวฟัง
ริมฝีปากเม้มแน่น เพื่อกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา มือบางสั่นเทาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ทำไมยายไม่บอกสักคำ ว่าเป็นอะไร ทำไมยายถึงได้ใจร้ายแบบนี้
“เธออย่าโกรธยายเลยที่ไม่บอกความจริงกับเธอ เรื่องราวต่าง ๆ บางครั้งมันซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายได้ แต่สิ่งเดียวที่เธอควรรู้ศศิรญา ยายอิ่มรักเธอมาก”
หล่อนไม่อาจอดทนเก็บน้ำตาไว้ได้อีก ใบหน้าเรียวสวยก้มลง ไหล่มนสั่นเทา พยายามเก็บกลั้นเสียงสะอื้น แต่ไม่อาจกักเก็บหยาดน้ำตา ทำไมจะไม่รู้ว่ายายรักหล่อนมากเพียงใด แต่ที่ไม่เข้าใจทำไมยายต้องปิดบังด้วย รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ตอบแทนพระคุณ ที่ยายคอยเลี้ยงดูมา
ธานุภาพมองหญิงสาวด้วยความสงสาร หล่อนคงงเจ็บปวดมากกับการจากไปของยาย เพราะเหลือยายเป็นญาติเพียงคนเดียว เขาเองคงทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ หล่อนดูเป็นคนเรียบร้อย เจียมเนื้อเจียมตัวและหน้าตาสะสวย ดูสะอาดตา ชั่วขณะความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา หากศศิรญาเป็นสะใภ้คงดี เพราะเขาไม่อยากได้ผู้หญิงที่บุตรชายควงอยู่ด้วยทุกวันนี้
“ศศิรญา... ฉันต้องการให้เธอมาเป็นเจ้าสาวของลูกชายฉัน” ชายชราโพลงออกมา
หญิงสาวชะงักเงยหน้าสบตา ให้หล่อนเป็นเจ้าสาวลูกชายของเขา เป็นไปไม่ได้หรอก เราสองคนไม่รู้จักกันเสียด้วยซ้ำไป
“หมายความว่ายังไงคะ?” หญิงสาวถามด้วยสีหน้ากังวล
“ก็อย่างที่ฉันบอก ฉันต้องการให้เธอแต่งงานกับลูกชายของฉัน”
“คงไม่ได้หรอกค่ะ ญา... ยังไม่พร้อม แล้วอีกอย่างงานศพยายญาก็ยังไม่ได้จัดการอะไรเลยค่ะ” หล่อนรีบปฏิเสธ
ไม่อยากให้เขาเสียความรู้สึก เหตุผลสำคัญคือนิสัยใจคอบุตรชายคุณธานุภาพเป็นเช่นไรนั้นหล่อนไม่รู้ เขาอาจไม่ชอบให้ถูกบังคับก็ได้
“ฉันไม่ได้ให้เธอแต่งตอนนี้สักหน่อย ให้เธอได้เจอกับเจ้าธานต์เสียก่อนแล้วทำความรู้จักกัน ตอนนั้นค่อยแต่งกันก็ได้”
ศศิรญารู้สึกใจชื่นขึ้นมาเล็กน้อย แต่อย่างไรหล่อนก็ไม่อยากแต่งงานกับบุตรชายเขา ในความคิดบางทีชายคนนั้นอาจคิดว่าหล่อนหมายจะจับเพราะฐานะทางบ้านเอาเสียมากกว่า แต่ทว่าหล่อนก็ไม่กล้าเอ่ยปากปฏิเสธในตอนนี้ ให้คุณธานุภาพรู้เองดีกว่า ว่าตัวหล่อนและลูกชายของเขาเข้ากันไม่ได้
“ค่ะ คุณธานุภาพ” หล่อนรับคำเสียงแผ่ว
“ต่อไปนี้ก็อยู่ที่นี่ให้สบายใจเถอะนะ มีเรื่องอะไรก็บอกฉันได้ไม่ต้องเกรงใจ”
“ค่ะ”
หล่อนมองคุณธานุภาพด้วยความซึ่งใจ งานศพยายเขาช่วยดูแลให้เรียบร้อยแล้ว แถมยังให้อยู่อาศัยในบ้าน คงไม่มีใครใจดีกับหล่อนเช่นนี้อีกแล้ว
“ตอนนี้ไปพักผ่อนเถอะศศิรญา เดี๋ยวจะให้สอางค์มันพาไปก็แล้วกันนะ”
สอางค์สาวใช้เก่าแก่ประจำบ้าน รีบเดินออกมาตามเสียงเรียกของธานุภาพ สาวใช้ก้าวนำหล่อนสู่ชั้นบนของบ้าน
“ห้องนี้ล่ะค่ะ ที่เป็นห้องของคุณ” สาวใช้บอก
“ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวบอกแล้วยกมือไหว้
“โอ้ย! คุณคะไม่ต้องมาไหว้สอางค์หรอกค่ะ สอางค์เป็นแค่คนใช้”
“คนใช้ก็คนค่ะ ญายกมือไหว้เพราะพี่สอางค์อายุมากกว่าญาค่ะ อย่าคิดมากเลยญาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสูงส่งกว่าใคร และต่อให้พี่ห้ามญาไม่ให้ไหว้พี่ยังไงญาก็จะไหว้อยู่ดีละคะ” ศศิรญาบอกความคิดตัวเองกับสอางค์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
สอางค์นึกพอใจในตัวหญิงสาว พอรู้มาว่าเจ้านายของบ้านต้องการอุปการะผู้หญิงคนนี้ แถมยังหมายมาดตำแหน่งว่าที่สะใภ้ หล่อนคิดว่าบางทีอาจหยิ่ง แต่ที่ไหนได้กลับเรียบร้อย รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน หากเป็นนายคนใหม่คงใจดีกับคนใช้อย่างพวกหล่อน
“งั้นสอางค์ขอตัวก่อนนะคะ”
“จ้ะ”
